จ่าทหารเคลียร์ปัญหาค่านายหน้าที่ดินกับ “พันเอก” ผู้บังคับบัญชาไม่ลงตัว เกิดโทสะใช้อาวุธปืนที่เตรียมไปจ่อยิงเสียชีวิตพร้อมแม่อีกคน ก่อนที่จะย้อนกลับไปที่กองสรรพาวุธกระสุน สถานทีทำงานและใช้อาวุธยิงทหารเวรตาย 1 เจ็บอีก 3 ก่อนงัดเอาวุธปืนพร้อมกระสุนจำนวนหนึ่งและขับรถฮัมวี่ ขับหนีระหว่างถูกตำรวจสกัด จึงใช้ปืนยิงเปิดทาง ก่อนบุกเข้าห้างเทอร์มินอล 21 เกิดอาการคลั่งกราดยิงผู้บริสุทธิ์ ตายเพิ่มกว่า 20 เจ็บกว่า 30 ราย
เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ เวลาประมาณ 15.30 น. ในขณะที่ พ.ต.ท.มงคล คุปติศิริรัตน์ สว.(สอบสวน) ปฏิบัติหน้าที่พนักงานสอบสวนเวรอยู่ที่สถานีตำรวจได้รับแจ้งเหตุทางวิทยุ ว่ามีเหตุคนร้ายยิงผู้อื่นเสียชีวิตอยู่ที่ บ้านเลขที่ 187 หมู่ 3 บ้านถนนหัก ต.หนองจะบก อ.เมือง จ.นครราชสีมา จึงได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิต 2 ราย ทราบชื่อภายหลังว่า พ.อ.อนันต์ฐโรจน์ กระแส และ นางอนงค์ มิตรจันทร์ มารดาของพ.อ.อนันต์ฐโรจน์
จาการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ผู้ก่อเหตุคือ จ.ส.อ.จักรพันธ์ ถมมา เป็นทหารสังกัดกองพันสรรพาวุธกระสุนที่ 22 ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ กองบัญ ขาการช่วยรบที่ 2 กองทัพภาคที่ 2 เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของพ.อ.อนันต์ฐโรจน์ ผู้ตาย โดยได้เดินทางมายังบ้านที่เกิดเหตุซึ่งเป็นบ้านของผู้ตายเพื่อนัดเจรจากับผู้ตายทั้ง 2 คน เกี่ยวกับค่านายหน้าในการซื้อขายที่ดินแต่ไม่สามารถตกลงกัน จ.ส.อ.จักรพันธ์ จึงได้ใช้อาวุธปืนพกส่วนตัวที่นำมายิงเข้าใส่พ.อ.อนันต์โรจน์และนางอนงค์จนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ
หลังก่อเหตุจ.ส.ต.จักรพันธ์เดินทางไปกองสรรพาวุธปืนที่ 22 ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ สถานที่ทำงานและตรงไปเข้าไปใช้อาวุธปืนยิงทหารเวรจนเสียชีวิตเพิ่มอีก 1 รายได้รับบาดเจ็บอีก 3 นาย จากนั้นได้ขับรถฮัมวี่ของทหาร หลบหนีออกไปทางด้านหลังค่ายสุรธรรมพิทักษ์และได้ใช้อาวุธปืนยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา ที่มาสกัดจับ จนได้รับบาดเจ็บจำนวน 2 นาย นอกจากนี้กระสุนปืนยังถูกชาวบ้านใกล้เคียงได้รับบาดเจ็บอีก 2 ราย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจ.ส.อ.จักรพันธ์ได้ขับรถหลบหนีไปจนถึงห้างเทอร์มินอล 21บริเวณสามแยกเส้นทางนครราชสีมา – ขอนแก่น และรถเกิดเสียหลักจึงลงจากรถและบุกเข้าไปภายในห้าง ผู้ก่อเหตุเกิดอาการคลุ้มคลั่งได้จะใช้อาวูธปืนกราดยิงเข้าใส่ประชาชนที่เดินอยู่รอบบริเวณห้าง ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก โดยเมื่อเวลา 22.30 น.สถานีโทรทัศน์ช่อง 5 รายงานโดยยังไม่ยืนยันว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บที่แน่นอนเท่าใดเพียงแต่รายงานเบื้องต้นคาดว่าจะมีผู้เสียชีวิตจำนวนกว่า 20 คน และบาดเจ็บจำนวนกว่า 30 ราย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลาประมาณ 22.30 น. พล.ต.ราชัน ประจันตะเสน โฆษกกองทัพภาคที่ 2 ให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ช่อง 5 กองทัพบก ว่า จ.ส.อ.จักรพันธ์ ถมมา ผู้ก่อเหตุเป็นเจ้าหน้าที่ประจำกองสรรพาวุธกระสุนที่ 22 กองบัญชาการช่วยรบที่ 2 ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ กองทัพภาคที่ 2 และเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของพ.อ.อนันต์ฐโรจน์ กระแส ผู้ตาย โดยทั้งคู่มีปัญหาส่วนตัวที่นัดไปเจรจาตกลงกันที่บ้านพักผู้ตาย และไม่สามารถตกลงกันไม่ได้ จึงได้บันดาลโทสะใช้อาวุธปืนพกส่วนตัวที่เตรียมมา ยิงพ.อ.อนันต์ฐโรจน์ และนางอนงค์ มิตรจันทร์ ซึ่งเป็นมารดาของพ.อ.อนันต์ฐโรจน์ เสียชีวิต รวม 2 คน “เมื่อก่อเหตุเสร็จ เขาก็แล้วก็กลับไปที่ทำงานกองสรรพวุธกระสุน ที่ 22 และตรงเข้าไปยิงพลทหารซึ่งเป็นเวรรักษาการเสียชีวิตอีก 1 นาย ก่อนจะเข้าไปเอางัดเอาอาวุธปืนและกระสุนจำนวนหนึ่ง โดยได้ยิงทหารเวรอีก 3 นาย ก่อนจะขับรถฮัมวี่หลบหนีออกไป ทางวัดป่าศรัทธาธรรมด้านข้าง โรงเรียนบุญวัฒนา “พล.ต.ราชันกล่าวและว่า ระหว่างการหลบหนีผู้ก่อเหตุได้พบตำรวจที่สะกัดเส้นทางหนีจึงใช้อาวุธปืนยิงเปิดทางทำให้มีผู้บาดเจ็บอีกหลายคน ซึ่งยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่ามีจำนวนเท่าไหร่ ไปจนถึงห้างเทอรมินอล 21 ซึ่งขณะนี้ ผู้บังคับบัญชาระดับสูงไปได้เดินทางไปบัญชาการเหตุการณ์ ทั้งพล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ.ได้เดินทางมาที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยแม่ทัพภาคที่ 2 รองผวจ.นครราชสีมาและผบก.ภ.จว.นครราชสีมา พล.ต.ราชัน กล่าวอีกว่า สำหรับการควบคุมเหตุการณ์นั้น ผู้บังคับบัญชาได้สั่งการให้ดูแลความปลอดภัยของประชาชนเป็นหลัก และขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่า มีประชาชนติดอยู่ภายในห้างเท่าไหร่ เพราะทีวีและสื่อทั้งหมดนั้น ผู้ก่อเหตุอาจกำลังติดตามดูอยู่ โดยขอให้ประชาชนอยู่ในที่พัก ไม่จำเป็นอย่าออกไปไนรัศมี 2 กม. โดยเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายจะปฏิบัติการตามขีดความสามารถต่อไป
