แกะรอย! บัญชีสหกรณ์ฯ เงินล่องหน 400 ล. ใครโกงเงินครู?

พลันที่ “เอกราช ช่างเหลา” ผู้จัดการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด อายุครบ 60 ปี เขาได้เกษียณอายุพ้นจากตำแหน่งซึ่งทำหน้าที่ต่อเนื่องมายาวนานกว่า 10 ปี และเป็นช่วงเดียวกับการได้รับแต่งตั้งให้ไปเป็น ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ 

“ทนงศักดิ์ วังสงค์” อดีตผอ.โรงเรียนชุมชนหนองเรือ ซึ่งเป็นผู้ที่มีบทบาทคลุกคลีในสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่นมายาวนานเช่นกันได้ลาออกจากราชการเข้ามารับตำแหน่งผู้จัดการฯแทน

เวลาใกล้เคียงกัน “ดร.เชิดศักดิ        ศรีสง่าชัย” อดีตศึกษาธิการจังหวัดขอนแก่น ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด ได้ลาออกจากตำแหน่งประธานฯ โดยอ้างว่าจะไปรับตำแหน่งใหม่ที่องค์การค้าคุรุสภาแต่ปัจจุบันก็ยังไม่มีการแต่งตั้งทั้งที่เหลือวาระในการทำงานถึงเดือนธันวาคม 2562 ทิ้งเงินค่าตอบแทนหรือเงินโบนัสไปอย่างน่าแปลกใจ

โดยประเพณีปฎิบัติของสหกรณ์ออมพรัพย์ครูขอนแก่น ผู้ที่จะมาเข้ามาดำรงตำแหน่งประธานสหกรณ์ฯส่วนใหญ่จะเป็นผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาทั้งระดับมัธยมศึกษาหรือ ประถมศึกษา 

ด้านหนึ่งเพื่อเป็นการให้เกียรติในฐานะผู้บริหารองค์กรระดับสูง และอีกด้านหนึ่งเพื่อให้การประชุมสหกรณ์ฯดำเนินการไปด้วยความเรียบร้อย เนื่องจากสมาชิกสหกรณ์ฯ ส่วนใหญ่ถือเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาจะเกิดความเกรงใจในการแสดงความคิดเห็นหรือการอภิปราย

บุคคลที่ถูกวางตัวไว้เป็นประธาน    สหกรณ์ฯแทนดร.เขิดศักดิ์ ศรีสง่าชัย ช่วงแรก คือ ดร.ศุภสิน ภูศรีโสม ผอ.สพป. เขต 4 (อ.น้ำพอง) แต่เมื่อมีการทาบทามไป ดร.ศุภสิน ได้ตอบกลับมาว่า เขายังอาวุโสน้อยไม่เหมาะที่จะมารับตำแหน่งประธานสหกรณ์ฯ จึงได้มีการทาบทามและเสนอชื่อ “ดร.อนุศาสตร์ สอนศิลพงศ์” ผอ.สปพ. เขต 2 (บ้านไผ่ )

เป็นบุคคลที่สมาชิกสหกรณ์ครูขอนแก่นรู้จักมานาน เป็นคนกล้าแสดงความคิดเห็นตรงไปตรงมา ติดอันดับประเภท “ดาวสหกรณ์” จึงเป็นที่ยอมรับ

ดร.อนุศาสตร์ ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งประธานฯในการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2562 ที่ จ.หนองคาย เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2562 และรับทราบจากการอภิปรายในที่ประชุมฯว่า อาจจะมีเงินหายไปจากบัญชีเงินฝากประจำของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำนวน 400 ล้านบาท

จากนั้นไม่นาน ดร.วิศร์ อัครสันตติกุล ข้าราชการครูบำนาญ ในฐานะประธานชมรมสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น ได้เข้ายื่นหนังสือให้มีการตรวจสอบบัญชีสหกรณ์ฯต่อศูนย์ดำรงธรรม ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น

