ราษฎร 3 ต. โคราชยื่นหนังสือผู้ว่าฯ จี้ รฟท.ปรับแบบรถไฟเป็นตอม่อผ่านชุมชน

โคราชวุ่นไม่จบ ! ราษฎร 3 ตำบล อ.เมือง สู้ไม่ถอย ยื่นหนังสือผู้ว่าฯ จี้ รฟท.ปรับรูปแบบรถไฟเป็นตอม่อผ่านชุมชน คำสั่งลับห้ามใช้สื่อเสียงตามสาย อปท. พูดถึงโครงการ รบ.

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 13 มิถุนายน ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครราชสีมา นายประพจน์ ธรรมประทีป สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) นครราชสีมา อ.เมือง เขต 4 ในฐานะผู้ประสานงานชุมชน 3 ตำบล เขต อ.เมือง ประกอบด้วย ต.โคกกรวด ต.บ้านใหม่ และ ต.ในเมือง พร้อมนางมัณฑนา รามณัฎ ประธานกลุ่มพัฒนาชุมชน 3 ตำบล นายพัชกฤติ ศุภลักษณ์ เลขานุการกลุ่มพัฒนาชุมชน 3 ตำบลและผู้นำชุมชน

นัดรวมตัวเดินทางมายื่นหนังสือกับนายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ.นครราชสีมาและนายสมเกียรติ วิริยะกุลนันท์ รอง ผวจ.นครราชสีมา เรื่อง ชี้แจงเหตุผลการรวมตัวของประชาชน 3 ตำบล ร้องขอให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และรัฐบาลทบทวนพิจารณาปรับรูปแบบโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง กรุงเทพมหานคร-นครราชสีมาและรถไฟทางคู่ ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ จากคันดินเป็นตอม่อ ช่วงผ่าน 6 จุดตัดทางข้ามรถไฟตั้งแต่ ต.โคกกรวด ต.บ้านใหม่ สิ้นสุดที่เขตต่อ ต.ในเมือง

เป็นเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อช่วงสายวันที่ 5 มิ ย. ที่ผ่านมา ชาวบ้าน 3 ตำบล นัดรวมตัวสำแดงพลังยืนถือป้ายไวนิลความยาว 100 เมตร และป้ายผ้ายาว 20 เมตร บริเวณจุดตัดทางข้ามรถไฟบ้านเดื่อ หมู่ 8 ต.โคกกรวด อ.เมือง ในระหว่างนั้นได้มีขบวนรถไฟธรรมดา 234 สุรินทร์-กรุงเทพมหานคร มุ่งหน้าเข้าสถานีโคกกรวด

ขณะกำลังแล่นผ่านช่วงหลักเสาโทรเลขรถไฟที่ 240+978 ซึ่งเป็นบริเวณพื้นที่จัดกิจกรรม ได้มีชาวบ้านยืนอยู่บนทางรถไฟ ขบวนรถต้องหยุดรอประมาณ 5 นาที จากนั้นพระสงฆ์ 6 รูป ประกอบพิธีสวดหน้าไฟและจุดไฟเผาหีบศพ เขียนข้อความ “งานฌาปนกิจศพไอ้คันดิน 5 มิย.65 ” ต่อมาทั้งหมดได้เดินทางไปที่จุดตัดทางข้ามรถไฟบริเวณหน้าบุรีสีมา ต.บ้านใหม่ อ.เมือง ร่วมเวทีปราศรัยและเผาหุ่นฟาง ก่อนจะแยกย้ายเดินทางกลับที่พักด้วยความสงบเรียบร้อย

นางมัณฑนา ประธานกลุ่มพัฒนาชุมชน 3 ตำบล เปิดเผยว่า การร้องขอทั้งรัฐบาล คณะกรรมาธิการคมนาคมและ รฟท.ให้ปรับรูปแบบโครงการก่อสร้างทางรถไฟเดิมเป็นคันดินให้เป็นยกระดับตอม่อ ปรากฏไม่ได้รับคำตอบ จึงต้องจัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์แสดงออกถึงความเดือดร้อน

