กะเทยแสบ เสพยาบ้าจนเพี้ยนก่อนบุกเผาศาลพ่อปู่ขุนศรีภายในวัดราชสิงขรณ์

กะเทยแสบ เสพยาบ้าจนเพี้ยนก่อนบุกเผาศาลพ่อปู่ขุนศรีภายในวัดราชสิงขรณ์ ต.นางิ้ว อ.สังคม จ.หนองคาย เผยเคยพยายามก่อเหตุมาแล้ว 1 ครั้งแต่ไม่สำเร็จ ภายหลังวางเพลิงโพสต์     เฟซบุ๊กโชว์ผลงาน สุดท้ายไม่รอดตำรวจ สภ.นางิ้ว ร่วมฝ่ายปกครองตามรวบได้ทันควัน

วันนี้ (10 พ.ย. 65) เวลา 09.00 น. ร.ต.อ.วัฒนา วารีศรี รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.นางิ้ว รับแจ้งเหตุวางเพลิงเผาศาลพ่อปู่ขุนศรี ภายในวัดราชสิงขรณ์ หมู่ 7 ต.นางิ้ว อ.สังคม จ.หนองคาย ภายหลังรับแจ้งจึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.ท.สุริยา บุญสิทธิ์ สวญ.สภ.นางิ้ว พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ,ปลัดป้องกันอำเภอสังคม พร้อมเจ้าหน้าที่ อส. นายบุญเหลือ ทองทาบ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 ต.นางิ้ว  ที่เกิดเหตุเป็นศาลพ่อปู่ขุนศรี ที่ชาวบ้านในพื้นที่ตำบลนางิ้ว และพื้นที่ใกล้เคียงให้ความเคารพศรัทธา และเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจคนในชุมชน โดยพบว่ามีร่องรอยการถูกวางเพลิงเผา ทำให้ข้าวของภายในศาลพ่อปู่ขุนศรีได้รับความเสียหายบางส่วน

สอบถาม พระครูสิริชัยนาถ ฐิตะสิริ เจ้าอาวาสราชสิงขรณ์ ทราบว่าคืนที่ผ่านมาเวลาประมาณ 00.10 น. (10 พ.ย.65) พระภายในวัดได้กลิ่นเหม็นไหม้มาจากบริเวณศาลพ่อปู่ขุนศรี ซึ่งตั้งอยู่ภายในวัดและอยู่ติดกับกุฏิพระ จึงออกมาดูพบไฟกำลังลุกไหม้ พระภายในวัดจึงได้ช่วยกันดับ และเห็นคนที่ก่อเหตุวิ่งไปขับรถจักรยานยนต์จำรุ่นและยี่ห้อไม่ได้หลบหนีไป ภายหลังเพลิงสงบจึงได้กั้นพื้นที่ไว้ก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบในตอนเช้า “คนร้ายรายนี้น่าจะเป็นคนเดียวกันที่พยายามเข้ามาก่อเหตุวางเพลิงศาลพ่อปู่ขุนศรี มาแล้ว 1 ครั้ง แต่โชคดีที่พระในวัดเห็นกำลังจะวางเพลิง จึงวิ่งหนีไป ก่อนมาก่อเหตุซ้ำอีกครั้งในครั้งนี้” พระครูสิริชัยนาถ ฐิตะสิริ เจ้าอาวาสราชสิงขรณ์ กล่าว ด้าน นายบุญเหลือ ทองทาบ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 ต.นางิ้ว กล่าวว่าได้รับแจ้งจากทางวัดตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา จึงได้จัดเวรยามเฝ้าที่เกิดเหตุรอจนเช้าจึงได้แจ้งตำรวจมาตรวจสอบ โดยตนมั่นใจว่าคนก่อเหตุน่าจะเป็นคนเดียวกันที่พยายามเข้ามาวางเพลิงแต่ไม่สำเร็จ
ต่อมา พ.ต.ท.สุริยา บุญสิทธิ์ สวญ.สภ.นางิ้ว พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ร่วมกับฝ่ายปกครอง สามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ 1 รายทราบชื่อ นายธีรดัย ทองมหา อายุ 33 ปี ที่อยู่ 95 หมู่ 1 ต.นางิ้ว อ.สังคม จ.หนองคาย ก่อนนำตัวมาทำการสอบสวนที่ สภ.นางิ้ว

จากการสอบสวนนายธีรดัย ได้ให้การรับสารภาพเนื่องจากจนมุมในพยานหลักฐาน โดยเฉพาะหลักฐานสำคัญที่นายธีรดัยได้โพสต์เฟซบุ๊กภายหลังก่อเหตุว่าได้ทำการเผาศาลปู่แล้ว พร้อมแคปชั่นหัวเราะถูกใจในสิ่งที่ตนเองทำ โดยนายธีรดัย ให้การรับสารภาพในอาการคล้ายคนเมายาเสพติดอย่างหนักว่าตนเป็นคนเผาศาลเจ้าปู่ขุนศรีเอง เนื่องจากเจ้าปู่ได้มาหาตนบอกว่าจะสร้างพญานาค และให้ตนไปเป็นนางรำ ตนไม่อยากรำและด้วยความโมโหเคยจะก่อเหตุแล้ว 1 ครั้งแต่ไม่สำเร็จ วันนี้สบโอกาสจึงนำน้ำมันใส่ขวดนำไปเผา ก่อนก่อเหตุได้เสพยาบ้าไป 1 เม็ด หลังก่อเหตุเสร็จได้โพสต์เฟซบุ๊ก ก่อนที่จะมีตำรวจมาที่บ้านและจับตนมาสอบสวน

ด้านนางเตรียม ทองมหา อายุ 63 ปี แม่ของนายธีรดัย กล่าวว่าลูกของตนมีนิสัยคล้ายผู้หญิง ที่ผ่านมาเสพยาบ้าอย่างหนักจนเพี้ยน เคยส่งตัวไปบำบัดมาแล้วแต่ก็ยังกลับมาเสพอีก และไม่กินยาที่แพทย์ให้มาร่วม 2 ปี แล้ว จนกระทั่งมาก่อเหตุในครั้งนี้ พ.ต.ท.สุริยา บุญสิทธิ์ สวญ.สภ.นางิ้ว กล่าวว่า ภายหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ตรวจสอบประวัติคนกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่ และพบว่านายธีรดัยเป็นหนึ่งในบุคคลต้องสงสัย เนื่องจากโพสต์เฟซบุ๊กข้อความแปลกๆ จึงนำกำลังไปที่บ้านก่อนทำการตรวจสอบพบอุปกรณ์การเสพยาบ้าในบ้าน และเมื่อเชิญตัวมาทำการสอบสวนต่อหน้าผู้นำชุมชน ครอบครัว และฝ่ายปกครอง นายธีรดัยจึงให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุจริง โดยทางญาติๆของนายธีรดัย ได้นำเอกสารผู้ป่วยจิตเวชมาให้เจ้าหน้าที่ดูด้วย จากนี้จะให้ผู้นำชุมชนพูดคุยกับชาวบ้านในพื้นที่ว่าประสงค์จะดำเนินคดีหรือไม่ หากชุมชนอโหสิกรรมให้นายธีรดัยก็จะไม่ดำเนินคดี แต่หากชุมชนให้ดำเนินคดีตำรวจก็พร้อมดำเนินคดีทันทีเช่นกัน โดยยึดหลักคุณธรรม เมตตาธรรมเป็นหลัก.