วันที่ 4 เมษายน 2566 เวลา 20.00 น.ขณะที่ พ.ต.ท.ธนวัฒน์ ทองวิลัย สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ปฏิบัติหน้าที่อยู่บนโรงพัก มี น.ส.ขนิษฐา พึ่งพุทธ อายุ 29 ปี บ้านเลขที่ 84 เขตประเวศน์ กรุงเทพฯ มาแจ้งความว่า ถูกชายอายุ 30-35 ปี คนเดียว ทำทีมาขอติดรถเข้าไปกรุงเทพฯ ด้วย จึงให้ขึ้นมาด้วย โดยมีนายอภิวัฒน์ สนเพ็ชร อายุ 36 ปี บ้านเลขที่ 223 ซ.บางแวก 3 แขวงคูหาสวรรค์ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ จากห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งใน จ.อุดรธานีถึงจุดเกิดเหตุ หน้าร้านสะดวกซื้อ ถ.รอบเมืองไปแยกบายพาส จ.หนองบัวลำภู ให้จอดรถซื้อน้ำจากนั้นคนร้ายก็ขับรถหลบหนีไป ซึ่งเป็นรถยี่ห้อฮอนด้า บีอาร์วี สีดำ หมายเลขทะเบียน 3ขร 9040 กรุงเทพมหานคร จึงมาแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน
น.ส.ขนิษฐาฯ เล่าว่า วันนี้ตนเดินทางมาจากกรุงเทพฯมาที่อุดรฯ จะมาหาเพื่อนอยู่ในเขตเทศบาลนครอุดรธานี แต่ว่าไม่เจอเพื่อน ตนเลยจะไปเดินเล่นที่ห้างสรรพสินค้าขณะกำลังจอดอยู่ก็มีชายอายุประมาณ 30-35 ปี เดินเข้ามาแล้วถามกับตนว่าพวกพี่มาจากกรุงเทพฯ กันใช่ไหม แล้วคนร้ายบอกว่ากำลังจะกลับกรุงเทพฯ ที่กระทุ่งแบน จึงได้ขอติดรถกลับกรุงเทพฯกับพวกตนด้วย คนร้ายแต่งตัวมีบุคลิกใส่สร้อยทองไม่มีกระเป๋าเสื้อผ้า หลังจากนั้นตนกับพี่ชายและคนร้ายก็ไปเดินเล่นกินข้าวด้วยกันสักพัก แล้วก็จะพากันเดินทางกลับพอมาถึงจุดสี่แยกบายพาสอุดร-ขอนแก่น ตนก็ว่าจะแวะซื้อของร้านสะดวก คนร้ายเลยบอกตนว่าเลี้ยวขวาไปมีร้านสะดวกซื้อ แต่จีพีเอสตนให้ตรงไปเลยพากันเลี้ยวขวามาตามที่คนร้ายบอก
จากนั้นก็จอดรถแล้วพี่ชายตนก็ได้หันไปหยิบเอารองเท้าที่อยู่ด้านหลังคนร้ายก็ข้ามมานั่งแทนที่ตรงคนขับพี่ชายของตนเลยถามว่าจะจอดรถให้หรือคนร้ายบอกว่าใช่ ตอนนั้นตนยืนอยู่ข้างนอกรถเห็นรถขยับตนเลยเดินออกห่างจากรถให้ ตนนึกว่าจะตรงเข้ามาจอด แต่คนร้ายก็ถอยหลังแล้วขับหนีออกไปทางถนนรอบเมืองไปทางแยกบายพาสอุดร-หนองบัวลำภู ตนก็ตกใจเลยมาแจ้งความเอาไว้ ตนก็อยากบอกว่า”อย่าไปไว้ใจคนง่ายๆ ไม่รู้ว่าเป็นใคร ซึ่งเป็นบทเรียนสำหรับตนมาก”
เบื้องต้นตำรวจชุดสืบสวนก็ได้จะไปตรวจสอบกล้องวงจรบริเวณที่เกิดเหตุ และตามเส้นทางที่คนร้ายขับรถหลบหนีไป เพื่อที่จะได้หาเบาะแสะ และติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป…….