“สวาท ธีระรัตนนุกุลชัย” รองประธานหอการค้าไทย ประธานหออีสาน ระบุไม่สามารถลงไปเกี่ยวข้องกับปัญหาความขัดแย้งภายในหอการค้าโคราชได้ เนื่องจากเป็นปัญหาภายในและหอการค้าแต่ละแห่งมีสถานะเป็นนิติบุคคลที่สามารถออกกฎระเบียบของตนมาบังคับใช้ได้เอง
กรณีนายชัชวาล วงศ์จร อดีตประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา ได้แจ้งความดำเนินคดีกับนายทวิสันต์ โลณานุรักษ์ อดีตประธานหอการค้าจังหวัดรุ่นพี่ฐานหมิ่นประมาท ความคืบหน้าล่าสุด “อีสานบิซ” ได้สอบถามความเห็นไปยังนายสวาท ธีระรัตนุกุลชัย ประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในฐานะรองประธานหอการค้าไทยนายสวาท กล่าวว่า ตนได้ลงไปดูเหตุการณ์ที่หอการจังหวัดนครราชสีมาแล้ว แต่ไม่ต้องการที่จะต่อความยาวสาวความยืดอีกโดยระบบตรวจสอบของหอการค้าจังหวัดนครราชสีมามีความแข็งแรงอยู่แล้ว เราต้องยึดมั่น ว่าเมื่อฝ่ายตรวจสอบยืนยันว่าถูกต้องแล้วก็ต้องเป็นไปตามนั้น
“ผมลงไปดูแล้ว เป็นเรื่องภายในบ้านของเขา จะต้องจบที่ครอบครัว ผมไปดูกระบวนการแล้วครบถ้วน การตรวจสอบความโปร่งใส มีประธานฯและอดีตประธานฯ ร่วมกันตรวจสอบ ถ้าเขายืนยันว่าถูกก็จบ เป็นกติกาของบ้านเขา หอการค้าไทยไม่สามารถไปกำหนดอะไรได้”นายสวาทกล่าว
รองประธานหอการค้าไทย กล่าวอีกว่า มีสื่อโทรศัพท์มาสอบถามตนหลายราย ตนก็บอกไปว่าไม่สามารถให้ความเห็นอะไรได้ และความจริงก็ไม่มีใครเข้าไปสั่งการอะไรได้ เพราะหอการค้าจังหวัดเป็นองค์กรนิติบุคคล ที่แยกเป็นเอกเทศ สามารถออกกฎระเบียบของตนเองได้ เมื่อถึงเวลาแต่ละจังหวัดก็จะต้องส่งงบดุลบัญชีให้มีการตรวจสอบไม่เหมือนองค์กรอื่นๆ กฎระเบียบเขียนเอง แต่ละจังหวัดเป็นเอกเทศ
“ผมไม่เห็นด้วยกับการออกมสาวไส้กันเองมันไม่ถูกต้อง หากไม่ไว้วางใจก็สามารถสอบถามในที่ประชุมใหญ่ได้เหมือนผู้ถือหุ้นของบริษัทที่สามารถถามในที่ประชุมได้หากสงสัยเรื่องอะไร ไม่ใช่ออกไปประจานกัน ผมไปดูแลแล้วเป็นเรื่องภายในครอบครัวของเขาเอง ผมไม่สามารถออกความเห็นได้ครับ”นายสวาทกล่าว
นายสวาทกล่าวอีกว่า ตนทราบว่าปัญหาเกิดขึ้นในช่วงสถานการณ์โควิด 19 แพร่ระบาด ซึ่งโดยข้อเท็จจริงขณะนั้นสามานรถที่จะปรับเปลี่ยน หรือแปรสภาพได้ไม่สามารถยึดหลักการเดิมได้ตลอด เราเป็นคนหอการค้าฯด้วยกันต้องคุยกัน ถ้าคุยไม่ได้ก็ต้องใช้กฎหมายคุย
“ปัญหาที่หอฯหนองคายก็เหมือนกัน มีการไปฟ้องศาล ว่า การส่งหนังสือเชิญประชุมตามระเบียบต้องลงทะเบียนตอบรับ แต่เจ้าหน้าที่ต้องการประหยัดเลยส่งแบบธรรมดา มีการไปฟ้องศาลเพื่อให้การประชุมเป็นโมฆะ ซึ่งเป็นเรื่องภายในหอการค้าจังหวัดซึ่งเป็นนิติบุคคล”นายสวาทกล่าว
