เหตุการณ์เริ่มเมื่อเวลาประมาณ 15.30 น.ของวันที่ 8 ก.พ. 63 จ.ส.อ.จักรพันธ์ ถมมา อายุ 32 ปี ทหารสังกัดกองพันสรรพาวุธกระสุนที่ 22 กองบัญชาการช่วยรบ (บชร.) 2 ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ กองทัพภาคที่ 2 จ.นครราชสีมา ได้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนพกประจำตัวขนาด 9 มม.จ่อยิง พ.อ.อนันต์ฐโรจน์ กระแส อายุ 48 ปี ผบ.กองพันสรรพาวุธกระสุนที่ 22 ผู้บังคับบัญชาของตนเอง
พร้อมกับนางอนงค์ มิตรจันทร์ อายุ 65 ปี ซึ่งเป็นแม่ภรรยาของพ.อ.อนันต์ฐโรจน์ เสียชีวิตพร้อมกัน 2 ศพ ที่บ้านเลขที่ 187 หมู่ 3 บ้านถนนหัก ต.หนองจะบก อ.เมือง จ.นครราชสีมา โดยการสอบสวนเบื้องต้นตำรวจทราบว่า
มีสาเหตุมาจากปัญหาค่านายหน้าค้าที่ดิน ที่ได้มีการพูดคุยเจรจากันมาแล้วหลายครั้งแต่ไม่ได้ข้อยุติ จึงได้นัดเจรจากันอีกครั้งในวันเกิดเหตุแต่ไม่สามารถตกลงกันเช่นเดิมเป็นเหตุให้จ.ส.อ.จักรพันธ์ บันดาลโทสะและก่อเหตุดังกล่าว
หลังจากนั้นจ.ส.อ.จักรพันธ์ ได้ขับรถยนต์ส่วนตัวสีน้ำเงินไม่ทราบยี่ห้อและทะเบียนไปยังกรมสรรพาวุธกระสุนที่ 22 สถานที่ทำงานและตรงเข้าชิงอาวุธปืนจากพลทหารเวรประจำการโดยใช้อาวุธยิงพลทหารเวรเสียชีวิต 1 นายและได้รับบาดเจ็บ 2 นาย
ก่อนที่จะเข้าไปงัดเอาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนซึ่งทราบภายหลังว่าเป็นปืนกล SK 33 และปืนกลเอ็ม 60 จากนั้นได้ขับรถฮัมวี่ของราชการทหาร หลบหนีออกไปทางด้านหลังค่ายสุรธรรมพิทักษ์ ผ่านไปทางวัดป่าศรัทธาธรรมโดยบริเวณดังกล่าวนั้นมีเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองนครราชสีมาได้รับแจ้งเหตุจึงได้สกัดเพื่อจะจับกุมตัว
ปรากฏว่าจ.ส.อ.จักรพันธ์ ไม่ยอมให้จับกุมและได้ใช้อาวุธปืนที่มีอยู่กราดยิงเข้าใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจจนทำให้เจ้าหน้าที่และชาวบ้านในบริเวณดังกล่าวได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตภายหลัง เฉพาะบริเวณวัดป่าศรัทธาธรรมจำนวน 9 ศพ
เวลา 17.00 น.โดยประมาณ จ.ส.อ.จักรพันธ์ ขับรถฮัมวี่หลบหนีออกไปทางถนนมิตรภาพเส้นทางไปสามแยกเส้นทางนครราชสีมา- ขอนแก่น ด้านหน้าห้างเทอร์มินอล 21 นครราชสีมาโดยใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยด้านหน้าห้างฯและพลเมืองดีที่จะเข้าไปช่วยผู้บาดเจ็บ และยังกราดยิงเข้าใส่กลุ่มวินมอเตอร์ไซต์ที่จอดอยู่หน้าบาดเจ็บอีกหลายคน
ก่อนที่จ.ส.อ.จักรพันธ์จะหลบหนีตรงเข้าไปภายในห้างเทอร์มินอล 21 ซึ่งมีประชาชนไปจับจ่ายสิ่งของจำนวนมากเนื่องจากเป็นวันมาฆบูชาซึ่งเป็นวันหยุดพักการทำงาน ในระหว่างนั้นจ.ส.อ.จักรพันธ์ได้มีการโพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัว รวมถึงรูปภาพของตัวเองที่ใช้วิธีการเซลฟี่จุดต่างๆ ภายในห้างเทอมินอล 21
เนื้อหาที่โพสต์นั้นเป็นการระบายความอัดอั้นที่คิดว่า ตนเองถูกเอาเปรียบจากใครบางคน ซึ่งคาดว่าน่าจากการก่อเหตุในจุดแรก คือ การซื้อขายที่ดิน อาทิ “ร่ำรวยจากการโกง การเอาเปรียบคนอื่น มันคิดว่ามันจะเอาเงินไปใช้ในนรกหรือไง”
“3ศพล้างแค้น นอกนั้นป้องกันตัว”/ “เหนื่อยเหลือเกิน”/ “เหนื่อยแล้วอ่ะ กระดิกนิ้วไม่ไหวแล้ว”/ “ซวยล่ะ เป็นตะคริว” / “พวกมึงอยากลองของใช่มั้ย?”/ “มันตายมั้ยไอ้ 3 คนนั่น”/ “นี่ก็หยุดแล้วนะ” /”ยอมแพ้ดีมั้ยนะ ?” และ “ยังไง ?ก็หนีความตายไม่พ้นทุกคน”
