จี้อำเภอบ้านผือ ตำรวจ สภ.บ้านผือ และ สำนักงานสรรพากรพื้นที่อุดรธานี ตรวจสอบแอดมินกลุ่ม “อำเภอบ้านผือ” ภายหลังแจ้งเก็บค่าบำรุงสมาชิกซึ่งเป็นพ่อค้าแม่ค้าในพื้นที่เดือนละ 200 บาท ภายหลังโพสต์มีคนโอนให้จำนวนมาก สื่อตรวจสอบพบกลุ่มลงขายสินค้าหลายกลุ่มให้ลงฟรีไม่คิดเงิน พบช่วงโควิด-19 เปิดรับบริจาคส่อไม่โปร่งใสแต่ไร้หน่วยงานตรวจสอบ ด้านพ่อค้า-แม่ค้าระบุปกติโพสต์ขายของ ขายสินค้าไม่เคยเสียเงิน ยิ่งช่วงเศรษฐกิจฝืดเคืองไม่ควรทำแบบนี้ วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบพฤติกรรมด่วน
วันนี้ (8 ธ.ค. 65) ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากบรรดาพ่อค้า แม่ค้า และผู้ประกอบการในพื้นที่ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ให้ตรวจสอบกรณีกลุ่มเฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า “อำเภอบ้านผือ” ได้มีแอดมินเพจ โพสต์มีรายละเอียดว่า “พรุ่งนี้จะมีการเก็บค่าบำรุงและสนับสนุนกลุ่มนะคะเดือนละ 200 บาทจ้า ร้านค้าที่ไม่ลงทะเบียนจะไม่ได้โพสต์หากยังไม่สะดวกรอสะดวกก่อนนะคะค่อยโพสต์ทีหลังก็ได้จ้า ตอนนี้มิจฉาชีพเยอะ คนโพสต์ป่วนเนอะค่ะขออนุมัติเฉพาะร้านที่ลงทะเบียนนะคะ”
โดยภายหลังจากที่แอดมินคนดังกล่าวโพสต์ได้มีพ่อค้า แม่ค้า และผู้ประกอบการสอบถามวิธีการดำเนินการเป็นจำนวนมาก รวมทั้งสอบถาม ซึ่งมีพ่อค้า แม่ค้า ผู้ประกอบการบางส่วนโอนเงินให้ บางรายโอนล่วงหน้าหลายเดือน แต่บางรายก็เข้าไปสอบถามพร้อมตั้งข้อสังเกตว่าทำไม่ถูกต้อง และบางส่วนถึงกับตั้งคำถามว่าเหตุใดถึงมีการเรียกเก็บเงินเพราะโพสต์ในกลุ่มอื่นๆที่ขายสินค้า ขายของสารพัดไม่เห็นถูกเรียกเก็บ
ต่อกรณีดังกล่าวจากการตรวจสอบของสื่อมวลชนพบว่ากลุ่มดังกล่าว (อำเภอบ้านผือ) มีสมาชิกในกลุ่มเกือบ 5 หมื่นคนที่ผ่านมาพ่อค้า แม่ค้า ผู้ประกอบการสามารถโพสต์ขายของ ขายสินค้าได้ตามปกติไม่มีการเรียกเก็บเงิน โดยมีแอดมินคนดังกล่าวคอยดูแล แต่ช่วงหลังๆได้มีการตั้งกฎพร้อมเรียกเก็บเงิน โดยอ้างมิจฉาชีพคอยป่วน
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามแอดมินหลายท่านที่ตั้งกลุ่มขึ้นมาขายสินค้า ขายอาหาร ได้ข้อมูลว่า ปกติการตั้งกลุ่มขายของ ขายสินค้า ขายอาหาร จะให้ทุกคนโพสต์ฟรี แต่จะมีกฎของกลุ่มอยู่แล้วเช่น ห้ามโพสต์ไม่สุภาพ ห้ามหมิ่นสถาบัน ห้ามลงขายของที่หลอกลวง หากแอดมินตรวจพบก็จะลบและแบนออกจากกลุ่ม ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติของกลุ่มขายสินค้า ขายอาหารอยู่แล้ว แต่ไม่มีการเรียกเก็บเงินจากสมาชิกในรูปแบบที่แอดมินกลุ่ม “อำเภอบ้านผือ” กำลังทำอยู่
ทั้งนี้ผู้ประกอบการ พ่อค้า แม่ค้า และประชาชนในพื้นที่อยากให้ทางอำเภอบ้านผือ ตำรวจ สภ.บ้านผือ และ สรรพากรอำเภอบ้านผือ เข้ามาตรวจสอบเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน เพราะส่อเจตนาไม่โปร่งใสกระทบต่อประชาชนในยุคเศรษฐกิจฝืดเคือง
สำหรับแอดมินรายดังกล่าวในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ก็มีการเปิดรับบริจาค แต่การจัดการและการชี้แจงเมื่อได้เงินบริจาคไปแล้วไม่มีความโปร่งใส ไม่สามารถตรวจสอบได้ และไม่มีหน่วยงานไหนเข้าตรวจสอบ จนกระทั่งมาเรียกเก็บเงินค่าโพสต์ในครั้งนี้จึงมีพ่อค้า แม่ค้า ผู้ประกอบการ และประชาชนทั่วไปร้องเรียนมาที่สื่อมวลชนเพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบเพื่อให้เกิดความโปร่งใสและมีความเป็นธรรมกับทุกคน.