พร้อมทั้งยื่นรายชื่อสมาชิกสหกรณ์ฯ ขอเปิดประชุมใหญ่วิสามัญตามข้อบังคับสหกรณ์ออมทรัพย์ครู ข้อที่ 62 ต่อดร.อนุศาสตร์ ในฐานะประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงกรณีเเงินหายไปจากบัญชีสหกรณ์ฯ

ทั้งนี้ ข้อมูลบัญชีธนาคารที่ถูกตั้งข้อสังเกตและเปิดเผยสู่สาธารณะ เป็นบัญชีของธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขาถนนดินแดง ตั้งอยู่ ห้างเทสโก้ โลตัส ฟอร์จูน ทาวน์  กรุงเทพฯ ประเภทเงินฝากประจำ หมายเลขบัญชี 144-101918-9  โดยมีชื่อเจ้าของบัญชีคือ สหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น

หลังจากดร.อนุศาสตร์เข้ารับตำแหน่ง เขาได้ตั้งคณะกรรมการฯขึ้นมาชุดหนึ่ง เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง และเดินทางพร้อมคณะจำนวน 4 คนไปขอรายละเอียด บัญชีธนาคารที่ถูกระบุไว้ในหนังสือร้องเรียน เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2562

เมื่อดร.อนุศาสตร์ เดินทางกลับมาขอนแก่น วันที่ 27 พฤศจิกายน 2562 เขาได้ส่งสารจากประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น ถึงสมาชิกและสื่อมวลชนระบุชัดเจนว่า ผลการตรวจสอบบัญชีธนาคารฯพบว่า มียอดเงินฝากจำนวน 400 กว่าล้านบาท หายออกไปจากบัญชีธนาคารที่ถูกอ้างถึงจริง  โดยมีเงินเหลืออยู่ในบัญชีเพียง จำนวน 78,924 บาท ตั้งแต่ปี 2557 

ขณะที่เอกสารการรายงานผลการดำเนินงานหรือ งบดุลของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น  ในปี 2559 ยังคงระบุไว้ว่า มียอดตัวเลขเงินฝากประจำเหลืออยู่ในบัญชี จำนวน 417,685,707.22 บาท และและปี 2560  จำนวน 422,384,671.43 บาท

นั่นหมายความว่า สหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น มีตัวเลขเงินฝากในเอกสารรายงานผลการดำเนินงานมาต่อเนื่องแต่ไม่มีเงินในบัญชีจริง 

ดร.อนุศาสตร์ ระบุว่าได้มอบให้ฝ่ายกฎหมายสหกรณ์ฯ ไปแจ้งความดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและอาญาต่อผู้ที่ยักยอกเงินออกจากบัญชีของสหกรณ์ไป

พร้อมทั้งจะให้นายทนงศักดิ์ วังสงค์ ผู้จัดการสหกรณ์ครูขอนแก่น ชี้แจงรายละเอียดการดำเนินการทั้งหมด ให้กับสมาชิกสหกรณ์ได้ทราบในการประชุมใหญ่วิสามัญฯ วันที่ 4 ธันวาคม 2562เวลา 08.00 – 16.00 น.   ณ ศูนย์ประชุมและจัดนิทรรศการนานาชาติขอนแก่น หรือ ไคซ์ (KICE)

เรามาแกะรอยบัญชีธนาคารฯที่ ปรากฎเป็นข่าว ซึ่งเป็นบัญชีเงินฝากธนาคารไทยพาณิชย์ ประเภทเงินฝากประจำสาขาถนนดินแดง

ชัดเจนว่า เป็นเลขบัญชีเดียวกันกับสาขา  เทสโก้โลตัส ฟอร์จูน ทาวน์ เลขที่บัญชี  144-101-918-9  ชื่อเจ้าของบัญชีคือ สหกรณ์ ออมทรัพย์ครูขอนแก่น

มียอดเงินเปิดบัญชีเงินฝากครั้งแรกรหัส  XO หมายถึงการเปิดบัญชีด้วยเงินสดหรือเงินโอน จำนวน 748 ล้านบาท เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม พ.ศ.2553 เวลา 10.49:16 น.และมีการถอนเงินอออกจากบัญชีในวันเดียวกัน  รหัส XW หมายถึงถอนเป็นเงินโอน เวลา11.17:51 น. จำนวน 748 ล้านบาท และวันเดียวกันนั้น เวลา 15.03:52 น.มีการฝากเงินโดยไม่ใช้สมุด รหัส X1 จำนวน 748 ล้านบาท วันเดียวกัน 3 ครั้ง

