ชาวบ้านที่ปรากฏในคลิป TikTok บ้านท่าหายโศก ต.เฝ้าไร่ อ.เฝ้าไร่ จ.หนองคาย ขอพื้นที่ชี้แจงกับสื่อมวลชนยืนยันไม่มีการซื้อสิทธิขายเสียงในพื้นที่ วอนสื่อนำเสนอข่าวรอบด้านตรวจสอบข้อมูลก่อนนำเสนอข่าว สื่อมวลชนลงพื้นที่ตรวจสอบพบบัญชี TikTok ที่โพสต์ลบบัญชีทิ้งแล้ว


จากกรณีที่มีคลิปที่เผยแพร่ทาง TikTok ที่ในคลิปมีการพูดคุยกันของผู้หญิง 2 คน ในทำนอง ให้นำรายชื่อสมาชิกในบ้านหลังดังกล่าว ที่มีทั้งหมด 5 คน เพื่อนำมาแลกเงิน 400 บาทต่อคน จะเอาทั้ง 5 คนก็เขียนรายชื่อทั้ง 5 คน ก็จะได้รับเงิน 2,000 บาท จะเอา 4 คนก็เขียนชื่อ 4 คน แล้วมีเสียงผู้ชายที่เป็นเหมือนคนที่ถ่ายคลิปบอกว่า ไม่ชอบพรรค ผู้หญิงที่มาเอารายชื่อก็บอกว่า ให้เลือกคนไม่ใช่ให้เลือกพรรค โดยให้เขียนรายชื่อลงในสมุดที่เตรียมมาให้ ซึ่งในคลิปมีการถ่ายให้เห็นแผ่นพับหาเสียงของผู้สมัคร จากพรรคภูมิใจไทย หมายเลข 4 เขตเลือกตั้ง เขต 2 หนองคาย อย่างชัดเจน หลังคลิปนี้มีการโพสต์ทาง TikTok ก็มีการแชร์ต่อ ๆ กันไปทางโซเชียลเป็นจำนวนมาก มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมาย


โดยวานนี้ (20 เม.ย. 66) ดร.จิดาภา สุนทรธนากุล หรือหมอมิลค์ ผู้สมัครจากพรรคภูมิใจไทย หมายเลข 4 เขตเลือกตั้ง เขต 2 หนองคาย ก็ได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.โพนพิสัย ให้ลงบันทึกประจำไว้ ทั้งเรื่องคลิปที่เผยแพร่ทาง TikTok และป้ายหาเสียงที่ติดตั้งอยู่รถถนนโพนพิสัย – บึงกาฬ บริเวณบ้านกุดบง ต.กุดบง อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย ถูกทำลาย และสูญหายจำนวนหลายป้าย


ดร.จิดาภา สุนทรธนากุล หรือหมอมิลค์ ผู้สมัครจากพรรคภูมิใจไทย หมายเลข 4 เขตเลือกตั้ง เขต 2 หนองคาย ได้กล่าวภายหลังเข้าแจ้งความร้องทุกข์ ว่าวันนี้ตนได้เข้ามาลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.โพนพิสัย จำนวน 2 เรื่อง ๆ แรกคือแผ่นป้ายหาเสียงที่ติดตั้งอยู่ริมถนนสายโพนพิสัย – บึงกาฬ ที่ถูกทำลายและสูญหาย จำนวน 3 จุด โดยได้ลงบันทึกประจำวันเอาไว้ ส่วนอีกเรื่องคือ เมื่อวานนี้ มีคนส่งคลิป TikTok ให้ตนดู หลังจากตนได้ดูเนื้อหาในคลิปแล้ว ที่มีบุคคลประมาณ 3 – 4 คน เบื้องต้นตนไม่ได้รู้จักคนที่อยู่ในคลิปดังกล่าวเลย เนื้อหาสาระที่มีการพูดกันก็เป็นเนื้อหาสาระที่ไม่มีมูลความจริง เอกสารที่ปรากฏในคลิปก็เป็นเอกสารที่ตนก็ไม่เคยเห็นและไม่เคยรู้มาก่อน ตนจึงได้มาลงบันทึกประจำวันเอาไว้ เพราะเนื้อหาต่าง ๆ ก็ได้มีการแชร์ต่อ ๆ กันไป และมีผู้เข้ามาคอมเม้นท์ เนื่องจากเนื้อหาสาระที่พูดคุยกันไม่เป็นความจริง ทำให้ตนได้รับความเสียหาย ตนจึงได้มาลงบันทึกประจำวันไว้