รองประธานหอการค้าไทย กล่าวอีกว่า ตนเป็นผู้ใหญ่แล้วจะไปยืนข้างใดข้างหนึ่งไม่ได้เป็นเรื่องที่ตนไม่สามารถตอบได้ หอการค้าจังหวัดนครราชสีมาเขามีฝ่ายตรวจสอบแล้วชัดเจน อดีตประธานฯ เป็นคณะกรรมการฯ เขาก็รักองค์กรเหมือนกัน ตนรายงานผู้ใหญ่ไปแล้วว่า เป็นเรื่องภายในครอบครัว ตนต้องให้เกียรติฝ่ายตรวจสอบ คนที่เป็นประธานฝ่ายตรวจสอบแข็งแรง
“หากมีการใช้เงินไม่ถูกต้องก็จะต้องให้ความเห็นเพื่อรักษาผลประโยชน์ของสมาชิก การตรวจสอบของคณะทำงานไม่ผิดอะไร และได้ชี้แจงในที่ประชุมไปแล้ว ผมคงไม่เข้าไปทำหน้าที่เจรจาเป็นเรื่องหอโคราช ผมรู้จักทั้งคู่ ประธานปัจจุบันกับอดีตประธานฯ”นายสวาทกล่าวและว่า
ระเบียบของแต่ละจังหวัดเป็นอย่างไร ก็ต้องใช้ระเบียบของจังหวัดนั้น ต้องไปคุยกันเอง ปัญหาที่เกิดขึ้นในภาคอีสานตนลงไปดูทุกแห่ง แต่พูดมากก็เป็นการสาวไส้กันเอง แต่ละคนก็พูดเข้าข้างตัวเอง ไม่มีใครว่าตนเองผิด ตนก็ใช้หลักการตรวจสอบยืนยันว่าถูกต้องก็ถูกต้อง
รองประธานหอการค้าไทย กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต้องปล่อยให้เขาใช้สิทธิทางกฎหมายไป เป็นเรื่องการละเมิด แต่ตนเชื่อว่า สุดท้ายก็น่าจะคุยกันได้ ตนถามไปว่าทำไมต้องฟ้อง เขาต้องฟ้องเพราะเป็นการใส่ร้าย เขาต้องรักษาสิทธิ์ แต่อย่างไรก็ตามคนบ้านเดียวกันน่าจะคุยกัน
“ผมทราบว่าคุณศักดิ์ชัย ประธานฯคนปัจจุบันได้ประกาศแล้วว่าจะไม่ลงสมัครต่อเป็นวาระที่สอง ตอนนี้กำลังดูใครจะลงแทน ต้องคุยกันผู้ใหญ่ต้องเห็นด้วยยากอยู่ ผมเสียดาย คุณศักดิ์ชัย แกทำงานดี แต่ท่านบอกคงไม่เอาแล้วเพราะ ผู้ใหญ่ทะเลาะกัน”นายสวาทกล่าวและว่า
ตนอยู่ทั้งสองฝ่ายอยากให้ทุกอย่างราบรื่นเดินหน้าต่อไปได้ เป็นเรื่องภายในของหอการค้าโคราช สมัยต่อไปหอการค้าภาคอีสานมีการเปลี่ยนแปลงหลายแห่ง มีประธานฯหน้าใหม่เยอะมาก อุดรฯก็จะเปลี่ยนแต่ยังไม่ได้คุยกันหลายจังหวัดส่งคนรุ่นใหม่ขึ้นมา หนองคาย อุดรฯ เลย บึงกาฬ หนองบัวฯ อีกสานตอนบนเปลี่ยนประธานเยอะ
ส่วนขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด สุรินทร์ อุบลฯคนเดิม ส่วนศรีสะเกษ น่าจะเปลี่ยน ยโสฯ อำนาจเจริญยังไม่มั่นใจ 20 จังหวัดเปลี่ยนมาก หอการค้าภาคอีสานควงจะต้องจะวางยุทธศาสตร์ร่วมกันใหม่ ตนคงจะดูห่างๆไม่เข้าไปคลุก หอการค้าโคราชเขามีระบบที่ดีมาก ระบบตรวจสอบแข็งแรง เข็มแข็ง เขารักษาผลประโยชน์สมาชิก บางจังหวัดไม่มีเลย หาหลักไม่เจอ เราต้องให้เกียรติ ไม่ออกความเห็น ไม่ยุ่ง ตนไม่อยากให้ภาพสาธารณะที่ไม่ดี มีอะไรคุยกันในบ้าน
ตนว่าเป็นเรื่องภายในคนที่นั่นตรวจสอบกันเอง คงต้องเป็นอย่างนั้น คนที่ไหนก็ไปตัดสินแทนไม่ได้ ต้องเป็นคนโคราช ไม่ดีสมัยหน้า ทีมใหม่ก็ไม่ได้เข้าไป พ่อค้าไม่ใช่นักการเมือง เราโกหกใครไม่ได้ เราพูดขาวเป็นดำหรือดำเป็นขาวไม่ได้ ต้องชัดเจน แต่ถ้าเป็นนักการเมือง เขาสามารถพูดดำเป็นขาวได้ เรื่องนี้ชัดเจน คนไหนทำธุรกิจแล้วโกง คนนั้นอยู่ไม่ได้โกหกกันไม่ได้อยู่แล้ว
………………………….