รูปแบบหลอกลวงทางการเงินของกลุ่มมิจฉาชีพในปัจจุบัน นับวันจะยิ่งมีความหลากหลายและซับซ้อนมากยิ่งขึ้น หากท่านรู้ไม่เท่าทันก็ย่อมจะตกเป็นเหยื่อให้เสียเงินเสียทองโดยไม่รู้ตัว
วันนี้ดิฉันจะมาบอกกล่าวเล่าสู่ถึงการหลอกลวงทางการเงินอีกรูปแบบหนึ่งที่เรียกว่า “ลงทุนหลักร้อย แต่ได้เงินหลักล้าน” ซึ่งแค่ฟังจากชื่อก็ทำให้น่าสนใจมากแล้วนะคะ แต่กลุ่มมิจฉาชีพยังเพิ่มความน่าเชื่อถือในการหลอกลวงโดยมีกระบวนการประชาสัมพันธ์อย่างเป็นงานเป็นการ มีการจัดประชุมและสร้างหลักฐานมาแสดงต่อประชาชนว่าขณะนี้มีเงินช่วยเหลือจากต่างประเทศเพื่อปล่อยกู้ให้ประชาชนรายละล้านบาทในอัตราดอกเบี้ยต่ำ แต่ต้องสมัครเป็นสมาชิกก่อนเพียงคิดค่าสมัครประมาณ 100 – 300 บาท เท่านั้น
เมื่อเวลาผ่านไปประชาชนที่หลงกลสมัครก็ไม่ได้รับเงินกู้สักที กลุ่มมิจฉาชีพก็จะอ้างว่าตอนนี้เงินได้รับการอนุมัติแล้วแต่ยังตกค้างที่ต่างประเทศเนื่องจากอยู่ในขั้นดำเนินการตามกฎระเบียบการนำเงินออกนอกประเทศ หรืออ้างว่าเงินมาถึงประเทศไทยแล้วแต่ทางการของประเทศไทยยังไม่อนุญาตให้นำเงินมาใช้ได้เพราะต้องตรวจสอบก่อน จนแล้วจนรอดประชาชนที่หลงเชื่อไปสมัครก็ไม่ได้รับเงินกู้แม้แต่บาทเดียว เพราะตอนสมัครคิดว่าเสียเงินเพียงหลักร้อยบาท แต่มีโอกาสได้เงินถึงหลักล้านบาทนั่นเอง
มาถึงขั้นนี้แล้ว เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นการหลอกลวง ดิฉันมีแนวทางป้องกันที่สุดแสนจะง่ายมาบอกสำหรับให้ท่านนำไปใช้เพียงทำแค่ 2 ข้อ ดังนี้คะ
อย่าทำตามทันที เมื่อใดก็ตามที่มีคนมาแนะนำให้ท่านทำอย่างนั้นอย่างนี้ และต้องรีบสมัครทันที เดี๋ยวจะพลาดโอกาสเพราะจะหมดเขตแล้ว หรือมีคนสมัครเยอะจนใกล้เต็มจำนวนแล้ว ท่านเชื่อได้เลยว่าเป็นการหลอกลวงแน่นอน เนื่องจากกลุ่มมิจฉาชีพจะกระตุ้นให้ท่านไม่มีเวลาคิด เพื่อให้ท่านตัดสินใจทำทันที
อย่ามีความโลภ ท่านต้องคิดว่าในโลกแห่งความเป็นจริง สิ่งที่มีมูลค่ามากหรือมีราคาสูง ๆ จะได้มาเปล่า ๆ หรือลงทุนน้อย ๆ แต่ได้ผลตอบแทนสูง ๆ ย่อมไม่มี ท่านก็จะไม่ตกหลุมพรางที่กลุ่มมิจฉาชีพจ้องเอาความโลภมาหลอกล่อ
พบข้อสงสัยให้โทรสอบถาม หากท่านคิดไม่ออกและเกิดความไม่แน่ใจว่าจะต้องทำอย่างไร ท่านสามารถโทรศัพท์ไปสอบถามได้ที่ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน (ศคง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย หมายเลข 1213 โดยให้บริการเวลาทำการวันจันทร์ – วันศุกร์ 08.30 – 12.00 น. และ 13.00 – 16.30 น. นอกเวลาทำการบริการตอบรับอัตโนมัติ 24 ชม.
มาถึงจุดนี้ ดิฉันมั่นใจว่า เพียงแต่ท่านปฏิบัติตาม 2 ข้ออย่างง่าย ๆ ตามที่กล่าวมาข้างต้น คือ “อย่าทำตามทันที อย่ามีความโลภ และพบข้อสงสัยโทรสอบถาม 1213” ท่านก็จะไม่ตกเป็นเหยื่อให้เสียเงินเสียทอง และจะดียิ่งไปกว่านั้นหากท่านบอกแนวทางป้องกันนี้ให้กับเพื่อนของท่าน และเพื่อนท่านบอกต่อไปยังคนอื่น ๆ จนกระจายออกไปอย่างกว้างขวาง ในที่สุดแล้วกลุ่มมิจฉาชีพก็จะหมดหนทางทำมาหากิน และไม่สามารถที่จะทำความเดือนร้อนแก่ประชาชนได้อีกต่อไปคะ
บทความนี้เป็นข้อคิดเห็นส่วนบุคคล จึงไม่จำเป็นต้องสอดคล้องกับข้อคิดเห็นของธนาคารแห่งประเทศไทย
บทความโดย:นางสาววันนา กลางหนองแสงผู้วิเคราะห์อาวุโส ส่วนคุ้มครองและให้ความรู้ผู้ใช้บริการทางการเงินธปท. สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