จ.ส.อ.จักรพันธ์ โพสต์ข้อความไปพร้อมกับการกราดยิงเข้าใส่คนบริสุทธิ์ที่อยู่ภายในห้าง แบบบ้าคลั่งและเจ้าหน้าที่ระบุว่าเขาได้มีการควบคุมประชาชนผู้บริสุทธิ์บางส่วนไว้เป็นตัวประกันก่อนที่เฟสบุ๊คจะถูกตัดสัญญานไป
เวลาประมาณ 19.00 น.พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผู้บังคับการตำรวจกองปราบปราม พร้อมด้วยทีมหนุมานฯ มาที่เกิดเหตุ เวลาประมาณ 20.00 น. หน่วยคอมมานโดมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ 904 เดินทางมาถึง
เวลาประมาณ 20.00 น. พ.ต.อ.กฤตยา เลาประสพวัฒนา ผกก.สภ.เมืองนครราชสีมา ออกมาระบุว่า ยังไม่สามารถจับกุมจ.ส.อ.จักรพันธ์ได้ เพื่อหยุดข่าวลือว่าได้มีการวิสามัญจ.ส.อ.จักรพันธ์แล้ว เวลา 20.30 น.พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร.พร้อมคณะ เดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์มายังจุดเกิดเหตุ
เวลา 21.00 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินทางไปรับตัวแม่ของ จ.ส.อ.จักรพันธ์ ถมมา จากบ้านพักที่จ.ชัยภูมิเพื่อหวังจะให้มาช่วยเกลี้ยกล่อมจ.ส.อ.จักรพันธ์ให้ยอมมอบตัว แต่ก็ไม่ปรากฏชัดเจนว่ามีการให้แม่ของจ.ส.อ.จักรพันธ์เจรจาเกลี้ยงกล่อม
เวลาประมาณ 21.30 น. นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอีได้ขอความร่วมมือกับเฟสบุ๊กให้ทำการบล็อกสัญญานเฟสบุ๊กของจ.ส.อ.จักรพันธ์ เพื่อไม่ให้มีการสื่อสารออกสู่สาธารณะ
เวลาประมาณ 22.30 น. พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก ได้เดินทางมายังที่เกิดเหตุ โดยช่วงเวลาดังกล่าวได้เกิดเสียงปืนดังมาจากภายในตัวห้างเทอร์มินอลหลายนัดเป็นระยะ เจ้าหน้าที่ได้กันประชาชนผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องออกไปอยู่ในจุดปลอดภัย โดยไม่มีรายงานว่าเสียงปืนที่ดังขึ้นมาจากฝ่ายไหน
เวลาประมาณ 23.35 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามระบุว่า สามารถเข้าคุมพื้นที่ชั้น G ของห้างเทอร์มินอล 21 ได้แล้ว จากนั้นเวลา 23.43 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ซึ่งได้เดินทางมาที่เกิดเหตุได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ยอดผู้เสียชีวิตล่าสุด 20 รายบาดเจ็บ 31 ราย โดยมีผู้บาดเจ็บที่อาการหนักต้องเข้าห้องไอซียู 4 ราย
เวลาประมาณ 01.00 น.วันที่ 9 ก.พ.63 เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ยังคงตรึงกำลังหนาแน่น โดยเชื่อว่าจ.ส.อ.จักรพันธ์ น่าจะลงไปกบดานอยู่บริเวณชั้นล่างของห้างโดยช่วงเวลาดังกล่าว เจ้าหน้าที่สามารถทยอยช่วยประชาชนที่ติดอยู่ภายในห้างออกมาได้กว่า 500 คน
เวลา 01.20 น. เจ้าหน้าที่ระบุว่า สามารถรู้พิกัดที่ชัดเจนของจ.ส.อ.จักรพันธ์ ว่า อยู่บริเวณชั้น LG ซึ่งเป็นส่วนที่ตั้งของศูนย์อาหารและฟู้ดแลนด์ และยังสามารถช่วยทยอยนำประชาชนออกมาได้เพิ่มขึ้นแล้วกว่า 1,000 คน
เวลาประมาณ 02.00 น.พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.และ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ.ได้เข้าไปภายในห้างฯแล้ว พร้อมกับมีการส่งเจ้าหน้าที่หลายชุดเข้าไปด้วย คล้ายกับจะมีการเตรียมปฎิบัติบางอย่าง โดยเจ้าหน้าที่คาดการณ์ว่าอาจจะยังมีประชาชนตกค้างอยู่ตามจุดต่างๆภายในห้างฯไม่ต่ำกว่า100 คน
