ชมรมสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น เผยแกนนำถูกขู่ให้หยุดเคลื่อนไหว จัดประชุมเชิงปฎิบัติการณ์ เพื่อให้เกิดความรัดกุมในข้อกฎหมายการเอาเงินคืนสหกรณ์ และเอาคนผิดมาลงโทษ พร้อมประกาศสร้าง “ปฎิญญาอุบลรัตน์” เสนอที่ประชุมใหญ่สามัญแก้ไขข้อบังคับเกี่ยวกับกรรมการฯ สมาชิก ตลอดจนระเบียบการบริหารงาน หวังสร้างสหกรณ์ไร้ทุจริต สั่งปิดปากสหกรณ์จังหวัดห้ามสัมภาษณ์สื่อ
ดร.วิศร์ อัครสันตติกุล ประธานชมรมสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด กล่าวว่า หลังจากที่ชมรมฯได้เสนอให้มีการจัดประชุมใหญ่วิสามัญสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น เพื่อพิจารณากรณีกระแสข่าวเงินหายไปจำนวน 400 ล้านบาท จากบัญชีเงินฝากกระแสรายวัน ธนาคารไทยพาณิชย์ เลขที่บัญชี 144-101-918-9 ชื่อบัญชีสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่นฯ เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.2562 โดยในการประชุมดังกล่าวคณะกรรมการสหกรณ์ได้ยอมรับว่า ผลการตรวสจสอบบัญชีดังกล่าวนั้นมียอดเงินหายไปจากบัญชีจริง
“ที่ประชุมได้มีมติให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการไตรภาคีขึ้นมาชุดหนึ่ง ประกอบผู้แทนฝ่ายบริหารสหกรณ์ ผู้แทนสมาชิก และผู้แทนชมรมสมาชิก จำนวน 9 คน ให้มีหน้าที่ในการตรวจสอบข้อมูลเอกสารต่างๆและให้ดำเนินคดีกับผู้ที่ยักยอกเงินของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่นออกไป”ดร.วิศร์กล่าวและว่า
ทั้งนี้คณะกรรมการไตรภาคี ได้ไปร้องทุกข์กับทางดีเอสไอภาค 4 และได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองขอนแก่นเพื่อให้ทำการสืบสวนสอบสวนหาบุคคลที่กระทำความผิดมาลงโทษตามกฎหมายไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม การดำเนินการดังกล่าวนั้นได้กระทำการไปโดยเร่งด่วน เพื่อให้เกิดความเข้าใจสถานการณ์ปัญหาที่เกิดขึ้น ตนและคณะจำนวน 30 คน จึงได้จัดประชุมสัมมนาเชิงปฎิบัติการขึ้น โดยใช้ชื่อว่า “ปฎิญญาอุบลรัตน์” ระหว่างวันที่ 12-13 ธ.ค.2562 ที่ห้องประชุมเขื่อนอุบลรัตน์ อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น
ประธานชมรมสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น กล่าวอีกว่า การจัดประชุมฯดังกล่าวนั้น เพื่อให้สมาชิกได้รับทราบข้อมูลความเคลื่อนไหวในด้านต่างๆกรณีเงินที่หายไป และรวบรวมข้อมูลในการดำเนินคดีให้ถูกต้องรัดกุม ชัดเจน เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดและจะมีการหารือกันเพื่อที่จะกำหนดแนวทางแก้ไขข้อบังคับในการประชุมใหญ่สามัญที่จะมีขึ้นในช่วงต้นปี 2563
“เราจะร่วมกันกำหนดยุทธศาสตร์ยุทธวิธี และสร้างวิสัยทัศน์สหกรณ์แนวใหม่ไร้การทุจริต พิชิตหนี้สินและความทุกข์ของมวลสมาชิก พร้อมแนวทางการบริหารจัดการที่เป็นธรรมาภิบาล รวมทั้งประเด็นอื่นๆที่เป็นประโยชน์แก่สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น”ดร.วิศร์กล่าวและว่า
ตลอดจนแนวทางที่ชมรมสมาชิกสหกรณ์จะร่วมกันมองภาพองค์กรสหกรณ์ให้ชัดเจนว่าดำเนินการอย่างไรกรณีเงินหาย การแก้ไขระเบียบข้อบังคับ คณะกรรมการบริหารสหกรณ์ สมาชิกสหกรณ์ การบริหารจัดการและการดำเนินงานของและทิศทางสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่นจะก้าวเดินต่อไปอย่างไร
ดร.วิศร์กล่าวด้วยว่า ได้รับทราบจากแกนนำสมาชิกสหกรณ์คนหนึ่งที่ใช้ชื่อ “ครูไทยพันธุ์แท้” ว่ามีโทรศัพท์เสียงเป็นผู้หญิงโทรฯมาหาและถามว่าใช่คนที่ใช้ชื่อว่า ครูไทยพันธุ์แท้หรือไม่ เมื่อแกนนำคนนั้นบอกว่า “ใช่” โทรศัพท์ดังกล่าวก็บอกว่า ให้หยุดเคลื่อนไหวกรณีเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูหายไป จากนั้นได้วางสายโทรศัพท์ไป เมื่อแกนนำได้เช็คหมายเลขโทรศัพท์กลับไปก็พบว่าโทรศัพท์หมายเลขดังกล่าวมาจากตู้สาธารณะ
“กรณีการขู่ที่เกิดขึ้นดังกล่าวนี้ เราได้มีการแจ้งไปยังให้สมาชิกให้ทราบว่า ให้มีการบันทึกเสียงโทรศัพท์ หรือแคปหน้าจอหมายเลขโทรศัพท์เอาไว้เป็นหลักฐาน เพื่อที่จะได้ติดตามตัวบุคคลที่กระทำการดังกล่าวมาลงโทษให้ได้”ดร.วิศร์กล่าว
ผู้สื่อข่าว “อีสานบิซ” ได้โทรศัพท์ไปสอบถาม นางวรารัตน์ กุลบวรรัตน์ สหกรณ์จังหวัดขอนแก่น ในฐานะรองนายทะเบียนสหกรณ์ ที่กำกับดูแลสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น เกี่ยวกับความคืบหน้าในการตรวจสอบเอกสารหลังพบว่า มีเงินหายไปจากบัญชีเงินฝากประจำจริง แต่ได้รับการปฎิเสธที่จะให้รายละเอียดโดยแจ้งว่า ถูกผู้ใหญ่ในกรมส่งเสริมสหกรณ์ตำหนิเรื่องการให้ข่าว
“ขอให้เข้าใจพี่ด้วยนะ ช่วงนี้มันอันตราย พี่ไม่สามารถให้รายละเอียดอะไรได้ ขอให้ไปสอบถามทางสหกรณ์ออมทรัพย์ครูเอาเองแหละกัน”นางวรารัตน์กล่าว
