เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 17 เมษายน 2566 ที่ลานสังคีต สวนสาธารณะหนองประจักษ์ เขตเทศบาลนครอุดรธานี พรรคก้าวไกลได้จัดเวทีปราศรัยให้กับผู้สมัคร ส.ส.ทั้ง 10 เขต แนะนำตัวหาเสียงพร้อมกับแสดงวิสัยทัศน์ของแต่ละเขต และนโยบายของพรรค โดยมีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้ลงพื้นที่มาช่วยหาเสียงให้กับผู้สมัครของพรรค เพื่อที่จะขอคะแนนจากสมาชิกพรรค และประชาชน ที่มาร่วมรับฟังการปราศรัยจำนวน 2,000 คน
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เปิดเผยว่า วันนี้ที่เดินทางมา จ.อุดรธานีทั้ง 10 คน 10 เขตในพื้นที่เป็นเศรษฐกิจอินโดจีนก็ต้องกระจายเศรษฐกิจออก ทำให้สิ่งที่จะต้องมองก็เป็นเรื่อง SME (เอสเอ็มอี) สำหรับเรื่องแรงงานของ จ.อุดรธานี ก็คงจะเป็นเรื่องค่าแรงขั้นต่ำ 450 บาทในปีแรก และสิทธิ์ในการรวมตัวกัน ซึ่งในเรื่องคมนาคมต่างๆ ที่จะต้องทำให้มีการเชื่อมต่อกับสถานีรถไฟไทย-จีนที่จะผลักให้เกิดขึ้นให้ได้ เพื่อที่จะทำให้เศรษฐกิจของ จ.อุดรธานีที่เป็นผ่านแดน แต่ก็จะทำให้เป็นเศรษฐกิจชายแดนได้ก็จะต้องดูแลทั้งเรื่อง SME และเรื่องแรงงาน เพื่อให้ จ.อุดรธานีถึงศักยภาพเป็นเศรษฐกิจชายแดน
ส่วนในพื้นที่ จ.อุดรธานี ตนคิดว่ามั่นใจมากขึ้น เพราะครั้งที่แล้วเรามาเป็นอันดับสองของ จ.อุดรธานี ได้คะแนน 150,000 คะแนน ต่อมามีการเลือกตั้งท้องถิ่นเราได้ 180,000 คะแนน เช่นเขต 1 ก็แพ้ไปเพียง 4 พันคะแนน และเขตอื่นก็อยู่เป็นอันดับ 2 อันดับ 3 ตามลำดับไป เพราะอย่างนั้นตนจึงแสดงความมั่นใจว่าการทำงานของพรรคก้าวไกวนั้นเข้าฟักเป็นอย่างมาก และก็ไล่กวดขึ้นมาเรื่อยๆ โดยในบางพื้นที่ทางพรรคทำงานทางวิทยาศาสตร์ก็จะเห็นความเคลื่อนไหวของคะแนนเพิ่มจากเดิมไป ทางเราก็จะพยายามทำงานให้มากเพิ่มขึ้นไปอีก เพื่อที่จะให้เกิด จ.อุดรธานีสีส้มในแต่ละเขต และอีกที่มั่นใจก็คือคนแสนกว่าคนที่เป็นคนรุ่นใหม่มาใช้สิทธิ์เลือกตั้งครั้งนี้ ซึ่งในสิ่งที่ตนพูดมาไม่ว่าจะเป็นเรื่องคะแนน เรื่องคู่แข่งที่อ่อนลงไป และเรามีนโยบายที่ตอบโจทย์โดนใจพี่น้องประชาชนชาว จ.อุดรธานีแน่นอน และมั่นใจว่าทุกคนทั้ง 10 เขตมีลุ้นทั้งหมด
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ฯ เปิดเผยต่อว่า ในส่วนเรื่องโพลของการเลือกตั้งที่ขึ้นมาเป็นอันดับสองของประเทศก็เป็นกำลังใจในการทำงาน แต่ในขณะเดียวก็ยังไม่ประมาท และในการลงพื้นที่ก็ต้องทำงานให้หนักมากกว่าเดิมสมกับที่พี่น้องประชาชนให้ความไว้ในการสำรวจโพลมา แต่ว่าสำหรับโพลตอนขึ้นอย่าลงตอนลงอย่าท้อ ซึ่งก็เป้นแผนยุทธศาสตร์ในการเลือกตั้ง แต่ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าที่ลงพื้นที่เคาะทุกประตูแจกทุกใบปลิวเดินทุกถนน เพื่อให้พี่น้องประชาชนรับทราบถึงนโยบายของพรรค
ส่วนที่คิดว่าจะทำยังไงในการที่จะเจาะพื้นที่ภาคอีสานนั้น ส.ส.ภาคอีสาน 132 คนก็คือ 1 ใน 3 ของสภา แต่ในขณะภาคอีสานก็ถูกทิ้งไว้อยู่ข้างหลังมาตลอด 20 ปีไม่มีการเติบโตขึ้นเลยไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจ ความเลื่อมล้ำ และไม่ว่าจะเป็นเรื่องหนี้สิ้นก็ดี ซึ่งก็อยากตั้งคำถามให้พี่น้องชาวอีสานว่าพรรคการเมืองที่จะมีการแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องชาวภาคอีสานตั้งแต่เรื่องที่เกี่ยวกับน้ำประปา การคมมาคม เรื่องชลประทานแล้งซ้ำซาก น้ำท่วมซ้ำซาก เรื่องที่ดิน เรื่องหนี้สินใน ธกส. ตนก็เชื่อว่าในพื้นที่ภาคอีสาน 132 เขตก็จะต้องได้เยอะกว่าตอนอดีตอนาคตใหม่แน่นอน ซึ่งตอนอดีตอนาคตใหม่ภาคอีสานเราได้คะแนนเยอะ แต่ ส.ส.เพียงคนเดียวที่ จ.ขอนแก่น โดยรอบนี้ตนคิดว่าก็จะมีเพิ่มมากขึ้นไปกว่าครั้งที่แล้วอย่างแน่นอน……..
//////////////////// อุดรธานี อธิวัฒน์ พงศภัควิวัฒน์ 0627145169
แสดงความคิดเห็น