เวลาประมาณ 02.30 น. มีเสียงปืนดังออกมาจากภายในห้างฯหลายสิบนัด ก่อนมีเสียงตะโกนออกมาว่าเคลียร์ และรถพยาบาลที่จอดสแตนด์บายอยู่ด้านหน้าห้างฯ ได้สตาร์ทเครื่องยนต์เตรียมพร้อมเพื่อรอคำสั่งเข้าไปในพื้นที่
เวลาประมาณ 03.00 น.มีการยิงถังแก๊สด้านหลังห้างฯคาดว่าเป็นการกระทำของจ.ส.อ.จักรพันธ์ยิงเพื่อหวังเปิดทางหนี เวลา 03.40 น.มีเสียงปืนดังขึ้นอีก 3-4 นัด โดยไม่ทราบว่าเป็นเสียงปืนจากฝ่ายใด เวลาประมาณ 03.50 น. เจ้าหน้าที่เชื่อว่าจ.ส.อ.จักรพันธ์ยังอยู่ในพื้นที่ของห้างฯ โดยมีการเปิดเผยตัวเลขผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการ 20 ราย และบาดเจ็บ 31 ราย
เวลาประมาณ 04.50 น. “บิ๊กแดง” พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก ได้เดินทางออกจากบริเวณพื้นที่ห้างเทอร์มินอล 21 เวลาประมาณ 05.20 น.มีเสียงปืนดังขึ้นเป็นระยะเหมือนเสียงจะดังมาจากภายด้านข้างของห้าง เวลาประมาณ 07.00 น. รายงานระบุว่ายังคงมีประชาชนติดอยู่ภายในห้างฯ และมีประชาชนถูกยิงเสียชีวิตที่ชั้น G เพิ่มขึ้น รวมตัวเลขผู้เสียชีวิตเป็น 25 ราย และบาดเจ็บ 34 ราย
เวลาประมาณ 07.20 น. เจ้าหน้าที่ได้มีการทยอยนำประชาชนที่ติดค้างอยู่ภายในห้างฯออกมาเป็นจำนวนกว่า 100 กว่าคน ส่วนใหญ่ปลอดภัยแต่มีอาการอ่อนเพลีย เวลา 08.40 น. เจ้าหน้าที่ได้ลำเลียงผู้บาดเจ็บออกมาจากห้างชุดสุดท้ายจำนวน 9 คน
กระทั่งมีการยืนยันจากเจ้าหน้าที่ว่าได้มีการปฏิบัติการณ์วิสามัญจ.ส.อ.จักรพันธ์ เสียชีวิตแล้วเมื่อเวลา 09.00 น.ของวันที่ 9 ก.พ. 63 โดยนายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ.นครราชสีมา พร้อมด้วยพล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผบช.ภ.ภาค 3 พล.ท.ธัญญา เกียรติสาร แม่ทัพภาค 2 และน.พ.นรินทรรัชต์ พิชญคามินทร์ นายแพทย์สาธารณะสุขจังหวัดนครราชสีมา
ร่วมกันแถลงข่าวยืนยันการปฏิบัติการวิสามัญจ.ส.อ.จักรพันธ์ เสียชีวิตตั้งแต่เวลา 9.00 น.และสรุปตัวเลขผู้เสียชีวิต ขณะนั้นจำนวน 20 ราย และบาดเจ็บจำนวน 42 ราย พักรักษาตัวโรงพยาบาลจำนวน 21 รายในจำนวนนี้มีอาการสาหัส 9 ราย และกลับบ้านได้แล้ว 21 ราย
เวลา 10.00 น.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้เดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์มาจ.นครราชสีมา และไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาลค่ายสุรนารีเป็นจุดแรก จากนั้นได้เดินทางมาเยี่ยมผู้บาดเจ็บและให้กำลังใจครอบครัวผู้เสียชีวิตที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา
นายกรัฐมนตรีได้แถลงสรุปตัวเลขผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ณ เวลา 9.57 น. วันที่ 9 ก.พ.ว่า มีผู้เสียชีวิต 27 ราย โดยนับรวมจ.ส.อ.จักรพันธ์ ที่ถูกวิสามัญด้วย มีผู้บาดเจ็บเพิ่มเป็น 57 ราย เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลจำนวน 32 ราย อาการสาหัส 12 รายและสามารถกลับไปรักษาตัวที่บ้านได้แล้ว 25 ราย ล่าสุดวันที่ 10 ก.พ. 63 เวลา 12.00 น. มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม เป็น 30 ราย
ปฏิบัติการณ์กอบกู้สถานการณ์แก้ไขวิกฤติที่ตึงเครียดยาวนานรวมกันกว่า 17 ชั่วโมง นับเป็นเหตุการณ์ระทึกขวัญที่ก่อให้เกิดความสูญเสียครั้งใหญ่ของจ.นครราชสีมาและประเทศไทยที่จะต้องถูกจารึกไว้อีกยาวนาน
…………