ไว้ใจธนาคาร นำบ้าน ที่ค้ำประกันOD จนท.ยักยอกเงินเสีย ธนาคารบอกเรื่องส่วนตัว

สามีภรรยาสุดเซ็ง ไว้ใจธนาคาร นำบ้านพร้อมที่ดินค้ำประกันOD ถูกเจ้าหน้าที่ธนาคารยักยอกเงินเสียหายหลายแสน แต่ธนาคารกลับแจ้งว่าเป็นเรื่องส่วนบุคคล ธนาคารไม่เกี่ยว เป็นการสมยอมกัน

9 มิถุนายน 2565 นางพิชาวีย์ และนายนพดล ยอดชาญ สามีภรรยา อยู่เลขที่ 273 หมู่ 17 ต.หนองโก อ.กระนวน จ.ขอนแก่น ได้แสดงเอกสาร เกี่ยวกับการถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายสินเชื่อธนาคารออมสิน สาขากระนวน ปลอมแปลง ทั้งใบเสร็จรับเงิน ที่อยู่ในเสตทเม้นท์ (รายละเอียดในการฝากถอน) สำเนาการแจ้งความดำเนินคดี สภ.กระนวน พร้อมกับเปิดคลิปเสียงในการสนทนาในการทวงถามเงินกับ ผจก.ธนาคาร

นายนพดล เผยว่า ตนเองกับภรรยา ประกอบธุรกิจค้าขาย และเปิดฟาร์มเลี้ยงหมู ขนาดเล็ก ในอำเภอกระนวน เมื่อปี 2561 ได้นำเอาที่ดินพร้อมบ้านเข้าธนาคารเพื่อเปิด OD เสริมสภาพคล่อง วงเงิน 900,000 บาท ในการเบิกเงินแต่ละครั้งเป็นหลักแสนขึ้นไป โดยได้ไว้ใจเจ้าหน้าที่ธนาคาร คือนางตรีระนุช สมประสพสุข เจ้าหน้าที่ฝ่ายสินเชื่อ เป็นผู้ดูแลบัญชี ซึ่งในช่วงปี 61-64 เจ้าหน้าที่ธนาคารคนดังกล่าวจะเข้ามาขอยืนเงินที่บ้านจำนวน 3,000 บาท ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจว่าเจ้าหน้าที่ธนาคารทำไมต้องมายืมเงินลูกค้าด้วย

จากนั้นเจ้าหน้าที่คนเดิมก็เข้ามาออกอุบายว่า แม่ของเขาจะโอนเงินมาให้แต่ไม่อยากให้สามีรู้ขอให้เข้าบัญชีตน ตนเองก็ไม่ได้ว่าอะไร และต่อมาได้มาขอเงินที่บ้านว่าจะต้องจ่ายเงินค้ำประกันเงินกู้โดยนำเช็คเปล่ามาให้เซ็น ตนเองก็เซ็นไป โดยที่ไม่ได้ลงจำนวนเงิน ซึ่งเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวบอกว่า ยังไงเงินก็เข้าบัญชีอยู่แล้ว

ต่อมาเรื่องจึงแดงขึ้นในวันที่ 15 ธ.ค. 64 ตนตรวจสอบบัญชีพบว่า เงินจำนวน 300,000 บาทได้หายไปจากบัญชี และเงินสดที่มารับที่บ้านอีก รวมเป็นเงิน 420,000 บาท โดยที่เงินจำนวน 50,000 บาทได้ถูกเบิกออกจากบัญชี และเงินก้อนดังกล่าวก็ถูกฝากเข้าบัญชีอีกครั้ง แต่ละครั้งบัญชีจะถูกเบิกเป็นจำนวนหลักหมื่น ตนเองจึงได้สอบถามไปยังเจ้าหน้าที่คนดังกล่าว จึงทราบความจริงว่าเขาเป็นคนยักยอกไป พร้อมกับเข้ามาร้องไห้ต่อหน้าว่าจะหาเงินมาคืนให้

จากนั้นได้นำเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดไปแจ้งให้ผู้จัดการธนาคารทราบ พร้อมกับได้ประชุมหาข้อตกลงร่วมกัน ซึ่ง ผจก.อ้างว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นความผิดส่วนบุคคล ธนาคารไม่เกี่ยว เป็นการสมยอมกัน สร้างความแปลกใจให้ตนเป็นอย่างมาก จึงได้เข้าไปร้องเรียนยังสำนักงานใหญ่ที่ในเมืองขอนแก่น

ต่อมาทาง ผจก.ธนาคารได้เรียกเข้าไปไกล่เกลี่ยในที่ประชุม ได้ข้อตกลงว่า ให้เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวแบ่งจ่าย เบื้องต้นได้เงินมา 100,000 บาท และตกลงกันว่า เดือนพฤษภาคม เงินโบนัส 100,000 บาท งวดสุดท้าย เดือนกรกฎาคม เงินกู้ของเจ้าหน้าที่ พร้อมดอกเบี้ย เดือนละ 3,000 บาท

หลังจากที่ตกลงกันแล้ว ทางเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวได้หายเงียบไป ตนจึงได้เข้าแจ้งความที่สภ.กระนวน พร้อมกับโทรศัพท์สอบถามไปที่ ผจก. ว่าเงินโบนัสออกหรือยัง ซึ่ง ผจก.บอกว่าออกแล้ว แต่ตนก็ยังไม่ได้เงิน ซึ่งแสดงว่าผิดสัญญากัน และอีกอย่างตนยังคลางแคลงใจว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตนว่าเป็นเรื่องส่วนตัวทั้งที่เงินก็อยู่ในธนาคาร ดังนั้นตนจึงได้เข้าร้องกับสื่อมวลชน และร้องให้ธนาคารรับผิดชอบเงินทั้งหมด ส่วนเรื่องของพนักงานให้จัดการกันเอง.

แสดงความคิดเห็น