หนุ่มอ้วนวูบตกบันไดดับขณะมาเอาข้าวจี่-ขนมปัง ที่พี่สาวนำมาวางไว้ให้ขึ้นไปกินบนบ้าน

/////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////

*****เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 23 พฤศจิกายน 2565 ขณะที่ พ.ต.ต.สถิตย์ ภูบังแสง สว.สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ปฏิบัติหน้าที่อยู่บนโรงพัก รับแจ้งจากศูนย์วิทยุร่มโพธิ์ทองว่า มีเหตุชายวัยกลางคนวูบพลัดตกบันไดบ้านเสียชีวิต เหตุเกิดที่บันไดบ้านเลขที่ 136/6 ซ.สนิท ชุมชนวัดโพธิสมภรณ์ ถ.ศรีสุข ต.หมากแข้ง เขตเทศบาลนครอุดรธานี จึงออกไปตรวจสอบพร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.ศูนย์อุดรธานี อาสากู้ภัยมูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรมสถาน

*******ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ยกพื้นสูง และมีบันได 6 ขั้น พบญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านของผู้ตายกำลังยืนดูศพ นายไพรัช แสนสุข อายุ 50 ปี หรือเข่ง ที่มีร่างกายอ้วนมาก น้ำหนักประมาณ 100 กิโลกรัม นอนหงายเสียชีวิตอยู่พื้นหน้าบันได ตรวจสอบสภาพศพไม่พบร่องรอยต่อสู้และถูกทำร้าย เสียชีวิตจากภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันมาประมาณ 1 ชั่วโมง และพบรอยปัสสาวะผู้ตายราดกางเกงและบนพื้น นอกจากนี้ยังพบถ้วยอาหารที่พี่สาวผู้ตายนำใส่ถ้วยมาวางไว้ให้ผู้ตายบนหัวบันได วางอยู่หน้าบันไดบนบนพื้นบ้าน เป็นข้าวจี่ทาไข่และขนมปัง ที่ผู้ตายยังไม่มีร่องรอยการกินเลย ญาติไม่ติดใจสาเหตุ เนื่องจากผู้ตายมีโรคประจำตัวหลายโรค เช่น โรคเบาหวาน ความดัน และไต จึงมอบศพให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี

********สอบสวนนางนงคราญ เจริญยิ่ง อายุ  62 ปี พี่สาวผู้ตาย ให้การว่า น้องชายมีอาชีพเก็บของเก่าขาย ทุกเช้าตนจะเอาอาหารมาให้น้องชายคนเล็กกิน เพราะน้องชายมีโรคประจำตัวอยู่หลายโรค กระทั่งเช้านี้ตนได้เรียกน้องชายที่พักอาศัยอยู่บ้านใกล้กันลงมาเอาข้าวจี่กับขนมปัง ซึ่งตนได้เอาไปว่างไว้อยู่ตรงหัวราวบันได โดยน้องชายตนอยู่บนบ้าน ตนไม่รู้ว่าน้องลงมาเอาตอนไหน จากนั้นตนก็ไปทำงานบ้านอย่างอื่นตามปกติ และไม่ได้สนใจ

*******”พอกลับมาดูน้องตอน 10.00 น. พบว่าน้องชายนอนหงายเสียชีวิตอยู่ที่พื้นหน้าบันได สาเหตุตนคิดว่าโรคประจำตัวกำเริบ เช่นโรคเบาหวาน ความดัน ทำให้หน้ามืดแล้วพลัดตกจากบันไดลงมาเสียชีวิต ซึ่งน้องอาศัยอยู่บนบ้านหลังนี้คนเดียว ไม่มีครอบครัว หลังจากเมื่อประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา น้องชายเป็นโควิด จึงแยกตัวมาอยู่พักรักษาตัวที่บ้านหลังนี้คนเดียว ก่อนจะมาเสียชีวิตในวันนี้”

******ด้านนางพิสมัย เรียนนา อายุ 59 ปี เพื่อนบ้าน เล่าว่า ตนและครอบครัวผู้ตายรักกันเหมือนพี่น้อง ก่อนที่จะได้รับข่าวร้ายผู้ตายเสียชีวิตลงวันนี้ เนื่องจากผู้ตายมีโรคประจำตัวอยู่หลายโรค และได้พูดคุยกันกับผู้ตายเมื่อเดือนที่แล้ว หลังผู้ตายไปรับยาที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี และเมื่อ 3 คืนที่ผ่านมา ตนได้ยินเสียงสุนัขในซอยส่งเสียงเห่าหอนรับกันไปมาทั้งคืน โดยเฉพาะเมื่อคืนทีผ่านมา และมีความเชื่อว่าหากมีสุนัขเห่าหอนแบบโหยหวนแบบนี้ จะต้องมีคนในซอยหรือในชุมชนเสียชีวิต เนื่องจากที่ผ่านมาหากมีสุนัขหอนรับกันแบบนี้ทุกครั้งจะต้องมีคนตาย และแล้วก็เป็นความจริงอย่างที่ตนคิดไว้…

////////////////////////////////////////////////

อุดรธานี อธิวัฒน์ พงศภัควิวัฒน์ 0627145169

แสดงความคิดเห็น