ถัดมาจากนั้นวันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ.2554 เวลา 12.14:49 น. มีการโอนเงินเข้าบัญชีรหัส X1 หมายถึงเงินโอนไม่ใช้สมุดจำนวน 396 ล้านบาท รวมยอดเงินในบัญชี  1,144 ล้านบาท วันที่ 13 พฤษภาคม 2554 เวลา 14.47:24 น. มีการถอนเงินรหัส PX หมายถึงเป็นเงินสดหรือเงินโอนจำนวน 100 ล้านบาท เหลือเงินจำนวน 1,044 ล้านบาท

วันที่ 16 มิถุนายน 2554 มีการนำเงินเข้าบัญชีรหัส XD หมายถึงฝากเป็นเงินโอน จำนวน 100 ล้านบาท วันที่ 9 กรกฎาคม 2554 นำเงินเข้ารหัส QN หมายถึงการฝากด้วยเช็คไม่ใช้สมุดจำนวน 770 ล้านบาท ทำให้ยอดเงินบัญชีเงินฝากพุ่งไปสูงถึง 1,914 ล้านบาท วันที่ 10 กรกฎาคม มีการถอนเงินออกจำนวน 770 ล้านบาท รหัส XW หมายถึงการถอนเป็นเงินโอน ทำให้เงินคงเหลือ 1,144 ล้านบาท

วันที่ 4 สิงหาคม 2554 มีการนำเข้าเงิน 7,854,000 บาท รหัส IN หมายถึงดอกเบี้ยธนาคาร ทำให้ยอดเงินในปัญชีมีจำนวน 1,151,854  ล้านบาท ก่อนที่จะมีการถอนเงินออกในวันเดียวกัน 755.854 ล้านบาท ด้วยรหัส X2 หมายถึงการถอนโดยไม่ใช้สมุด และวันเดียวกันก็มีการนำเงินเข้า 755.854 ล้านบาท รหัส X1 หมายถึง การฝากโดยไม่ใช้สมุด รวมเป็นเงินคงเหลือ 1,151,854 ล้านบาท

วันที่ 5 สิงหาคม 2554 มีการถอนเงิน 7,854,000 บาท รหัส PX หมายถึง ถอนบางส่วนเป็นเงินสดหรือเงินโอน วันที่ 16 สิงหาคม 54 มีการถอนเงิน 296 ล้านบาท รหัส XW หมายถึงถอนเป็นเงินโอน และมีการถอนเงินเพิ่มวันเดียวกันอีก 100 ล้านบาท รหัส XW เหมือนยอดก่อนหน้านี้ ทำให้มียอดเงินคงเหลือ 748 ล้านบาท

 เฉพาะในรอบปี 2554 มีการเคลื่อนไหวบัญชี 11 ครั้ง

จากนั้นวันที่ 4 สิงหาคม 2555 มีการนำเงินเข้าจำนวน 21,001,380.82 1 บาท รหัส IN หมายถึงดอกเบี้ย ทำให้ยอดเงินปรับขึ้นเป็น 769,001,380.82 ล้านบาท และในวันเดียวกัน มีการถอนเงินออกจำนวน  769,001,380.82 ล้านบาท รหัส X2 ถอนโดยไม่ใช้สมุด วันเดียวกันนั้นก็มีการนำเงินเข้าฝากจำนวน  769,001,380.82 ล้านบาท รหัส X1 หมายถึงฝากโอนโดยไม่ใช้สมุด

วันที่ 29 สิงหาคม 2554 มีการถอเนเงินรหัส PX ถอนบางส่วนเป็นเงินสดหรือเงินโอน จำนวน 100 ล้านบาท วันที่ 27 กันยายน 2555 มีการถอนเงินจำนวน 100 ล้านบาท รหัส PX ถอนบางส่วนเป็นเงินสดหรือเงินโอน และวันที่ 30 ตุลาคม 2555 มีการถอนเงินรหัส PX ถอนบางส่วนเป็นเงินสดหรือเงินโอนจำนวน 174 ล้านบาท ยอดเงินคงเหลือ 395 ล้านบาท

