งงไปเบิ๊ด!!เงินครูขอนแก่นหายตัวเลขยังสับสน สหกรณ์ฯระบุล่าสุดหายจริง405ล้าน

สหกรณ์จังหวัดขอนแก่นแจง อีสานบิซเงินสอ.ขก.ไม่ได้หาย 1,175 ล้านบาท เพราะยอด 770 ล้านบาทที่ถอนจากบัญชีไทยพาณิชย์ 20 ก.ค.54 หลังจากนั้น 6 วัน มีการนำกลับฝากคืนเข้าบัญชีกรุงไทย ระบุหายจริง 3 รายการ 16 ส.ค.54 จำนวน 2 รายการ 296 ล้านกับ100 ล้าน และ14 ..56 หายเพิ่ม 9.01 ล้าน รวมยอดเงินหายสุทธิ 405,015,719.18  บาท เผยคำสั่งเพิกถอนมติตัวเลขกำไรคณะกรรมการพิจารณาฯ ยกอุทธรณ์แล้ว แต่สอ.ขก.ยังใช้สิทธิ์ฟ้องศาลปกครอง

การติดตามปัญหาการยักยอกเงินและทุจริตในสหกรณ์ออมทรัพย์ครู ขอนแก่น จำกัด (สอ.ขก.) ยังมีความสับสนเรื่องตัวเลขที่ถูกยักยอกออกไปจากบัญชี เพราะการตรวจสอบยัไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนล่าสุดสหกรณ์จังหวัดขอนแก่นในฐานะรองทะเบียนสหกรณ์ได้ออกมาชี้แจงว่าเงินไม่ได้หายไปจำนวน 1,175 ล้านบาท

ทั้งนี้เพราะมียอดจำนวน770 ล้านบาท ได้มีการถอนออกไปจากบัญชีเมื่อวันที่ 20 ..54 แต่ได้มีการโอนกลับเข้าบัญชีแล้วเมื่อวันที่ 26 ..54 โดยยอดที่มีการเบิกถอนออกไปและไม่มีรายการกลับเข้ามาในบัญชีสหกรณ์ 3 รายการ คือ รายการเบิกถอนวันที่ 16 ..54 สองรายการคือ 296 ล้านบาท และ100 ล้านบาท

ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของตัวเลข 396 ล้านบาทและมีการทำรายการงบดุลในรายงานประจำปีตั้งแต่ปี 2554- 2561  ว่ามีตัวเลขอยู่ในบัญชีแต่ไม่มีเงิน เมื่อคำนวณระยะเวลากับดอกเบี้ยแล้ว จึงเป็นตัวเลขเงินหายไป 431 ล้านบาท แต่ล่าสุดพบว่า มีรายการเบิกถอนเมื่อวันที่ 14 ..56 จำนวน 9 ล้านบาทเศษ ที่ไม่มีหลักฐานการโอนกลับมา สหกรณ์จังหวัดจึงสรุปตัวเลขว่า มีเงินหายไปล่าสุด คือ 405 ล้านบาท (ไม่รวมดอกเบี้ย)

นางวราลักษณ์ กุลบวรรัตน์ สหกรณ์จังหวัดขอนแก่น ได้ส่งหนังสือชี้แจงข่าวกรณีสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด เงินสูญหาย 1,175 ล้านบาท ลงวันที่ 18 .. มีเนื้อหาระบุว่า ตามที่เว็บไซต์ www.esanbiz.com เผยแพร่ข่าวในหัวข้อ ข่อยว่าแล้ว ! เงินสหกรณ์ฯครูขอนแก่นหายเพิ่ม 1,175 ล้านบาท ยื่นปลด อนุศาสตร์ สอนศีลพงศ์ และพวกปกปิดหลักฐานโดยมีการรายงานเกี่ยวกับเงินของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด หายไปในจำนวน 1,175  ล้านบาท สมาชิกของสหกรณ์จึงยื่นขอให้ปลดคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ชุดปัจจุบันจากการปกปิดชุกซ่อนหลักฐานเรื่องเงินที่สูญหายและการฝืนคำสั่งนายทะเบียนสหกรณ์

สำนักงานสหกรณ์จังหวัดขอนแก่นระบุว่า จากการตรวจสอบพบว่าวันที่ 20.. 54 เงินจำนวน 770 ล้านบาท ที่ถูกเบิกถอนออกจากบัญชีเงินฝากประจำธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขาถนนดินแดงและปรากฏหลักฐานว่าต่อมาในวันที่ 26..54  มีการโอนเงินกลับเข้าสู่บัญชีเงินฝากของสหกรณ์แล้วในบัญชีธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขามอดินแดงขอนแก่น

