ขอนแก่น ตุ๋นเหยื่อให้ร่วมลงทุนขายแอร์เสียหายนับสิบล้าน

9 มิ.ย.66 ผู้เสียหายที่เป้นผู้ประกอบการ เจ้าของธุรกิจในจังหวัดขอนแก่น นำเอกสารหลักฐานเป็นเช็คธนาคาร สลิปการโอนเงิน เอกสารหลักฐานการซื้อขายสินค้า เข้าร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว หลังจากถูกนางสาวอักษรย่อ ส. เจ้าของร้านขายเครื่องปรับอากาศแห่งหนึ่งในจังหวัดขอนแก่น ชักชวนให้ร่วมลงทุนซื้อขายเครื่องปรับอากาศ อ้างได้กำไรร้อยละ 20 ของเงินลงทุน จึงทำให้หลงเชื่อนำเงินมาร่วมลงทุน ในช่วงแรกได้เงินปันผลกำไรตามที่ตกลง แต่ในระยะหลังหญิงสาวรายนี้ บ่ายเบี่ยงไม่ยอมจ่ายเงินปันผลตามที่ตกลง รวมถึงเงินที่นำไปลงทุนรายละหลักล้านบาทก็ไม่ได้คืน จึงเชื่อว่าถูกหลอก

นางอังคณา ลักค์กี้ อายุ 45 ปี เจ้าของธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง เล่าให้ฟังว่า ตนเองรู้จักกับ นาวสาว อักษรย่อ ส. มาก่อนหน้านี้เพราะซื้อขายอุปกรณ์เครื่องปรับอกาศและเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ร้านของเธอเป็นประจำ จึงทำให้มีความสนิทสนมคุ้นเคยกันในระดับหนึ่ง เมื่อช่วงปลายปี 2565 หยิงสาวรายนี้ ได้เข้ามาชักชวนให้นำเงินมาร่วมลงทุนซื้อ ขาย เครื่องปรับอากาศ อ้างว่า มีลูกค้าสั่งซื้อสินค้าเป็นเงินหลักล้านบาท แต่เงินไม่พอ จึงอยากได้เงินทุนเพิ่ม พร้อมกับแบ่งผลกำไรให้ร้อยละ 20 ของเงินลงทุน โดยเธอได้นำเอกสารหลักฐานการสั่งซื้อเครื่องปรับอากาศ เครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นมูลค่าหลักล้านบาท มายืนยันว่ามีการซื้อขายจริง จึงทำให้หลงเชื่อและนำเงินมาร่วมลงทุนก้อนแรกจำนวน 200,000 บาท เมื่อถึงเวลาก็ได้เงินปันผลตามตกลงจริง จากนั้นหญิงสาวรายนี้ได้ชักชวนให้นำเงินมาร่วมลงทุนเพิ่ม จึงได้ชักชวนเพื่อสนิท คนใกล้ชิด มาร่วมลงทุนเป็น จำนวน  2,700,000 บาท แต่ในเงินลงทุนจำนวนนี้กลับไม่ได้เงินปันผลตามตกลง เมื่อทวงถามเจ้าตัวก็บ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด และเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ได้นัดที่จะจ่ายเงินคืนทั้งหมด โดยเธอได้จ่ายเป็นเช็ค จำนวน 1,500,000 บาท ส่วนที่เหลืออีก 1,200,000 บาท จะจ่ายเป็นเงินสดภายหลัง แต่เมื่อนำเช็คไปขึ้นเงินที่ธนาคารปรากฏว่าเช็คเด้ง ไม่สามารถขึ้นเงินได้ จึงมั่นใจว่าถูกหลอก โดยได้รวบรวมเอกสารหลักฐานทั้งหมดเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.พระยืน เพื่อดำเนินคดีกับหญิงรายนี้

