ธุรกิจยุคใหม่ต้องพึ่งเทคโนฯดิจิทัลถึงไปรอด หนุนจัดSmart Businessฯ ขอนแก่นตลาดนัดผู้ผลิต/ผู้ใช้ซอฟแวร์
ชี้ธุรกิจอุตสาหกรรมไทยเข้าสู่ยุคต้องพึ่งพาเทคโนโลยีดิจิทัลแบบเบ็ดเสร็จ องค์กรธุรกิจใดไม่ปรับตัวไปไม่รอด สถาบันการศึกษาผลิตคนป้อนตลาดแรงงานด้านไอทีไม่ทันความต้องการ เผยงานSmart Business Expoที่ขอนแก่นเป็นอีเว้นท์ใหญ่ที่ผู้ผลิตและผู้ต้องการใช้ซอฟแวร์ใหม่ๆต้องไปร่วม มั่นใจเป็นงานระดับ flagshipของภาคอีสานที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจสมัยใหม่ทั้งหลาย
นายทินกร เหล่าเราวิโรจน์ อดีตนายกสมาคมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ไทย (ATSI) เปิดเผยถึงอุตสาหกรรมซอฟแวร์หรือเทคโนโลยีดิจิทัลของไทยเติบโตไปตามภาวะแวดล้อมของการปรับเปลี่ยนของเทคโนโลยีสมัยใหม่ องค์กรธุรกิจทั้งรายเดิมหรือรายใหม่ที่เกิดขึ้นล้วนต้องอาศัยเทคโนโลยีดิจิทัลเป็นเครื่องมือบริหารจัดการ ต้องมีแผนกไอทีมีบุคลากรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านซอฟแวร์คอยสนับสนุนการขับเคลื่อนธุรกิจ ไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถดำเนินกิจการหรือแข่งขันในตลาดได้ การทำธุรกิจในยุคปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมเมื่อหลายปีก่อนอย่างสิ้นเชิง
แต่ละองค์กรต้องการคนเขียนโปรแกรมและคนใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ ไม่ว่าบริษัทห้างร้านนั้นจะมีขนาดเล็กหรือใหญ่มีความจำเป็นต้องใช้บุคคลากรด้านไอทีเหมือนกัน จึงทำให้ในตลาดแรงงานเริ่มขาดแคลนคนกลุ่มนี้ ในระยะหลังหลายบริษัทต้องหาทางออกด้วยการรับสมัครบัณฑิตที่จบในสาขาใกล้เคียงแล้วนำมาฝึกอบรม ฝึกงานเรียนรู้กับผู้เชี่ยวชาญ
“บุคลากรด้านเทคโนโลยีหรือปัญญาประดิษฐ์ไม่ว่าประเทศไหนก็เจอปัญหาขาดแคลนไม่ต่างกัน จะมากหรือน้อยเท่านั้น เพราะธุรกิจใหม่ๆเกิดขึ้นแทบทุกวันและต้องใช้คนที่มีความรู้ด้านไอทีประจำองค์กร บริษัทห้างร้านใดที่ไม่ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นเครื่องมือช่วยทำธุรกิจการค้า ก็ให้เตรียมใจไว้เลยว่าอยู่ในตลาดไม่ได้” นายทินกรกล่าว
นายทินกรกล่าวอีกว่า งาน Smart Business Expo 2022 ที่หอการค้าจังหวัดขอนแก่นเป็นโต้โผจัดขึ้นระหว่างวันที่ 5-9 ตุลาคมนี้ ถือเป็นอีเว้นท์ที่น่าสนใจมาก เพราะดึงดูดภาคส่วนต่างๆเข้าร่วมงานได้ทั้งระดับจังหวัดและภูมิภาค และด้วยความร่วมมือจากสมาคมฯ ที่จะดึงผู้พัฒนาซอฟต์แวร์จากกรุงเทพ และพันธมิตรด้านดิจิทัลทั้งหลายทั้งภาครัฐและเอกชนจากส่วนกลางเข้าร่วมงานนี้ จะทำให้งาน Smart Business Expo ที่ทางจังหวัดขอนแก่นจัดขึ้นมีโอกาสที่จะเป็นงานระดับ flagship ของภาคอีสาน ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจสมัยใหม่ทั้งหลาย
รวมถึงเทรนด์ด้านการจ้างงานที่แปรเปลี่ยนไปในยุค wfh หรือ work from anywhere ที่นักศึกษาจบใหม่ด้านเทคโนโลยีในภาคอีสาน อาจได้โอกาสการทำงานกับบริษัทไอทีระดับประเทศ ได้เงินเดือนเท่าเทียมกัน แต่อยู่อาศัยในขอนแก่นหรือจังหวัดใกล้เคียง ที่มีค่าใช้จ่ายถูกกว่ากรุงเทพ หรือ อาจเกิดการเรียนรู้จาก Local Influencer ที่เป็นแนวทางสร้างรายได้ในยุคใหม่ ที่แม้จะเป็นคนอีสาน ก็สามารถโด่งดัง มีผู้ติดตามได้จากทั่วทุกมุมโลก และสร้างรายได้อย่างยั่งยืน
สิ่งเหล่านี้ และอีกมากมายที่จะได้เห็นในงานครั้งนี้ จึงอยากจะเชิญชวนทุกท่านให้เข้ามามีส่วนร่วมในงาน มาเดินชมเทคโนโลยีดิจิทัลใหม่ๆ นวัตกรรมด้านไอทีที่สร้างสรรค์จากคนรุ่นใหม่ มาหาโอกาสทางธุรกิจ และเติบโตในยุคดิจิทัลไปด้วยกัน
นายทินกรกล่าวแสดงความเห็นเพิ่มเติมว่า จังหวัดขอนแก่นเป็นสมาร์ทซิตี้ที่มีความก้าวหน้าในเรื่องของเทคโนโลยีดิจิทัลค่อนข้างมาก มีบุคคลากรที่ทำงานเกี่ยวกับไอที เขียนโปรแกรมซอฟแวร์เชิงธุรกิจจำนวนไม่น้อย แต่ส่วนใหญ่จะเป็นการรับจ้างผลิต รับจ้างครีเอทให้กับผู้ว่าจ้างหรือบริษัทใหญ่ในกรุงเทพมากกว่า ซึ่งงานลักษณะนี้จะมีข้อเสียที่จบกันเป็นงานๆไป ส่งงานรับค่าจ้างมาก็จบ เหมือนขายไอเดียขายความคิดสร้างสรรค์เป็นชิ้นๆ
“สิ่งที่ผมหรือสมาคมอุตสาหกรรมซอฟแวร์ไทยอยากเห็นอยากให้เกิดขึ้นกับนักผลิตซอฟแวร์ นวัตกรทางไอทีไม่ว่าจะอยู่ในขอนแก่นหรือในจังหวัดไหนของไทยก็ตาม คือการที่คนของเราพัฒนาก้าวสู่การเป็นผู้ผลิตที่เป็นเจ้าของโปรดักส์ เป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ซอฟแวร์ ผลิตเสร็จก็จดลิขสิทธิ์ ใครสนใจก็มาซื้อไปใช้งานซื้อไปพัฒนาต่อยอดในขั้นสูงขึ้นไปอีก งานอย่างนี้สามารถผลิตขายได้หลายๆครั้ง มูลค่าของผลงานไม่จบสิ้น”นายทินกรกล่าว