แต่เพื่อให้เกิดความชัดเจน สำนักงานสหกรณ์จังหวัดขอนแก่นได้ให้สก.ขก.ขอเอกสารรับรองจากธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขามอดินแดง เพื่อใช้ในการยืนยันอีกครั้งหนึ่งว่าเงินถูกโอนกลับเข้ามายังบัญชีของสหกรณ์จริง

ดังนั้น เงินที่มีการเบิกถอนจากบัญชีเงินฝากของสหกรณ์ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขาถนนดินแดง และมิได้มีการโอนหรือนำฝากกลับเข้าบัญชีของสหกรณ์จึงมี 3 รายการได้แก่ ในวันที่ 16.. 54 มีการเบิกถอนเงิน 2 รายการ คือ จำนวน 296 ล้านบาท และ จำนวน 100 ล้านบาท และในวันที่ 14 .. 56 จำนวน 296 มีล้านบาท การเบิกถอนเงิน 1 รายการ คือจำนวน 9,015,719.18 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 405,015,719.18  บาท

ประเด็นที่ 2 สก.ขก.ได้รายงานถึงการดำเนินคดีกับบุคคลที่กระทำความผิดต่อสหกรณ์ โดยสหกรณ์ได้แจ้งความร้องทุกข์ในวันที่ 6 ..62 ต่อศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษ เขตพื้นที่ 4 และวันที่ 9 ..62 ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่นให้นำตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษในข้อหายักยอกทรัพย์ และข้อหาปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอม หรือความผิดอื่นตามที่ปรากฏจากการสอบสวนและขอให้เรียกเงินจำนวนที่สูญหายพร้อมดอกเบี้ยคืนให้กับสหกรณ์ด้วยซึ่งคดีอยู่ระหว่างขั้นตอนการสอบสวนของพนักงานสอบสวน

ในวันที่ 17 เม..63 สก.ขก.ได้ฟ้องคดีอาญาต่อศาลจังหวัดขอนแก่นโดยตรง โดยฟ้องบุคคลที่มีหลักฐานปรากฏว่าได้กระทำความผิดหรือมีส่วนร่วมกระทำความผิด จำนวน 5 คน ในความผิดฐานร่วมกันยักยอกทรัพย์ ปลอม และใช้เอกสารสิทธิ์ปลอมและรับของโจร

ส่วนกรณีที่มีบุคคลอื่นเกี่ยวข้องด้วยนอกเหนือจากบุคคลที่สหกรณ์ฟ้องคดีนั้น ขณะนี้เป็นเรื่องที่อยู่ในขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรม ทั้งจากการสอบสวนของพนักงานสอบสวนตามที่สหกรณ์ได้ร้องทุกข์ไว้ และการตรวจสอบโดยทีมทนายความของสหกรณ์เพื่อดำเนินการกับผู้ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม

ประเด็นที่ 3.การใช้อำนาจของสหกรณ์จังหวัดขอนแก่นในฐานะรองนายทะเบียนสหกรณ์ วันที่ 5 ก.พ. 63 ผู้สอบบัญชีได้ความเห็นต่องบการเงินของสอ.ขก.อย่างมีเงื่อนไข จากเหตุที่ผู้รับผิดชอบในความเสียหายทำสัญญารับสภาพหนี้กับสหกรณ์เป็นลูกหนี้เงินสดขาดบัญชี จำนวน 431,862,070.43 บาท โดยนำที่ดินจำนวนกว่า 202 ไร่ ราคาประเมิน 169,710,750.00  บาท มาเป็นหลักประกันการชดใช้คืน

แต่มูลค่าของหลักประกันไม่ครอบคลุมจำนวนเงินสดขาดบัญชี ยังขาดอยู่จำนวน 262,151,320.43  บาท และสหกรณ์ตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเพียง 30 ล้านบาท จึงทำให้กำไรสุทธิของสหกรณ์ปรากฏในจำนวน 1,126,271,660.15  บาท ซึ่งหากสหกรณ์ตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญโดยถูกต้อง กำไรสุทธิของสหกรณ์ที่ถูกต้องจะเป็นจำนวน 894,120,339.72 บาท

วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2563 สำนักงานสหกรณ์จังหวัดขอนแก่น ได้รับรายงานข้อสังเกตที่ตรวจพบจากการตรวจสอบบัญชี สหกรณ์จังหวัดขอนแก่น ในฐานะรองนายทะเบียนสหกรณ์ ปฏิบัติการแทนนายทะเบียนสหกรณ์ จึงออกคำสั่งนายทะเบียนสหกรณ์ ที่(ขก) 18/2563 ให้คณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์แก้ไขข้อบกพร่องโดยดำเนินการให้ผู้รับผิดชอบจัดหาหลักประกันให้ครอบคลุมจำนวนเงินสดขาดบัญชีและให้นำกำไรสุทธิในจำนวนที่ถูกต้องตามที่ผู้สอบบัญชีแสดงความเห็น คือ 874,120,339.72 บาทเสนอต่อที่ประชุมใหญ่เพื่อจัดสรรกำไรสุทธิประจำปี ต่อมาเมื่อสหกรณ์ได้รับแจ้งคำสั่งแล้วได้รายงานการปฏิบัติตามคำสั่งสหกรณ์โดยได้มีหนังสือลงวันที่ 7 ก.พ. 63 ขอให้ผู้รับผิดชอบนำหลักประกันมาเพิ่มเติมให้ครบคลุมจำนวนเงินสดขาดบัญชีแล้ว

วันที่ 13 ..63 สหกรณ์ได้นำกำไรสุทธิในจำนวน 1,126,271,660.15 บาท เสนอต่อที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปี 62 ซึ่งที่ประชุมมีมติอนุมัติให้จัดสรรกำไรสุทธิตามที่เสนอ จึงไม่เป็นไปตามที่ผู้สอบบัญชีได้แสดงความต่องบการเงินและไม่เป็นไปตามคำสั่งของนายทะเบียนสหกรณ์ ซึ่งสหกรณ์ได้อุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวและนายทะเบียนสหกรณ์ได้วินิจฉัยแล้วให้ยกอุทธรณ์ของสหกรณ์

วันที่ 6 มีนาคม 63 สหกรณ์จังหวัดขอนแก่นในฐานรองนายทะเบียนสหกรณ์ จึงมีคำสั่งรองนายทะเบียนสหกรณ์ ที่ (ขก) 31/2563 เพิกถอนมติที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2562 เมื่อวันที่ 13 ก.พ. 63 และคำสั่งรองนายทะเบียนสหกรณ์ ที่ (ขก) 32/ 2563 เพิกถอนมติที่ประชุมคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ ครั้งที่ 46/2562  เมื่อวันที่ 5 ก.พ.63 เฉพาะระเบียบวาระการจัดสรรกำไรสุทธิประจำปี 2562 สหกรณ์จึงอุทธรณ์คำสั่งทั้ง 2 ต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ ซึ่งต่อมาคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ได้พิจารณาแล้วมีมติยกอุทธรณ์ของสหกรณ์ทั้ง 2 คำสั่ง

ทั้งนี้สอ.ขก.ยังคงมีสิทธิโต้แย้งคำสั่งนายทะเบียนสหกรณ์ และคำสั่งรองนายทะเบียนสหกรณ์ดังกล่าวได้ ด้วยการฟ้องคดีต่อศาลปกครองภายใน 90 วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งผลการอุทธรณ์

ประเด็นที่ 4 เหตุที่รองนายทะเบียนสหกรณ์ยังมิได้พิจารณาสั่งปลดคณะกรรมการดำเนินการสก.ขก. ชุดปัจจุบัน ด้วยเหตุว่าขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการของสำนักงานสหกรณ์จังหวัดขอนแก่นในการตรวจสอบข้อเท็จจริงและแสวงหาพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องและจะต้องตรวจสอบว่าการที่สหกรณ์มีมติอนุมัติจัดสรรกำไรสุทธิในจำนวน 1,126,271,660.15 บาท ตามที่ถูกเพิกถอนมติที่ประชุมไปแล้ว ได้ทำให้สหกรณ์เสียหายหรือสมาชิกต้องเสื่อมเสียประโยชน์ย่างไรหรือไม่

ส่วนกรณีการปฏิบัติตามคำสั่งนายทะเบียนสหกรณ์ และคำสั่งรองนายทะเบียนสหกรณ์ของคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ฯขณะนี้เบื้องตันสหกรณ์ได้รายงานว่าจะมีหนังสือให้ผู้รับผิดชอบจัดหาหลักประกันเพิ่มเติมอีกครั้ง    และสหกรณ์ได้กำหนดการประชุมใหญ่วิสามัญเพื่อจัดสรรกำไรสุทธิประจำปี 2562 ใหม่ภายในเดือน มิ.ย.62 โดยจะนำกำไรสุทธิในจำนวน 894,120,339.72  บาท เสนอต่อที่ประชุมใหญ่เพื่อจัดสรรกำไรสุทธิประจำปี 62 ต่อไป

…………………………..

 

แสดงความคิดเห็น