ขอนแก่นพัฒนาเมือง (KKTT) มอบ KGO หรือ เหรียญดิจิทัลขอนแก่น ล้านเหรียญให้เทศบาลนครขอนแก่น นำร่องแจกให้ชุมชนเมืองใช้เป็นส่วนลดซื้อขายสินค้าและบริการ 4 องค์กรร่วมทำบันทึกข้อตกลง ขับเคลื่อนโครงการขอนแก่นเรียนรู้สู่การพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล
เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 9 มิถุนายน ที่โรงแรมห้องฉัตรทันต์ โรงแรมพูลแมน ราชาออคิด จังหวัดขอนแก่นได้มีการทำพิธีลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ว่าด้วยการขับเคลื่อนโครงการยกระดับการเรียนรู้สู่การพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล โดยใช้ KGO (Knowledge Governance) TOKEN หรือ เหรียญดิจิทัลขอนแก่น ระหว่างบริษัทขอนแก่นพัฒนาเมือง และเทศบาลนครขอนแก่น โดยการสนับสนุนของหน่วยบริหารและจัดการทุนระดับพื้นที่ (บพท.)
ทั้งนี้มีผู้เข้าร่วมลงนามประกอบด้วย รศ.ดร.ศุภวัฒนากร วงศ์ธนวสุ รักษาการผู้อำนวยการฝ่ายสนับสนุนทุนวิจัยนวัตกรรม โปรแกรมที่ 15 หน่วยบริหารจัดการทุนระดับพื้นที่ (บพท.) นายสุรเดช ทวีแสงสกุลไทย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทขอนแก่นพัฒนาเมือง (เคเคทีที) จำกัด นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น นายกังวาน เหล่าวิโรจน์กุล กรรมการกลุ่มบริษัทอินฟินิทแลนด์ โฮลดิ้ง จำกัด และนายครรชิต อุนาสิงห์ กรรมการบริษัทขอนแก่นซิตี้บัส จำกัด
และหลังจากลงนามในข้อตกลงแล้ว นายกังวาน เหล่าเหล่าวิโจน์กุล ได้มอบเหรียญ KGO จำนวน 1 ล้านเหรียญให้แก่นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธ์ นายกเทศมนตรี เพื่อให้นำไปมอบให้แก่ประชาชนใช้สำหรับการเป็นส่วนลดสำหรับการใช้จ่ายกับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการในเขตเทศบาลนครขอนแก่นต่อไป
นอกจากนี้ยังมีการเปิดกิจกรรมขึ้น “ซิตี้บัส บาทเดียว” โดยใช้เหรียญ KGO 50 เหรียญ บอกเงิน 1 บาท ได้โดยเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน ถึง 31 สิงหาคม 2565 โดยสามารถลงทะเบียนครั้งแรกได้ที่ https//app.kgotoken.com เมื่อสมัครครั้งแรกจะได้รับ 100 เหรียญ เมื่อทำภารกิจตามเงื่อนไขจะได้รับเพิ่มเป็น 400 เหรียญ รวมทั้วจะมีโอกาสได้รับจากกิจกรรมต่างๆของเทศบาลนครขอนแก่นตลอดทั้งปี โดยนำไปใช้และรับเพิ่มในร้านค้ากว่า 200 ร้านที่เข้าร่วมเบื้องต้นและจะมีร้านค้าและบริการเพิ่มเติมอีกในอนาคต
รศ.ดร.ศุภวัฒนากร วงศ์ธนวสุ รักษาการผู้อำนวยการฝ่ายสนับสนุนทุนวิจัยนวัตกรรม โปรแกรมที่ 15 หน่วยบริหารและจัดการทุนระดับพื้นที่ (บพท.) เปิดเผยว่า บพท.เป็นหน่วยสร้างการเปลี่ยนแปลงโดยใช้ทุนวิจัยโดยอาศัยความร่วมมือจากภาคส่วนต่างๆ ภาครํฐ ภาคเอกชน ภาควิชาการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประชาสังคมฯ
