จับหนุ่มนักศึกษาวิ่งราวทอง 4 บาท สารภาพหาเงินใช้หนี้พนันออนไลน์

เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 5 มีนาคม 2566 พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จ.อุดรธานี พ.ต.อ.พงษ์พันธ์ นาขวา ผกก.สภ.กุมภวาปี พ.ต.ท.อาทิตย์ จันทา รอง ผกก.สส.สภ.กุมภวาปี พ.ต.ต.สมภูมิ ขันตีกุล สว.สส.สภ.กุมภวาปี  ได้ควบคุมตัวนายสิทธิศักดิ์ ศรีชาทุม หรือเฟอเฟค อายุ  21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23 หมู่ 4 ต.หนองกุงศรี อ.โนนสะอาด จ.อุดรธานี ผู้ต้องหาตามหมายศาลจังหวัดอุดรธานี ที่ จ 69/ 2566 ลงวันที่ 4 มีนาคม 2566 โดยกล่าวหา  “วิ่งราวทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม”  มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ พร้อมของกลาง รถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ สีบรอนซ์ดำ หมายเลขทะเบียน 2ขด 5579 ขอนแก่น เสื้อผ้าที่ใส่ในวันก่อเหตุ หมวกกันน๊อคสีดำ โทรศัพท์มือถือไอโฟน 14 โปรแม็ก ใบเสร็จรับเงินซื้อทองเก่า

ทั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 3 มีนาคม 2566 ร.ต.อ.จักรกฤษณ์ ศรีกงพาน รอง สว.(สอบสวน) สภ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี ออกไปสอบสวนเหตุวิ่งราวทรัพย์ ห้างทองเยาวราช 2 เลขที่ 468-469 -470 ถนนพิศารสารกิจ เขตเทศบาลตำบลพันดอน  อ.กุมภวาปี  โดยพบ น.ส.มีนตรา ธาดาศุภาภรณ์ อายุ 53 ปี เจ้าของร้านให้การว่า มีคนร้ายเป็นชาย สวมแมสก์  ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดข้างร้านทอง แล้วทำทีมาขอซื้อสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท จึงนำสร้อยทองมาให้เลือกดู คนร้ายได้หยิบเอาสร้อยทองหนัก 2 บาท 2 เส้น มูลค่า 124000 บาท หลบหนีออกจากร้านไป โดยมีภาพกล้องวงจรปิดขณะก่อเหตุเป็นหลักฐาน

ต่อมา พ.ต.ท.อาทิตย์ จันทา รอง ผกก.สส.สภ.กุมภวาปี นำกำลังออกสืบสวนโดยแกะรอยจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คนร้ายหลบหนี จนทราบว่าคนร้ายคือนายสิทธิศักดิ์ ศรีชาทุม อายุ 21 ปี ชาว อ.โนนสะอาด จ.อุดรธานี กำลังศึกษาอยู่วิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งใน อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี  จึงรวบรวมหลักฐานและพยานขออนุมัติศาลออกหมายจับ และเย็นวันที่ 4 มีนาคม ได้นำกำลังเข้าจับกุมนายสิทธิศักดิ์ ได้ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง  ตั้งอยู่ถนนประจักษ์ศิลปาคม เขตเทศบาลนครอุดรธานี พร้อมของกลาง เสื้อผ้าที่ใส่ในวันก่อเหตุ รถจักรยานยนต์ ใบขายทอง และมือถือไอโฟน  ควบคุมตัวไปโรงพักมาทำการสอบสวน

นายสิทธิศักดิ์ รับสารภาพว่า ตนอาศัยอยู่กับยายตั้งแต่เด็ก เนื่องจากพ่อแม่แยกทางกัน กำลังเรียนอยู่ที่วิทยาลัยแห่งหนึ่งใน อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี  เนื่องตนได้ยืมเงินจากเพื่อนไปเล่นพนันออนไลน์และซื้อสิ่งของฟุ่มเฟือย 38,000 บาท  แต่ไม่มีเงินใช้หนี้ จึงวางแผนวิ่งราวทอง หลังก่อเหตุ ตนได้ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีมุ่งหน้าไปทางทุ่งนา ห่างจากร้านทองประมาณ 1 กม. แล้วเปลี่ยนเสื้อผ้า  จากนั้นก็นำหมวกกันน๊อคไปทิ้งพื้นที่ว่างห่างไป 200 เมตร ก่อนขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีเข้าไปในตัวเมืองอุดรธานี นำสร้อยคอทองคำไปขายให้ร้านทอง ราคาเส้นละ 5 หมื่นบาท นำเงินไปซื้อโทรศัพท์มือถือไอโฟน 14 โปรเม็ก 45000 บาท  และนำไปใช้หนี้ และนำไปใช้จ่าย เปิดโรงแรมนอน กระทั่งมาถูกจับกุม

โดยควบคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพจุดแรกที่ร้านทองห้างทองเยาวราช 2 เลขที่ 468-469 -470 ถนนพิศารสารกิจ เขตเทศบาลตำบลพันดอน  อ.กุมภวาปี  จุดที่สองบริเวณเปลี่ยนเสื้อผ้าและทิ้งหมวกกันน๊อคในพื้นที่ว่างเปล่าใกล้ทุ่งนาเขตตำบลพันดอน ห่างจากร้านทองประมาณ 1 กม. โดยใช้เวลาประมาณ 20 นาที เสร็จแล้วควบคุมตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย

พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จ.อุดรธานี ผู้ต้องหายังเรียนหนังสือ สิ่งจูงใจที่ทำให้ก่อเหตุคือติดหนี้การพนัน และใช้จ่ายเงินซื้อของฟุ่มเฟือย ติดแบรนด์เนม และอารมณ์ชั่ววูบ ตัวผู้ต้องหาอาศัยอยู่กับยาย และรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุยายเป็นคนซื้อให้ขับไปเรียนหนังสือ เพราะเป็นหลานรักของยาย สร้อยทองที่วิ่งราวได้ 2 เส้น 4 บาท ได้นำไปขายที่ร้านทองในตัวเมืองอุดรธานี นำเงินไปซื้อโทรศัพท์ไอโฟน และใช้หนี้ก่อนถูกตำรวจจับกุม ซึ่งอยากเตือนเยาวชนว่า การพนันออนไลน์เข้าถึงง่าย เด็กรุ่นใหม่หลงเชื่อ การรวยเร็วไม่มี มีแต่การหลอกลวง ให้ตั้งสติให้ดี ไม่มีอะไรที่ทำให้รวยเร็ว โดยเฉพาะการพนัน

แสดงความคิดเห็น