เฉพาะปี 2555 มีการเคลื่อนไหวบัญชี 6 ครั้ง

วันที 4 สิงหาคม 2556 มียอดเงินฝากรหัส IN หมายถึงดอกเบี้ยจำนวน 10,072,535.22  บาท ยอดเงินปรับเป็น 405,073,916 บาท  วันเดียวกันมีการถอนเงินรหัส X2 หมายถึงถอนโดยไม่ใช้สมุด จำนวน 405,073,916 บาท

จากนั้นมีการถอนเงินออกจากบัญชีต่อเนื่อง เริ่มจากวันที่ 29 สิงหาคม 2556 จำนวน 200 ล้าน ด้วยรหัส PX ถอนบางส่วนเป็นเงินสดหรือเงินโอน วันที่ 9 กันยายน 2556 ถอนเงินออกจำนวน 100 ล้านบาท ด้วยรหัส PX ถอนบางส่วนเป็นเงินสดหรือเงินโอน วันที่ 27 กันยายน 2556 ถอนเงินจำนวน 96 ล้านบาท ด้วยรหัส PX ถอนบางส่วนเป็นเงินสดหรือเงินโอน

เฉพาะปี 2556 มีการเคลื่อนไหวบัญชี 5 ครั้ง

วันที่ 14 พฤศจิกายน 2557  มีการฝากเงิน รหัส IN หมายถึงดอกเบี้ย จำนวน 15,719 บาท และวันเดียวกัน มีการถอนเงินจำนวน 9,015,719.18 บาท รหัส PX ถอนบางส่วนเป็นเงินสดหรือเงินโอน ทำให้ยอดเงินเหลือในบัญชีดังกล่าวในปีพ.ศ.2557 เป็นเงินรวมทั้งสิ้น 73,916.04 บาท

นี่คือ..ตัวเลขสุดท้ายของการเคลื่อนไหวบัญชีเงินฝากประจำของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอแนก่น ประเภทฝากประจำ ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาถนนดินแดง กรุงเทพฯ

หลังจากนั้นการเคลื่อนไหวก็เป็นเพียงอัตราดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นจากยอดเงินที่เหลือและมีการไปถอนเงินออกและนำฝากปีละ 1 ครั้ง เพื่อรักษาบัญชีไว้

ตัวเลขล่าสุด ในเอกสารสเตทเม้นท์ ของธนาคารที่หลุดออกมาสู่สาธารณะวันที่ 8 สิงหาคม 2562 มียอดเงินเหลือในบัญชีเพียง 78,924.91 บาท (เจ็ดหมื่นแปดพันเก้าร้อยยี่สิบสี่บาทเก้าสิบเอ็ดสตางค์) ซึ่งเอกสารฉบับดังกล่าวนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการเคลื่อนไหวให้มีการตรวจสอบบัญชีเงินฝากประจำของธนาคารไทยพาณิชย์บัญชีนี้

ชัดเจนอย่างยิ่ง เมื่อ ดร.อนุศาสตร์ สอนศีลพงษ์ ประธานคณะกรรมการดำเนินงานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น พร้อมคณะกรรมการจำนวน 4 คน ได้เดินทางไปขอตรวจสอบบัญชีเงินฝากดังกล่าวนี้กับธนาคารและออกมาระบุว่า มีเงินหายไปจากบัญชีจริง

ทั้งนี้เมื่อมีนำข้อมูลไปเทียบเคียงกับรายงานผลการดำเนินงานประจำปีของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด โดยในหมายเหตุประกอบงบการเงิน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 บัญชีธนาคารไทยพาณิชย์จำกัด (มหาชน) บัญชีเลขที่ 144-101918-9 ประภทฝากประจำจำนวนเงิน 748 ล้านบาท สหกรณ์ฯได้นำไปค้ำประกันสลากกินแบ่งรัฐบาลหรือการกุศลเต็มจำนวน

รายงานผลการดำเนินงานของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น  โดยในหมายเหตุประกอบงบการเงิน ณ วันที่ 31 ธันวาคม และปี 2554  บัญชีเดียวกัน จำนวน 1,144 ล้านบาท สหกรณ์ฯได้นำไปค้ำประกันสลากกินแบ่งรัฐบาลหรือการกุศลเต็มจำนวน

รายงานผลการดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น หน้าหมายเหตุประกอบงบการเงิน ณ วันที่ 31 ธันวาคม  2555  ประเภทเงินฝากประจำ บัญชีเดียวกัน จำนวน 791.001.380.82 บาท โดยยังระบุไว้ในข้อ 3.1 ว่า สหกรณ์ฯได้นำไปค้ำประกันสลากกินแบ่งรัฐบาลหรือการกุศลเต็มจำนวน

และ3.2 สหกรณ์ได้ทำความตกลงกับธนาคารให้มีการโอนเงินฝากธนาคารประเภทออมทรัพย์ไปยังบัญชีเงินฝากธนาคารประเภภทกระแสรายวัน หมายความว่า หากบัญชีกระแสรายวันมีเงินไม่พอก็จะสามารถดึงเอาเงินจากบัญชีออมทรัพย์ไปชำระได้

รายงานผลการดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น หน้าหมายเหตุประกอบงบการเงิน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2556  ประเภทเงินฝากประจำบัญชีเดียวกัน จำนวน  403,900.146 บาท ไม่ได้ระบุว่ามีการนำไปค้ำประกันสลากกินแบ่งรัฐบาลฯ

รายงานผลการดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น หน้าหมายเหตุประกอบงบการเงิน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2557 ประเภทเงินฝากประจำบัญชีเดียวกัน จำนวน 408,444,023.00 บาท

ายงานผลการดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น หน้าหมายเหตุประกอบงบการเงิน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2558 ประเภทเงินฝากประจำบัญชีเดียวกัน จำนวน 413,039,018.26 บาท

รายงานผลการดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น หน้าหมายเหตุประกอบงบการเงิน ณ วันที่ 31 ธันวาคม  2559 ประเภทเงินฝากประจำ บัญชีเดียวกันจำนวน 417685.707.22 บาท

รายงานผลการดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น หน้าหมายเหตุประกอบงบการเงิน ณ วันที่ 31 ธันวาคม ปี 2560 หมวดเงินฝากประจำ บัญชีเดียวกัน จำนวน 422384.671.43 บาท 

รายงานผลการดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น หน้าหมายเหตุประกอบงบการเงิน ณ วันที่ 31 ธันวาคม  2561  หมวดเงินฝากประจำนวน 427,136,498.98 บาท ก็ไม่ได้มีการระบุหมายเหตุไว้ตอนท้ายรายการเช่นกัน

นั่นหมายความว่า มีการทำรายงานงบการเงิน บัญชีธนาคารไทยพาณิชย์จำกัด (มหาชน)  บัญชีเลขที่ 144-101918-9 ประเภทฝากประจำอยู่ต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2553 จนถึงปี 2561  ขณะที่ตัวเลขในบัญชีได้หายไปเหลือเพียง 73,916.04 บาท นับแต่ปี 2557 เป็นต้นไป กลายเป็นข้อสันนิษฐานเบื้องต้นว่า มีเงินหายไปจากบัญชี โดยมีการตั้งตัวเลขไว้ที่ประมาณ 400 ล้านบาท

ทว่า..หากไล่ย้อนกลับไปดูบัญชีข้างต้นจะพบว่า บางช่วงของบัญชีเงินฝากประจำดังกล่าวนี้ ตัวเลขพุ่งไปถึง 1,900 ล้านบาทโดยประมาณ จึงเป็นหน้าที่ของผู้เกี่ยวข้อง ที่จะต้องตอบคำถามของสมาชิกในการประชุมใหญ่วิสามัญ สหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น ในวันที่ 4 ธันวาคม 2562 ที่จะถึงนี้

คำถามที่สำคัญคือ หากมีเงินหายไปจริง ? ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งในทางแพ่งและอาญา ?

 

แสดงความคิดเห็น