เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 12 ธันวาคม 2565 ขณะที่ ร.ต.อ.เอกชัย คนคม รอ สว.สอบสวน สภ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี ปฏิบัติหน้าที่อยู่บนโรงพัก รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ภ.จ.อุดรธานี ว่ามีเหตุคนร้ายขโมยข้าวสารเหนียว จำนวน 5 กิโลกรัม และผลไม้ จำนวน 1 กล่อง ที่วางไว้อยู่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 340 ม.10 ถ.จำปี ต.กุมภวาปี อ.กุมภวาปี ที่เกิดเหตุมีกล้องวงจรปิดบันทึกภาพคนร้ายขณะก่อเหตุเอาไว้ได้ จึงออกไปตรวจสอบพร้อมด้วยตำรวจชุดสืบสวน
ที่เกิดเหตุพบ นายรัฐพงษ์ ขันธีวิทย์ อายุ 40 ปี เจ้าของบ้าน เจ้าหน้าที่พัสดุ รพ.กุมภวาปี เปิดคลิปภาพจากโทรศัพท์มือถือ ที่บันทึกมาจากกล้องวงจรปิดบริเวณหน้าบ้าน พบคนร้ายเป็นหญิงอายุประมาณ 40-50 ปี สวมเสื้อยืดแขนยาวสีส้ม ขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้างหรือรถซาเล้ง ตระเวนเก็บของเก่าขาย เดินลงมาเลือกข้าวข้องที่วางอยู่หน้าบ้าน โดยเลือกหยิบเอาข้าวสารเหนียวที่อยู่ในถุงพลาสติก จำนวน 5 กิโลกรัม และกล่องกระดาษข้างในมีผลไม้นาๆชนิดตามฤดูกาล ขึ้นรถซาเล้งหลบหนีไปทางตลาดเทศบาลเมืองกุมภาวาปี
นายรัฐพล ขันธีวิทย์ เปิดเผยว่า ทรัพย์สินที่ถูกคนร้ายขโมยเอาไป เป็นของแม่บ้านหรือคนงานมาทำความสะอาดที่บ้านมาได้ประมาณ 4-5 ปี โดยซื้อเตรียมไว้เป็นเสบียงให้สามีที่นอนเฝ้าไร่อ้อย ให้กับนายจ้าง ซึ่งเป็นพี่สาวของตนเอง มาบอกตนว่าข้าวของที่เตรียมไว้ไปนอนเฝ้าไร่อ้อยกับสามี ที่วางไว้ที่หน้าบ้านหายไป ทีแรกแม่บ้านคิดว่าตนเป็นคนเก็บเอาไว้ กระทั่งช่วงเย็นวันนี้จึงได้มาสอบถาม และทราบว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นเวลาประมาณ 15.00 น. วันที่ 11 ธันวาคม ที่ผ่านมา หลังจากตนเปิดกล้องวงจรปิดดู พบคนร้ายเป็นผู้หญิง อายุประมาณ 40-50 ปี ขี่รถซาเล็งวนเวียนอยู่หน้าบ้านประมาณ 3 รอบ ก่อนลงมาจากรถซาเล้งแล้วขโมยถุงข้าวสารเหนียว และกล่องผลไม้ไป รวมมูลค่าประมาณ 500-600 บาท
”ตนก็อยากฝากเตือนภัย และขอให้คนร้ายนำของมาคืน ตนสงสารแม่บ้าน เพราะยุคนี้ข้าวของแพง เบื้องต้นตนก็ได้ให้เงินแม่บ้านไปซื้อข้าวสารและผลไม้ไปนอนเฝ้าไร่อ้อยแล้ว เพราะสงสาร และไม่อยากให้คนร้ายไปทำแบบนี้กับใครอีก เพราะมันไม่ดี อยากได้ให้มาขอกันดีๆตนก็พร้อมจะช่วยเหลือในสิ่งที่พอจะช่วยกันได้”