วันนี้ (19 ก.พ.) ชาวบ้านได้ร้องเรียนสื่อมวลชนให้ลงพื้นที่ตรวจสอบกลุ่มหญิง จำนวน 3 คน นำรถมาบริการนำไข่มาแลกกับเงินสวัสดิการแห่งรัฐในส่วนของค่าช่วยเหลือค่าก๊าซหุงต้ม ที่ตลาดนัดวันจันทร์ บ้านพระบาทนาหงส์ ต.พระบาทนาสิงห์ อ.รัตนวาปี จ.หนองคาย โดยแบ่งหน้าที่กันทำชัดเจนและได้ใช้เครื่องรูดบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ EDC กับชาวบ้าน โดยประชาชนต่างนำบัตรทยอยไปแลกซึ่งมีเพียงบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป กับไข่ไก่ ถ้าเอาไข่ไก่ก็จะได้ 15 ฟอง ถ้าเอาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ก็จะได้ 1 แพ็ค ซึ่งทั้งไข่ไก่และบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ราคาประมาณไม่เกิน 70 บาท จากเงินในบัตรฯ 100 บาท โดยหญิงทั้งสามที่มารับแลกแจ้งว่าก็เป็นค่าดำเนินการ เบื้องต้นผู้สื่อข่าวได้ประสานตำรวจ สภ.รัตนวาปี ร่วมตรวจสอบ ต่อมามี ร.ต.อ. ศุภวัฒน์ ศิริเลี้ยง รอง สวป.สภ.รัตนวาปี พร้อมเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ
จากการซักถามผู้หญิงทั้งสามพยายามบ่ายเบี่ยงที่จะตอบคำถามเจ้าหน้าที่ และไม่ยอมแสดงบัตรประชาชน จนเจ้าหน้าที่ถามหลายรอบจึงตอบแบบอิดออดว่า มาจากจังหวัดอุดรธานี และแจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่าร้านค้าที่ลงทะเบียนและนำไข่มาแลกเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เป็นร้านค้าแห่งหนึ่ง อยู่อำเภอกุดจับ ส่วนพวกตนเป็นเพียงลูกจ้าง โดยใช้รถยนต์ อีซูซุ ตอนเดียวหลังคาตู้ทึบ สีขาว ทะเบียน ผท 193 อุดรธานี เป็นรถยนต์นำไข่ไก่และบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาเต็มคันรถตระเวนในพื้นที่ อ.รัตนวาปี
หญิงทั้งสามคนยังบอกอีกว่าก่อนลงพื้นที่ได้มีการประสานกับตัวแทนในท้องถิ่น ให้เป็นคนนัดชาวบ้านให้นำบัตรประชารัฐมาแลกกับไข่ไก่ พร้อมอ้างว่าเป็นลูกจ้างของนายทุนในพื้นที่จังหวัดอุดรธานีที่ทำสัญญากับกระทรวงพลังงานเพื่อลงพื้นที่ในจังหวัดต่างๆ ของทางภาคอีสาน โดยใช้เงินที่รัฐจัดสรรให้เป็นค่าก๊าซหุงต้มครัวเรือนละ 45 บาท มาแลกกับไข่ไก่ เพราะประชาชนส่วนใหญ่จะไม่ได้ใช้เงินในส่วนนี้ ทำให้เงินส่วนดังกล่าวไม่ถึงมือประชาชนรัฐดึงเงินกลับ
หญิงทั้งสามยังบอกตรงกันอีกว่า เพื่อให้เงินที่รัฐจ่ายผ่านลงมาเกิดประโยชน์และประชาชนได้ใช้เงินในส่วนดังกล่าว ทางร้านค้าที่เป็นนายจ้างของพวกตน จึงไปทำสัญญาดังกล่าวกับกระทรวงพลังงาน และได้ลงพื้นที่นำไข่ไก่มาแลกกับบัตรประชารัฐของประชาชน ยอมรับว่ามีบางส่วนที่ประชาชนไม่เห็นด้วย และประชาชนส่วนใหญ่ก็ยินดีที่จะแลกบัตรกับไข่ไก่ ในส่วนของราคาไข่ไก่ที่นำมาแลกมีราคาสูงและแพงกว่าไปเกือบ 2 บาท เมื่อเปรียบเทียบกับราคาไข่ไก่ในท้องตลาด ทั้งหมดระบุว่า ทางตนต้องมีค่าบริหารจัดการ ทั้งค่าน้ำมันรถ ค่าแรงงาน ค่าถุงพลาสติก ค่ากระดาษ และยังมีค่าเลี้ยงน้ำชากาแฟตัวแทนในท้องถิ่นในพื้นที่ด้วย จึงทำให้ราคาไข่ไก่สูงกว่าราคาในท้องตลาด
อย่างไรก็ดี ในกรณีดังกล่าว ร.ต.อ. ศุภวัฒน์ ศิริเลี้ยง รอง สวป.สภ.รัตนวาปี ได้เก็บรายละเอียดไว้ทั้งหมดแล้ว จากนั้นหญิงทั้งสามจึงเก็บของขึ้นรถก่อนขับรถออกไปจากพื้นที่ในทันที
ต่อกรณีดังกล่าวจากการตรวจสอบของสื่อมวลชนพบว่าการกระทำแบบเข้าข่ายผิดเงื่อนไขการใช้บริการบัตร ซึ่งสุ่มเสี่ยงที่จะถูกเรียกเงินคืน และชาวบ้านที่ไม่รู้ก็จะโดนตัดสิทธิในการใช้บัตร เพราะการใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐผิดวัตถุประสงค์การใช้
ทั้งนี้กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นในหลายจังหวัดทางภาคอีสาน จะมีคนกลุ่มหนึ่งเห็นช่องว่างการทำมาหากินโดยพูดความจริงไม่หมด จะแจ้งประชาชนเพียงว่าเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในส่วนของค่าก๊าซหุงต้ม ถ้าไม่ใช้รัฐบาลก็จะยึดคืน จึงทำให้ประชาชนที่ได้ยินได้รับรู้เกิดการตกใจ นำบัตรฯออกมาแลกไข่และบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกันมากมาย โดยไม่สนใจว่ามูลค่าของสิ่งของที่ได้รับนั้นไม่เท่ากับเงินที่ทางร้านค้าเขาหักไป จึงอยากฝากถึงเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบความถูกต้อง และแจ้งผู้นำชุมชนให้ทราบถึงสิทธิการใช้บัตรฯ เพื่อสร้างความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ต่อไป.