แฉซ้ำ!! ชาวบ้านข้องใจนายทุนขนดินถมที่ริมแม่น้ำโขงนับหมื่นเที่ยว อบต.สังคม อ.สังคม จ.หนองคาย ออกใบอนุญาตได้อย่างไรหลังไม่ได้ทำประชาคม ด้านเครือข่ายสื่อมวลชนหนองคาย กลุ่มรักษ์สิ่งแวดล้อมอำเภอสังคม และชาวบ้านในพื้นที่ข้องใจนายทุนทำผิดกฎหมายซ้ำซากแต่ไร้การดำเนินการเอาผิดจริงจัง วอน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบทุกขั้นตอนเพราะผิดกฎหมายชัดเจน สื่อตรวจสอบพบเจ้าของที่ดินเป็นบิ๊กคนมีสีระดับประเทศที่ซื้อที่ดินริมแม่น้ำโขงหลายสิบล้านบาทจากคนในพื้นที่ก่อนว่าจ้างนายทุนนำดินมาถม ชาวบ้านตั้งคำถามนายทุน คนมีเงิน มีอำนาจ สามารถทำอะไรผิดกฎหมายได้หมดใช่ไหมถึงไม่เร่งดำเนินการ
วันนี้ (27 ต.ค. 65) ภายหลังจากที่ ชาวบ้านหมู่ 2 ต.สังคม อ.สังคม จ.หนองคาย นำผู้สื่อข่าวเข้าสำรวจพื้นที่สาธารณะในพื้นที่ภายหลังถูกกลุ่มนายทุนที่รับเหมาถมดิน นำเครื่องจักรมาแผ้วถางเพื่อทำถนนโดยที่ชาวบ้านในพื้นที่ไม่ทราบเรื่อง
จากการตรวจสอบของผู้สื่อข่าวพบว่ามีการนำเครื่องจักรมาปรับขยายถนนเดิมให้กว้างขึ้น โดยมีการแผ้วถางขยายถนนทำให้ต้นไม้หวงห้ามหลายชนิดถูกโค่นทั้งไม้ประดู่ ไม้ยาง ฯลฯ เป็นระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตรจนถึงบ่อดินที่ขออนุญาตขุดกับทาง อบต.สังคมเพื่อให้รถบรรทุกสามารถขนดินจากบ่อดินจำนวน 4 แปลงเนื้อที่ 52 ไร่ ที่นายทุนได้ขออนุญาตขุดดินกับองค์การบริหารส่วนตำบลสังคม โดยเป็นการขออนุญาตขุดจากระดับดินเดิมลึก 6 เมตร กว้าง 40×40 ชำระค่าธรรมเนียม 4 ฉบับ ฉบับละ 500 บาท มี นายดิเรก นามมีชัย ที่อยู่ซอยอินทามาระ 59 แขวงรัชดาภิเษก เขตดินแดง กทม. เป็นผู้ขออนุญาต เพื่อนำดินมาถมในพื้นที่ริมแม่น้ำโขงบ้านผาแดง หมู่ 3 ต.สังคม อ.สังคม จ.หนองคาย
ชาวบ้านในพื้นที่ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่าการกระทำของนายทุนผิดกฎหมายชัดเจนเพราะการดำเนินการแผ้วถางทำถนนในพื้นที่ป่าสาธารณะต้องถามคนในหมู่บ้านก่อนว่าได้อนุญาตให้ดำเนินการหรือไม่ ถึงแม้จะไปขออนุญาตขุดดินอย่างถูกต้องกับ อบต.สังคม แต่เส้นทางที่จะขนดินไปถมที่ ต้องผ่านถนนสาธารณะ ชุมชน วัด ต้องทำประชาคมกับชุมชนให้ถูกต้อง โดยทราบว่ามีผู้นำชุมชนบางคนไปชี้ให้ผู้รับเหมาดำเนินการแผ้วถางเพื่อทำถนนได้เลย ซึ่งต้องให้ทางอำเภอสังคมตรวจสอบ หากพบมีส่วนเกี่ยวข้องต้องดำเนินการทั้งทางวินัย และทางกฎหมายอย่างเร่งด่วน
ทั้งนี้จากการตรวจสอบของสื่อมวลชนพบว่าที่ดินทั้ง 4 แปลงที่ขออนุญาตกับทาง อบต.สังคม มีหลักฐานการขออนุญาตถูกต้องตามระเบียบขั้นตอน แต่เส้นทางที่จะขนดินออกมานายทุนกลับไปดำเนินการแผ้วถางป่าเพื่อขยายถนนโดยชาวบ้านไม่รับรู้ด้วย ในส่วนของเจ้าของที่ดินที่ว่าจ้างนายทุนไปถมที่ก็ได้ซื้อที่ดินมาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนการดำเนินการที่ผิดกฎหมายเป็นส่วนของนายทุนและผู้ที่รับประสานงานในการว่าจ้างนายทุนมาถมดินที่ทำผิดกฎหมาย
