ระหว่างวันที่ 13-16 ก.ค. 2562 หลักสูตรนิติศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชานิติศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์บูรณาการ มหาวิทยาลัยขอนแก่น วิทยาเขตหนองคาย ได้นำนักศึกษาระดับปริญญาโท หลักสูตร นิติศาสตร์มหาบัณฑิต ไปศึกษาดูงานแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกับทางด้านนิติศาสตร์ที่ University of Law ,Hue university เมืองเว้ ประเทศเวียดนาม ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่เปิดสอนทางด้านกฎหมายตั้งแต่ระดับปริญญาตรี โท และปริญญาเอก เป็น1ใน5แห่งในประเทศเวียดนามที่เปิดสอนทางด้านกฎหมาย
รศ.ดร.อภิรัตน์ เพชรศิริ คณบดีคณะสังคมศาสตร์บูรณาการ กล่าวว่า ทางคณะได้เปิดสอนสาขาวิชานิติศาสตร์ทั้งระดับปริญญาตรี และปริญญาโท ที่วิทยาเขตหนองคาย มีโอกาสได้ทำข้อตกลงร่วมกัน (MOU) กับทางคณะนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยเว้ ประเทศเวียดนามเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันทางด้านนิติศาสตร์ โดยช่วงเดือนกรกฏาคม 2562 ที่ผ่านมา ทางมหาวิทยาลัยเว้ก็ได้ส่งนักศึกษาและคณาจารย์28 คนมาศึกษาดูงานที่วิทยาเขตหนองคาย และทางสาขาวิชานิติศาสตร์ เราจึงได้ส่งนักศึกษาระดับปริญญาโท นิติศาสตร์มหาบัณฑิต ไปร่วม แลกเปลี่ยนเรียนรู้ที่มหาวิทยาลัยเว้ ประเทศเวียดนามเช่นเดียวกัน โดยมีอาจารย์ดร.เพิ่มหลวงแก้ว และอาจารย์ดร.บัณฑิต ขวาโยธา อาจารย์ประจำสาขาวิชานิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น วิทยาเขตหนองคาย เป็นตัวแทนนำคณะนักศึกษาเดินทางไปครั้งนี้
อาจารย์ดร.เพิ่ม หลวงแก้ว อาจารย์ประจำหลักสูตร นิติศาสตร์มหาบัณฑิต สาขานิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น วิทยาเขตหนองคาย กล่าวว่า การเดินทางไปศึกษาดูงานครั้งนี้เพื่อให้นักศึกษาระดับปริญญาโทที่กำลังเรียนในหลักสูตรนิติศาสตร์มาบัณฑิต ทุกคนได้มีโอกาสได้นำคำถามวิจัยทางด้านกฏหมายของแต่ละคนไปแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันกับคณาจารย์ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเว้ จะทำให้นักศึกษาสามารถเปรียบเทียบกฎหมายและความก้าวหน้าทางด้านนิติศาสตร์ ของทั้งสองประเทศนำไปวิเคราะห์ และนำไปใช้ประโยชน์ ในการวิจัยทางด้านนิติศาสตร์ ซึ่งได้รับความร่วมมือ จากคณาจารย์ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเว้ในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และเลี้ยงต้อนรับเป็นอย่างดีตลอดการสัมมนา และศึกษาดูงานครั้งนี้ ต้องขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้
ทางด้านนายหยัด ขจรเกียรติกุล ประธานนักศึกษา ระดับปริญญาโท หลักสูตรนิติศาสตร์มหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยแก่น วิทยาเขตหนองคาย ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า การไปศึกษาดูงานครั้งนี้ทำให้นักศึกษาได้มีโอกาสเปิดวิสัยทัศน์ใหม่ในการศึกษาดูงานทางด้านกฏหมายกับนักกฏหมายต่างประเทศทำให้สามารถนำข้อเปรียบเทียบ ความก้าวหน้าและข้อแตกต่างของกฏหมายทั้งสองประเทศนำไปเป็นประโยชน์ในงานวิจัยหรืองานวิทยานิพนธ์ของนักศึกษาแต่ละคนได้อย่างดียิ่งต้องขอขอบพระคุณท่านคณบดี ท่านคณาจารย์ ทุกท่านรวมถึง มหาวิทยาลัยขอนแก่น วิทยาเขตหนองคาย ที่ให้โอกาสนักศึกษาไปทัศนศึกษาและดูงานในครั้งนี้ด้วยครับ
โดย ดร.เพิ่ม หลวงแก้ว เลขาธิการมูลนิธิครูประชาบาลภาคตะวันออกเฉียงเหนือ