“การขับเคลื่อนได้เกิดรูปธรรมเป็น บริษัทพัฒนาเมือง โดยขอนแก่นเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญ และขยายออกไปมากกว่า 20 เมือง และมีอีกหลายเมืองที่อยู่ระหว่างดำเนินการตามแบบขอนแก่น ซึ่งเราบอกว่าจะต้องหาวิธีพูดคุยกันก่อน เราเป็นต้นแบบและตัวอย่างของหลายเมือง”รศ.ดร.ศุภวัฒนากรกล่าว
รศ.ดร.ศุภวัฒนานากร กล่าวอีกว่า นอกจากประสานความร่วมมือแล้ว ยังมีเรื่องการะดมทรัพยากรในการพัฒนา เมือง ขอนแก่นก็ถือเป็นตัวอย่างการขับเคลื่อนที่เป็นรูปธรรม แต่ยังมีโจทย์ที่สำคัญ คือ คน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญและเป็นศูนย์กลางของการพัฒนา เราจะต้องสามารถทำให้คนในพื้นที่ลุกขึ้นมา นอกจากรวมกลุ่มแล้วยังทำให้ทุกคนได้มีโอกาสได้เข้าถึงทรัพยากรอย่างทั่วถึงและเป็นธรรมสำหรับโอกาสของตนเอง
“แนวคิดเรื่องเมืองแห่งการเรียนรู้จึงเกิดขึ้น คนเมืองได้เรียนรู้เรื่องของตนเอง เพราะเราเชื่อว่า เรามีคนดี คนเก่ง ในเมืองนำเอาสิ่งที่มีอยู่ออกมา กระตุ้นให้เกิดการลงทุน กระตุ้นให้เกิดความร่วมมือ เราคาดหวังว่าเมื่อเรียนรู้เรื่องเมืองของตนเอง จะทำให้เกิดเศรษฐกิจใหม่ อาชีพใหม่ ซึ่งหนีไม่พ้น เศรษฐกิจดิจิทัล หรือ วิถีออนไลน์ที่อยู่ในวิถีชีวิตและมาอยู่ในชีวิตประจำวัน”รศ.ดร.ศุภวัฒนากรกล่าว
รศ.ดร.ศุภวัฒนากรกล่าวอีกว่า ยุคดิสรัปชั่นที่มีอัตราเร่งที่เร็วมาก ทั้งจากการระบาดของโควิด 19 และการพัฒนาเทคโนโลยีที่รอดเร็ว เราจะบริหารสิ่งที่เป็นโอกาสทำให้คนได้รับการกระตุ้นหล่อหลอมภายใต้โครงการเมืองแห่งการเรียนรู้ ที่ได้วางพื้นฐานดิจิทัลให้คนได้เรียนรู้ให้คนเข้าใจ ส่วนเรื่องการสร้างโครงสร้างพื้นฐานให้เป็นหน้าที่ของรัฐ
“ขอนแก่นพัฒนาเมือง เป็น Think Tang ของเมือง การจูงใจให้คนใช้ขนส่งสาธารณะ เชื่อมโยงกระตุ้นกับการเปิดเมือง ได้เพื่อนได้สุขภาพ และยังได้ยูทินิตี้โทเคน ซึ่งนักวิจัยจะได้ดำเนินการ เชื่อมโยงกับเทศบาลนครขอนแก่น ซึ่งเป็นต้นแบบหลายเรื่องของเทศบาลในประเทศไทย”
อินฟินิทแลนด์ ที่ไม่จำกัดที่ดิน จากเดิมที่เป็นการจำกัดที่ดิน เป็นอย่างไร เป็นสิ่งที่จะต้องสร้างความรู้ความเข้าใจ ในการขับเคลื่อนของพลเมือง ที่ไม่ใช่ของขอนแก่นเท่านั้น แต่เป็นของเมืองต่างๆ เป็นโครงการที่น่าสนใจ และเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญ การขับเคลื่อนและยกระดับการเรียนรู้เศรษฐกิจดิจิทัล
รศ.ดร.ศุภวัฒนากร กล่าวว่า ความร่วมมือที่เกิดขึ้นในวันนี้จะทำให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจของคลื่นแห่งการพัฒนาละยุค จนถึงยุคปัจจุบัน ภายใต้เศรษฐกิจดิจิทัล ใครเห็นโอกาสก่อนได้เปรียบแต่เห็นโอกาสแล้วไม่ทำก็ไม่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง เมื่อเราเห็นโอกาสเราจะได้ขับเคลื่อนเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงโดยทุกภาคส่วน