ซึ่งมีพี่น้องประชาชนกว่า 300 คน ร่วมกิจกรรมและมีจำนวนลงชื่อ 3,951 คน ยืนยันพวกเรามิได้ต้องการขัดขวางหรือก่อกวนให้เกิดความปั่นป่วนในสังคม แต่ข้อเท็จจริงหากทางรถไฟเป็นคันดินจะส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตในอนาคตอย่างหลีกเลี่ยงมิได้

ขณะนี้มีมือที่มองไม่เห็นอ้างคำสั่งจากผู้ยิ่งใหญ่ในบ้านนี้ เมืองนี้ห้ามใช้สื่อที่เป็นเสียงตามสายขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) กล่าวถึงปัญหาดังกล่าวและพูดถึงปัญหาโครงการของรัฐบาล เสมือนปิดหู ปิดตา ปิดปากประชาชนผู้เสียภาษี ไม่ให้รู้ข้อเท็จจริงทั้งด้านบวกและลบ

นายประพนธ์ ส.อบจ.นครราชสีมา เขต 4 อ.เมือง กล่าวว่า ต.บ้านใหม่ เป็นชุมชนชานเมืองขนาดใหญ่มี 12 หมู่บ้าน ประชากรกว่า 3 หมื่นคน โครงการบ้านจัดสรรจำนวน 15 แห่ง สถานศึกษา 9 แห่ง และที่ตั้งหน่วยงานราชการ

รูปแบบเดิมช่วงเส้นทางผ่าน ต.บ้านใหม่ เป็นคันทางระดับดิน 7.85 กม. ก่อนจะยกระดับเข้าสู่สถานีรถไฟนครราชสีมา ซึ่งคันดินสูงประมาณ 2 เมตร เปรียบเสมือนกำแพงกั้นไม่ตอบโจทย์ความสะดวก ความปลอดภัย เสมือนการแบ่งแยกชาวบ้านที่อยู่สองข้างทางรถไฟออกจากกันส่งผลต่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน

นายสม พงษ์ใหม่ ราษฎร ต.โคกกรวด กล่าวว่า การปิดจุดตัดทางข้ามรถไฟหากเกิดเหตุเพลิงไหม้จะเป็นอุปสรรคการไประงับเหตุของรถดับเพลิง เมื่อแบ่งแยกชุมชน วิถีชีวิตเปลี่ยน พระสงฆ์ สามเณรต้องเดินข้ามสะพานต่างระดับสูง 10 เมตร ระยะทาง 1 กิโลเมตร เพื่อรับบิณฑบาต การไปมาหาสู่ลำบากเสมือนถูกปิดกั้นความเจริญกลายเป็นเมืองอกแตก ในอนาคต พื้นที่ ต.โคกกรวด และ ต.บ้านใหม่ จะเป็นอ่างกระทะรองรับมวลน้ำที่ไหลมาทางทิศใต้ลงสู่ลำตะคอง ทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วมแน่นอน ขอบคุณรัฐบาลที่นำความเจริญมาให้แต่อย่าสร้างความเดือดร้อนมาให้พวกเรา

ด้านนายวิเชียร ผวจ.นครราชสีมา กล่าวชี้แจงว่า ตนมีความคิดเห็นในทิศทางเดียวกันกับประชาชน โดยต้องการให้ยกระดับผ่านทั้ง 3 ตำบล ตนได้พยายามติดตามและขับเคลื่อนรวมทั้งประสานงานมาต่อเนื่อง จนถึงขนาดนี้ยังไม่เคยได้รับคำตอบที่ชัดเจน จึงไม่สามารถตอบคำถามได้

ขณะนี้ทางจังหวัดได้จัดทำหนังสือร้องเรียนเสนอ รฟท.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในลำดับต่อไปพร้อมเปิดเวทีประชุมพิจารณาเสนอรูปแบบการแก้ไขปัญหาจราจรและเชิญคู่เห็นต่างมาพูดคุย เพื่อแสวงหาจุดร่วมที่ยอมรับได้กันทุกฝ่าย

 

แสดงความคิดเห็น