ดร.จิดาภา กล่าวต่อไปอีกว่า ก็คงจะให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไปสืบหาความจริงให้ ซึ่งตนมองว่าเป็นธรรมชาติของการหาเสียง คิดว่าหลาย ๆ ที่ก็คงจะมีบรรยากาศแบบนี้ แต่สำหรับตนนั้นมีความตั้งใจที่จะลงขออาสามาทำงานเพื่อพัฒนาหนองคาย เขต 2 การแข่งขันทางด้านการหาเสียง ในส่วนของตนนั้น มีความตั้งใจที่จะหาเสียงแบบสะอาด ตนจะไม่ใส่ร้ายป้ายสีใคร หรือดำเนินการใด ๆ ที่ผิดกฎหมายเลือกตั้ง ที่ กกต.กำหนดไว้อยู่แล้ว ถือเป็นความตั้งใจของตนตั้งแต่เริ่มแรกก่อนเข้ามาลงสมัครรับเลือกตั้งอยู่แล้ว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นตนก็ฟังเสียงของประชาชนเป็นหลัก ตอนนี้ตนก็ลงพื้นที่อย่างต่อเนื่องเพื่อขอโอกาสเข้ามาทำงาน ตนมีทีมงานแจกโบว์ชัวร์ แผ่นพับ ที่ถูกต้องตามที่ กกต.กำหนด ชี้แจงความตั้งใจของตนเองความมุ่งมั่นของตนเอง ศักยภาพของตนเองที่จะอาสามาทำงานให้บ้านเมือง และเรื่องของนโยบายของพรรคภูมิใจไทย ที่จะให้ประชาชนพิจารณา ทุกสิ่งทุกอย่างตนเชื่อว่าประชาชนในพื้นที่ทราบดีว่า ตัวผู้สมัครเองเป็นอย่างไร เรื่องของนโยบายเรื่องของความตั้งใจ ที่สุดท้ายในการเลือกตั้งก็ขึ้นอยู่กับประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจ


โดยในวันนี้ (21 เม.ย. 66) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ ไปที่บ้านเลขที่ 34 หมู่ 4 บ้านท่าหายโศก ต.เฝ้าไร่ ซึ่งเป็นบ้านที่มีการถ่ายคลิปลง TikTok จนเป็นประเด็นอยู่ในขฯนี้ และได้พบกับ นางบังอรหรือยายติ๋ม ลามคาม อายุ 64 ปี เจ้าของบ้าน โดยนางบังอรได้บอกกับผู้สื่อข่าวว่า จากคลิปที่ปรากฏตนก็พึ่งรู้จากข่าว ขอยืนยันว่าไม่มีการซื้อสิทธิขายเสียง ไม่มีการมาจดรายชื่ออะไรทั้งนั้น และตนไม่รู้ว่าใครเป็นคนถ่ายคลิปนำไปเผยแพร่ จึงอยากขอให้สื่อมวลชนและผู้ที่แชร์เรื่องนี้ออกไปให้ใช้สติ หากไม่ทราบเรื่องมาถามตนที่บ้านได้ โดยพอเกิดเรื่องก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เฝ้าไร่ เจ้าหน้าที่ กกต.หนองคาย เข้ามาสอบถาม ซึ่งตนก็ตอบไปตามข้อเท็จจริงว่าไม่มีการซื้อสิทธิขายเสียง ไม่มีการการจดรายชื่อ จึงอยากขอความเป็นธรรมด้วย


ทั้งนี้จากการตรวจสอบของสื่อมวลชนพบว่าบัญชีผู้ใช้ TikTok ที่นำคลิปลงได้ลบบัญชีทิ้งแล้ว โดยชาวบ้านในพื้นที่ตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการจัดฉากเพื่อหวังผลทางการเมืองอย่างแน่นอน โดยเป็นการแสดงละครกลางวันแสกๆ ถ้าจะมาหาจดขื่อชาวบ้าน ตามที่กล่าวอ้าง และกลัวขนาดนี้ ทำไมไม่มาทำตอนกลางคืนเลย โดยชาวบ้านยังตั้งข้อสังเกตอีกคือการถ่ายคลิปทำกลางวัน ในเดือนเมษายน อุณหภูมิ 40 องศา แต่สวมโม่ง ใส่หมวก ใส่แว่นปิดตา สวมถุงมือเพื่อแสดงให้คิดว่าเป็น อสม. แต่ความจริงไม่ใช่ โดยจัดฉากให้อีก 2 คนให้อยู่หลังกล้อง และ พยายามโชว์แผ่นพับผู้สมัครเบอร์ 4 พรรคภูมิใจไทย เขต 2 จ.หนองคาย ให้ออกกล้อง ชาวบ้านในพื้นที่มั่นใจว่านี้คือการจัดฉากแน่นอน จึงอยากให้สังคมให้ความเป็นธรรมกับชาวบ้านต่อกรณีดังกล่าวด้วย และชาวบ้านยังบอกอีกว่าอยากเห็นการเมืองที่สะอาด แข่งกันที่นโยบาย ไม่ใช่การกลั่นแกล้งกันแบบนี้.

แสดงความคิดเห็น