นายสุรเดช ทวีแสงสกุลไทย ประธานบริษัทขอนแก่นพัฒนาเมือง กล่าวว่า ขอนแก่นพัฒนาเมืองมีนโยบายในการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล ที่ผ่านมาโครงการสมาร์ทซิตี้ โครงการรถไฟฟ้าระบบรางเบา เราขับเคลื่อนไปได้ดีระดับหนึ่ง เป้าหมายของบริษํทขอนแก่นพัฒนาเมือง เราไม่ได้ทำเพื่อตนเอง เรามีเป้าหมาย 3 ประการ คือ แก้จน ลดเหลื่อมล้ำ สร้างความโปร่งใส ที่เราดำเนินการมาต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตามเศรษฐกิจเป็นฟิกซิเคิล (physical) คนตัวเล็กไม่สามารถลืมตาอ้าปากได้ ขอนแก่นพัฒนาเมืองมี แนวคิดการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในโลกคู่ขนาน เราเรียกเศรษฐกิจดิจิทัล เราเปิดตัวกลุ่มบริษัทใหม่ เป็นบริษัทลูกหรือบริษัทร่วมทุน ที่ขอนแก่นพัฒนาเมืองได้นำเงินเข้าไปร่วมลงทุน
นายสุรเดชกล่าวว่า เทคโนโลยีบล็อกเชนได้เกิดขึ้นแล้ว และไม่ได้เป็นเสริมเศรษฐกิจ แต่เป็นการทำสิ่งใหม่ ใครเห็นก่อนทำก่อนอยู่สามารถก้าวมาอยู่แนวหน้า บริษัทอินฟินิทแลนด์โฮลดิ้ง เราจัดตั้งแต่ทำเพื่อท้องถิ่น ในโครงการมีมี เหรียญ KGO ที่กกต.อนุญาตให้เรานำมาใช้ได้แล้ว และบพท.ให้ทุนเราทำทำวิจัย “ขอนแก่นเลินนิ่งสมาร์ทซิตี้” ทำเรื่องเศรษฐกิจดิจิทัล โดยมีเทศบาลนครนครขอนแก่น เป็นหน่วยงานแรกของประเทศไทย ที่จะใช้ Token
“คณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน(กรอ.)เพื่อการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ได้ให้การเห็นชอบแล้ว รอเพียงมีการบันทึกว่ามีหนังสือคณะกรรมการหลักทรัพย์และกำกับตลาดหลักทรัพย์ (กลต. )มาถึงจังหวัดก็จะดำเนินการทันทีเราจะผลักดันให้ส่วนราชการและอบจ.ขอนแก่นได้ร่วมกันใช้”นายสุรเดชกล่าว
นายสุรเดชกล่าวอีกว่า เรื่องนี้เข้าใจยากแต่เราจะช่วยให้ขอนแก่นได้เรียนรู้ให้ประชาชนเข้าใจว่า เรามีโลกคู่ขนาน ทำมาหากินได้จริง ขณะนี้บริษัทอินฟินิทแลนด์ ได้เป็นตัวแทนบริษัทซอฟทแวร์ในระดับโลกไปแล้ว เราสามารถช่วยคนตัวเล็ก ตัวน้อยได้ และเราจะอธิบายว่าวิธีการใช้งานเป็นอย่างไร “อีโคซิสเทม” หรือสภวะแวดล้อมในการใช้งานจะต้องเป็นอย่างไรโดยเราจะทำคลิปวิดิโอสั้นๆอธิบาย
นายกังวาน เหล่าวิโรจน์กุล กรรมการบริษัทขอนแก่นอินฟินิทแลนด์โฮลดิ้ง หัวหน้าโครงการขอนแก่นเลินนิ่งซิตี้ ระยะที่ 2 กล่าวว่า บริษัทขอนแก่นพัฒนาเมืองได้ร่วมกับคนรุ่นใหม่ของจังหวัดขอนแก่น ได้ใช้บล็อคเชน เป็นธุรกิจคู่ขนาน โดยในส่วนแรกคือ “อินฟินิทแลนด์ โทเคน” เป็นเหรียญแห่งการเรียนรู้ ทื่บพท.ให้ทุนสนับสนุน ในการสื่อสารที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจดิจิทัลให้ประชาชนผู้ใช้งานและร้านค้าประกอบเศรษฐกิจในพื้นที่ได้รู้จัก “บล็อกเชน”อย่างง่าย ๆด้วยการเรียนรู้การใช้งานเหมือนคะแนนสะสม และแลกส่วนลด
“เป็นธุรกรรมที่ทำอยู่แล้วแต่เราเอาบล็อคเชน มาใช้ให้เกิดประสิทธิภาพ ความปลอดภัย เราไม่ต้องการให้ประชาชนเริ่มด้วยการเทรดหรือซื้อขายเก็งกำไรเหรียญ เราให้แก่ศิลปินหรือ ต่อมาคือ อินฟินิทแลนด์ เอ็นเอฟที และเกม ซึ่งเป็นฐานของบล็อกเชน”นายกังวานกล่าว