โดยเมื่อวันที่ 17 ต.ค. 65 ที่ผ่านมามีความพยายามจะให้ชาวบ้านทำประชาคมต่อกรณีดังกล่าวเพื่อฟอกความผิดให้นายทุน เมื่อสื่อมวลชนทราบเรื่องจึงได้ขอเข้าร่วมรับฟังข้อเท็จจริงรวมทั้งชาวบ้านในพื้นที่ไม่เอาด้วย และได้ถูกยกเลิกในเวลาต่อมา ต่อกรณีดังกล่าวล่าสุด นายสมควร ใจซื่อ นายอำเภอสังคม ได้สั่งให้นายทุนหยุดดำเนินการขุดดิน ขนดินในทันที โดยพบรถบรรทุก และรถแบ็คโฮถูกจอดทิ้งไว้ทั้งในพื้นที่ขุดดิน และถมดินจำนวนหลายคัน
ต่อมากลุ่มนายทุนรับถมดินได้ไปเปิดบ่อดินที่บ้านผาแดง หมู่ 3 ต.สังคม ห่างจากจุดเดิมไม่ไกล โดยได้ไปขออนุญาตทำการขุดดินกับองค์การบริหารส่วนตำบลสังคมตามขั้นตอนกฎหมาย แต่ชาวบ้านในพื้นที่รวมทั้งสื่อมวลชนตรวจสอบแล้วพบว่าขั้นตอนการขออนุญาต อบต.สังคม อาจไม่มีอำนาจในการขออนุญาตในการขุดบ่อดินขนาดใหญ่ ทั้งขนาดความกว้าง ความลึก ความยาว ประกอบกับรถบรรทุกดินที่จะขนดินจะขันกันนับหมื่นเที่ยวชาวบ้านหวั่นกระทบสิ่งแวดล้อม ถนนพังเสียหาย ตามข่าวที่สื่อมวลชนได้นำเสนออย่างต่อเนื่องไปแล้วนั้น
ต่อมาเมื่อวันที่ 25 ต.ค. 65 ผู้สื่อข่าวได้เข้าพบ นายชาตรี รุณระวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลสังคม เพื่อสอบถามถึงการดำเนินการตามกฎหมายต่อกลุ่มนายทุนดังกล่าว โดยนายชาตรีได้เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้รวบรวมหลักฐานเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายแล้วสำหรับกรณีพื้นที่ หมู่ 2 ต.สังคม โดยไม่มีการละเว้นหากพบผู้ใดเกี่ยวข้อง ส่วนกรณีบ่อดินพื้นที่บ้านผาแดง หมู่ 3 ต.สังคม ได้ให้กองช่างตรวจสอบขั้นตอนการขออนุญาตทั้งหมดซึ่งหากพบทำผิดกฎหมายก็จะดำเนินการเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้เครือข่ายสื่อมวลชนจังหวัดหนองคาย ได้ตรวจสอบการถือครองที่ดินกับสำนักงานที่ดินจังหวัดหนองคายในพื้นที่ที่เจ้าของที่ดินให้กลุ่มนายทุนเข้าไปทำการขุดดินมาขายถมที่ริมแม่น้ำโขง พบว่าไม่สามารถให้ทำบ่อดินขนาดใหญ่ได้ และการขออนุญาตขุดดิน อบต.สังคม ก็ไม่มีอำนาจหน้าที่ในการออกใบอนุญาต เนื่องจากเป็นการทำบ่อดินขนาดใหญ่ อีกทั้งไม่ได้ทำประชาคมในหมู่บ้าน ซึ่งล่าสุดแขวงทางหลวงหนองคาย ได้เข้าตรวจสอบการบรรทุกดิน ขนดิน พร้อมกำชับให้ปฏิบัติตามข้อกฎหมายอย่างเคร่งครัด แต่เมื่อเจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงหนองคายออกจากพื้นที่นายทุนขนดินก็บรรทุกดินเกินน้ำหนักเช่นเดิม ทำให้ถนนพังเสียหาย เสี่ยงเกิดอันตรายต่อประชาชนที่สัญจรไปมา
สำหรับกรณีนี้เครือข่ายสื่อมวลชนจังหวัดหนองคาย กลุ่มรักษ์สิ่งแวดล้อมอำเภอสังคม และชาวบ้านในพื้นที่ ที่เกาะติดอย่างต่อเนื่องพบว่าหน่วยงานที่รับผิดชอบไม่มีการดำเนินการอย่างจริงจังในการตรวจสอบ จึงอยากเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงมาตรวจสอบดำเนินการตามกฎหมายอย่างจริงจังเพราะสิ่งที่เกิดขึ้นเสมือนนายทุนใหญ่กว่าประชาชนทั้งนี้ที่ดินริมแม่น้ำโขงที่นายทุนนำดินไปถมเป็นของบิ๊กคนมีสีระดับประเทศที่ซื้อจากคนในพื้นที่หลายสิบล้านบาท