ด้านนางสมจันทร์ ทองเนตร อายุ 67 ปี เจ้าของร้านขายเครื่องสังฆภัณฑ์ บอกว่า  ได้รู้จักกับหญิงสาวรายนี้มาเป็นเวลานาน เนื่องจากทำธุรกิจค้าขายในพื้นที่ด้วยกันและใช้บริการเครื่องปรับอากาศที่ร้านของเธอเป็นประจำ บางวันก็มาพบปะพุดคุยสอบถามจึงทำให้เกิดความเชื่อใจกัน ก่อนที่จะมาชักชวนให้นำเงินไปร่วมลงทุนในธุรกิจซื้อ ขาย เครื่องปรับอากาศ โดยจะได้กำไรร้อยละ 20 ของเงินลงทุน เช่นเดียวกันพร้อมกับย้ำว่าไม่ให้บอกเรื่องนี้กับใครแม้กระทั่งคนในครอบครัว  ในช่วงแรกลงทุนหลักแสนบาท ผ่านไปไม่กี่วันก็ได้เงินปันผลตามที่ตกลงกันไว้ จึงเกิดความมั่นในการทำธุรกิจนี้ทำให้ตัดสินใจนำเงินเก็บที่มีอีก 2 ล้าน 9 แสนบาท มาร่วมลงทุนเพื่อหวังจะได้เงินปันผลกำไรตอบแทน ที่ได้มากกว่าการค้าขายในปัจจุบันที่ค่อนข้างซบเซา แต่ความฝันทุกอย่างก็พังทลายลง เมื่อทุกอย่างไม่เป็นดังหวัง เงินปันผลไม่มีให้ ส่วนเงินลงทุนก็ไม่ได้คืน เมื่อสอบถามเจ้าตัวก็บ่ายเบี่ยงไม่ยอมนำเงินมาคืน มั่นใจว่าถูกหลอก ตนเองเกิดความเครียดเพราะไม่คิดว่าคนที่สนิทและรู้จักกันจะมาหลอกลวงกัน และเงินที่นำไปลงทุนเป็นเงินเก็บที่หวังจะนำมาใช้ในช่วงบั้นปลายชีวิต

 เช่นเดียวกับนางสาวพรรณิกา ทองเนตร อายุ 48 ปี ซึ่งเป็นลูกสาวของนางสมจันทร์  เป็นอีกหนึ่งในผุ้เสียหายที่ถูกหญิงสาวรายนี้มาชักชวนให้ร่วมลงทุนและปันผลกำไรในลักษณะเดียวกัน พร้อมกับกำชับไม่ให้บอกคนที่บ้าน จึงตัดสินใจร่วมลงทุนเป็นเงิน 1 ล้านบาท แต่ของเธอต่างจากคนอื่นตรงที่ ไม่ได้เงินปันผลกำไรเลยแม้แต่บาทเดียว ส่วนเงินต้นก็หายสาบสูญ  จึงนำเรื่องราวทั้งหมดไปบอกแม่ ทำให้ทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดว่าเธอและแม่ก็ถูกหญิงสาวรายนี้หลอกเช่นเดียวกัน จึงนำหลักฐานเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระยืน

ด้านคดี ร้อยตำรวจเอกวัลชัย คุณพระ พนักงานสอบสวน สภ.พระยืน เจ้าของคดี เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้มีผู้เสียหายมาแจ้งความแล้ว 4 ราย เป็นเจ้าของร้านขายเครื่องปรับอากาศและชาวบ้านที่ถูกหลอกให้ร่วมลงทุน โดยพฤติการณ์ของหญิงรายนี้ ซึ่งเป็นเจ้าของร้านขายเครื่องปรับอากาศ จะติดต่อซื้อขายสินค้าเครื่องปรับอากาศจากร้านนายเอ เมื่อได้ใบสั่งซื้อสินค้าแล้ว ก็จะนำไปให้ร้านค้านายบี ที่สั่งซื้อสินค้าผ่านร้านตนเอง และเรียกเก็บเงินจากร้านค้านายบี ก่อนที่จะส่งของ และในระหว่างนั้นก็นำใบสั่งสินค้าตัวเดียวกันมาหลอกชาวบ้านให้นำเงินมาร่วมลงทุนแล้วแบ่งปันผลกำไร จึงทำให้มีผู้ตกเป็นเหยื่อหลายราย และเมื่อตรวจสอบข้อมูลทางคดีพบว่า หญิงรายนี้ได้ก่อเหตุในลักษณะเดียวกันอยู่ในหลายท้องที่มูลค่าความเสียหายหลายสิบล้านบาท ขณะนี้กำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายเรียกมารับทราบข้อกล่าวหาในคดีฉ้อโกงประชาชน พร้อมทั้งฝากเตือนประชาชนอย่าได้หลงเชื่อและตกเป็นเหยื่อ และหากใครที่ถูกหลอกในลักษณะเดียวกันก็สามารถเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับตำรวจในท้องที่ได้ทันที

แสดงความคิดเห็น