นายกังวานกล่าวอีกว่า เราจะได้นำมาใช้ประโยชน์ในการแก้จุดด้อย นำเอาภาพมาประกอบกับเหรียญ ให้เกิดการซื้อขายได้และมีการผูกสมาร์ทคอนแท็ค สร้างมูลค่าให้กับเจ้าของงานศิลปะ ที่ผ่านมาศิลปินขายงานแล้วจบ แต่หลังจากนี้ รายได้จะเกิดขึ้นและตกแก่ลูกหลานได้ด้วย รูปภาพ หรืองานศิลปะเป็นรายได้คู่ขนาน เรามีหน่วยงานที่จะรวบรวมศิลปินให้เกิดการเรียนรู้เพื่อให้เกิดความเข้าใจ
“อินฟินิทแลนด์โฮลดิ้ง เมทาเวิดล์ เรามีพาร์ทเนอร์เป็นบริษัทชั้นนำระดับโลก มีประสบการณ์เราสามารถสร้างโลกเสมือนจริงให้อยู่ร่วมกันและสามารถอยู่ร่วมกันได้จริง สร้างการเรียนรู้และส่งต่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชน”นายกังวานกล่าว
นายธีระศักดิ์ ฑีฆายพันธุ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น กล่าวว่า ตนเคยไปเมืองจีนเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ซื้อของไม่ต้องใช้เงิน ตอนนั้นเมืองไทยยังไม่มี เขาไปเร็วมาก เป็นเศรษฐกิจดิจิทัล และเมืองไทยก็เปลี่ยนแปลงแบบไปไม่รู้ตัว เราใช้แอพพิเคชั่นคนละครึ่ง ร้านค้าไหนไม่ใช้ก็เหงาไม่มีลูกค้า จะยกเว้นร้านค้าที่ขายดีจริงๆ ร้านค้าที่ไมใช้แอพพลิเคชั่นก็จะลำบาก เราไม่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ และ“บล็อกเชน” ก็เป็นเรื่องความปลอดภัยของข้อมูล
“เศรษฐกิจดิจิทัลมีผลกระทบกับวิถีชีวิต ถ้าเราไม่เข้าร่วมเราจะเสียโอกาสและเมื่อเราเข้าไปแล้วเราจะได้โอกาสอะไรเป็นหน้าที่ของเทศบาลฯที่เราจะให้เกิดการเรียนรู้เพื่อสร้างโอกาส เราต้องตอบคำถามให้คนที่ใช้ว่าเขาจะได้อะไรเราอยู่ในโลกดิจิทัลเราจะทำอย่างไรจะไม่เสียโอกาส”นายธีระศักดิ์กล่าว
นายธีระศักดิ์ กล่าวว่า เด็กรุ่นใหม่ มีคอมพิวเตอร์ตัวเดียวก็สามารถขายให้คนทั่วโลกได้แล้วไม่ต้องซื้อสินค้ามาสต็อค ไม่ต้องจ้างคน ซึ่งเป็นวิถีใหม่สำหรับคนค้าขายและตั้งตัว ตนไปอบรมสมาร์ทซิตี้ ไปพบคนกรุงเทพฯถามว่า ขอนแก่นมีอะไรดี ทำไมเด็กกรุงเทพฯนี้ถึงอยากมาขอนแก่น เป็นเสน่ห์ที่เราไม่เคยรู้
เมื่อโลกเปลี่ยน ประเทศไทยเปลี่ยน ขอนแก่น ต้องเปลี่ยนไม่ใช่เมืองแต่หมายถึงคน ถ้าจะค้าขายอาหารจะต้องมีตลาดมีของ และต้องดูว่าฝนจะตกหรือไม่ ของจะเสียหายหรือไม่ ขายอาหารเหมือนกันแต่ความเสี่ยงเหมือนกัน นี่คือ เศรษฐกิจดิจิทัล เราจะต้องสร้างโอกาสที่ได้เปรียบ
นายธีระศักดิ์ กล่าวว่า กระบวนการที่เราจะทำคู่ขนาน คือสร้างกระบวนการเรียนรู้ สร้างโอกาสในการขาย นอกจากสะดวก สร้างวินัย เมื่อเด็กมีวินัย มีวิธีคิดการจัดการทางการเงิน เราจะไม่ห่วงแต่หากจะให้เขาออมตอนนี้คงไม่มีเงินให้ออม เศรษฐกิจดิจิทัล มีบทบาทกับชีวิตประจำวันของคน เราปฏิเสธไม่ได้ แต่ว่าใครจะได้โอกาส เป็นหน้าที่ของเทศบาลที่จะต้องสร้างกระบวนการเรียนรุ้ให้เกิดขึ้น
………………………