กรรมการสหกรณ์ฯชุดปัจจุบัน มีเงื่อนงำแอบ“ลักไก่” มีมติตั้งทนายทีม “เอกราช ช่างเหลา” ร่วมทีมจับคนโกงเงินครู ระบุกระทำการขัดมติที่ประชุมใหญ่ฯที่ห้ามเกี่ยวข้อง เตรียมยื่นหนังสือค้านหากไม่ฟังนัดรวมพลังชุมนุมใหญ่
เมื่อวันที่ 28 ธ.ค. 62 ความคืบหน้ากรณีการทุจริตยักยอกเงินจำนวน 431 ล้านบาท ของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด ล่าสุด ดร.วิศร์ อัครสันตติกุล ประธานชมรมสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น (ช.อ.ก.) ได้ออกแถลงการณ์ชมรมสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น ฉบับที่ 6 เรื่อง ขอคัดค้านทนายความและเตรียมความพร้อม มีเนื้อหาระบุว่า ตามที่ชมรมสมาชิกสหกรณ์ฯครูขอนแก่น ได้รวบรวมสมาชิกให้ทางสหกรณ์ฯ จัดการประชุมใหญ่วิสามัญขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อติดตามตรวจสอบข้อมูลในกรณีเงินสหกรณ์ฯได้สูญหายไปกว่า 400 ล้านบาท ให้เกิดความโปร่งใสไร้การทุจริต
และมีสมาชิกสหกรณ์เข้าร่วมประชุมเป็นจำนวนมาก และได้มีการดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆมาตามลำดับ จนกระทั่งสหกรณ์ฯ ได้มีการแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีอาญากับผู้ร่วมกันกระทำให้เกิดความเสียหายแก่สหกรณ์ไปแล้ว
ต่อมาในขั้นตอนการเสนอแต่งตั้งทนายความให้ดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและทางอาญา นั้น ปรากฏว่า 1. ตามมติของที่ประชุมใหญ่วิสามัญเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2562 ไม่ให้แต่งตั้งบุคคลที่เป็นหรือเคยป็นทนายความให้กับสหกรณ์หรือบุคคลที่กระทำความเสียหายแก่สหกรณ์แต่คณะกรรมการสหกรณ์ฯได้มีมติเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม2562 ให้แต่งตั้งบุคคลบางคนคือ นายบุญคง ดวงจันทร์คำ ซึ่งเป็นที่รู้กันโดยทั่วไปว่าในอดีตที่ผ่านมาได้เป็นหรือเคยเป็นทนายความให้แก่สหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่นจำกัด และ/หรือแก่บุคคลที่ทำให้เกิดความเสียหายแก่สหกรณ์มาเป็นระยะเวลากว่า 10 ปี คล้ายมีเงื่อนงำบางประการและโดยข้ออ้างว่าปัจจุบัน พวกเขาได้มีความขัดแย้งกันแล้ว ซึ่งไม่น่าจะฟังขึ้น
2.การเสนอบุคคลดังกล่าวไม่ผ่านมติของคณะกรรมการไตรภาคีมาก่อน ซึ่งให้เสนอได้ฝ่ายละ 1 คนหรือทีม ซึ่งการกระทำดังกล่าวอาจเกิดผลเสียแก่รูปคดีที่กำลังยื่นฟ้องทั้งทางแพ่งและทางอาญาในเร็วๆนี้ และทางสหกรณ์ฯก็ได้เสนอเฉพาะบุคคลที่ผ่านความเห็นชอบของไตรภาคีไว้แล้ว จึงไม่จำต้องให้เสนออีก
3. การเสนอชื่อนายบุญคง ดวงจันทร์คำ อาจขัดกับข้อ 13 แห่งข้อบังคับสภาทนายความว่าด้วยมารยาททนายความ พ.ศ. 2529 ที่ว่า “ได้รับปรึกษาหารือ หรือได้รู้เรื่องกรณีแห่งคดีใด โดยหน้าที่อันเกี่ยวข้องกับคู่ความฝ่ายหนึ่งแล้วภายหล้งไปรับเป็นทนายความหรือใช้ความรู้ที่ได้มานั้นช่วยเหลือคู่ความอีกฝ่ายหนึ่งซึ่งเป็นปรปักษ์อยู่ในกรณีเดียวกัน” และ ข้อบังคับนี้ ถือเป็นกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน ทุกคนสามารถหยิบยกขึ้นมากล่าวอ้างได้ แม้แต่สภาทนายความเองก็ได้ ซึ่งท้ายที่สุดอาจจะถึงขั้นต้องถูกเพิกถอนใบอนุญาตทนายความได้
ดังนั้น ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารชมรมสหกรณ์ออมทรัพย์ครูฯจึงมีมติ ดังนี้ 1.ให้ทำหนังสือคัดค้านทนายความดังกล่าวไปยังประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด เพื่อทบทวนมติโดยด่วน 2. ให้ทำหนังสือถึงนายกสภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์รวมทั้งขอให้สภาทนายความหาทางช่วยเหลือในกรณีนี้ ซึ่งหากการคัดค้านนี้ไม่ป็นผล ขอให้สมาชิกทุกท่านได้ยืนหยัดยึดมั่นในแนวทางที่จะรวมพลังกันและเตรียมความพร้อมในการขับคลื่อนใหญ่เพื่อความถูกต้องและชอบธรรมของมวลสมาชิก ส่วนวัน เวลาและสถานที่ จะแจ้งให้ทราบต่อไป จึงแถลงการณ์ให้ทราบโดยทั่วกัน ลงชื่อ ดร.วิศร์ อัครสันตติกุล ประธานชมรมสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น (ช.อ.ก.)