วันที่19 พฤศจิกายน 65 เวลา15.00 น .ผู้สื่อข่าว ได้เดินทางไปบ้านพักเลขที่ 103/11 บ้านหนองขาม ตำบลหนองบัว อ.เมืองอุดรธานี หลังจากได้รับการร้องเรียนว่าจากผู้เสียหาย ว่ามีคนร้ายเข้ามางัดบ้าน กวาดเงินสดไป7 หมื่นกว่าบาท ในกระปุกออมสินทั้ง 2 กระปุก แถมยังเอาปลาทูไปเวฟให้สุก แล้วนำมากินเหมือนว่าเป็นบ้านของตัวเอง ซึ่งมีภาพกล้องวงจรปิด สามารถบันทึกภาพเอาไว้ ตอนคนร้ายเดินเข้าไปก่อเหตุ
โดยเป็นบ้านปูนชั้นเดียว มีรั้วรอบชิดพบ นายกิตติธัช วิริยะจิตต์ อายุ31ปี เจ้าของบ้าน เล่าว่า ตนทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารแห่งหนึ่งในตัวเมืองอุดรธานี เมื่อวานนี้หลังเลิกงานกลับมาบ้านผิดสังเกต เหมือนของในบ้านโดนรื้อค้น จึงได้สำรวจทรัพย์สินมีอะไรหายไปบ้าง พบว่ากระปูกออมสินของลูกสาว ที่วางอยู่ชั้นข้างทีวีห้องรับแขก โดนงัด มีเงินสดธนบัตร จำนวน2,000 บาท ได้หายไป ส่วนเงินเงินเหรียญ จำนวน1,000 บาท ที่อยู่ในกระปุกออมสิน คนร้ายได้เอาผ้าเช็ดมือมาห่อไว้ แล้ววางอยู่บนเก้าอีโซฟา นอกจากนี้คนร้ายก็เข้าไปในห้องนอนของน้องสาวภรรยา งัดกระปุกออมสิน ได้เงินสดเป็นธนบัตรไป จำนวน 7 หมื่นกว่าบาท แต่เงินเหรียญจำนวน15,000 บาท คนร้ายนำมาใส่ไว้ในย่ามซึ่งมีน้ำหนัก จึงไม่ได้เอาไป
และยังพบว่าปลาทู จำนวน2 ตัว ในตู้เย็นคนร้ายนำไปทำการเวฟที่เครื่องไมโครเวฟ แล้วนำมากินทำเหมือนว่าเป็นบ้านของตัวเอง กินจนหมดเหลือแต่ก้างปลาทู จึงนำไปทิ้งที่ถังขยะ หลังจากนั้นตนจึงได้ไปขอดูกล้องวงจปิดจากเพื่อนบ้านพบว่า คนร้าย เป็นชายรูปร่างสันทัด ผิวคล้ำ อายุประมาณ25-30 ปี สวมเสื้อยืดแขวนสั้น ลายสีน้ำตาล นุ่งกางเกงขาสั้น เดินเข้าในซอย ช่วง เวลา15.21 น. ของวันที่18 พฤศจิกายน ก่อนคนร้ายปีนกำแพงข้างบ้านเข้ามา แล้วไปทำการเปิดหน้าต่างห้องนอนของตน ซึ่งไม่ได้ล็อคกลอน เป็นช่องทางที่คนร้ายเข้าไปในบ้านได้ โดยมีร่องรอยรอยเท้า และรอยนิ้ว ของคนร้าย ที่โต๊ะเครื่องแป้ง ซึ่งคนร้ายก็ปีนหน้าต่างห้องนอนของตนออกมา เวลา15.53 น. ก่อนที่จะสวมแมสสีดำปิดบังหน้าใบ หลบหนีไปอย่างรอยนวล
ต่อจากนี้ก่อนที่จะออกจากบ้านตองให้รอบครอบ ทำการปิดประตูหน้างต่างทุกห้องใส่กลอน รวมจะติดตั้งกล้องจรปิด เอาไว้ภายในบ้าน เพื่อแจ้งเตือนหรือเปิดดูว่ามีคนร้ายมาเข้าบ้านตนหรือไม่ วอนเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ติดต่อจับจับกุมคนร้ายให้ได้เนื่องจากสงสารน้องสาร เพื่อคนร้ายอาจจะใช้เงินยังไม่หมด ซึ่งก็ได้ทำการแจ้งความกับตำรวจ เอาไว้เป็นที่เรียบร้อยเอาไว้แล้ว
ส่วนน.ส.จุฑารัตน์ อักษร อายุ26ปี น้องสาว เล่าว่า บ้านหลังอยู่ด้วยกัน 5 คน ตนทำงานเป็นเจ้าหน้าที่พัสดุ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ทุกคนออกจากบ้านไปทำงานกันหมด หลานสาวก็ไปเรียนหนังสือ เมื่อวานนี้แฟนของตนกลับมาถึงบ้านก่อน แล้วก็ออกจากบ้านไปทำธุระ แต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไร พอพี่เขยกลับมาถึงบ้าน จึงมารู้ว่าโจรขึ้นบ้าน เงินที่ตนอยู่กระปุกออมสิน หยดวันละ1,000- 400 บาท ทุกวัน มาเป็นระยะเวลา3-4 ปี ตั้งใจว่าจะเป็นนำไปเป็นทุนเงินอะไรสักอย่าง แต่ที่สำคัญตั้งใจเอาไปใช้เรียนภาษาต่อเมืองนอกที่ประเทศออสเตรเลีย พอรู้ว่าเงินของตนโดนขโมย ตนเองนั่งร้องเรียนอยู่ที่ทำงานรู้สึกเสียดายเงินก้อนนี้มากทำให้หมดไปเรียนต่อเมืองนอกเลย จากนี้ไปตนก็จะนำเงินที่อยู่กระปุกสิน หากมีจำนวนมากก็จะรีบเอาไปฝากธนาคาร