สุดทนแล้วเปิดคลิปล่า “ไอ้ตุ๊ก”โจรวันพระขี่จยย.พ่วงข้างลักข้าวเปลือกในโรงเรือนญาติข้ามปี 4 ครั้ง 28 กระสอบ

สุดทนแล้วเปิดคลิปล่า “ไอ้ตุ๊ก”โจรวันพระขี่จยย.พ่วงข้างลักข้าวเปลือกในโรงเรือนญาติข้ามปี 4 ครั้ง 28 กระสอบ

สุดทนแล้วเปิดคลิปล่า “ไอ้ตุ๊ก”โจรวันพระขี่จยย.พ่วงข้างลักข้าวเปลือกในโรงเรือนญาติข้ามปี 4 ครั้ง 28 กระสอบ ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด

******จากกรณีมีผู้ใช้เฟสบุ๊กชื่อ EK Jarin ได้โพสต์คลิปเตือนภัยโจรขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้าง มาขโมยข้างเปลือกในโรงเรือนของญาติหลายครั้ง เพื่อเตือนภัยสังคมว่า จะต้องอย่างไรกับคนพวกนี้ดี ไม่ใช่ข้าวตัวเอง แอบมาขโมยไปขาย ไม่สงสารคนทำนาเลยหรือไง นี่กลางวันแสกๆ ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก แต่อาจเป็นครั้งสุดท้ายของการกระทำคงไม่มี โอกาสได้กลับตัวกลับใจแล้วมั้ง..คุก คุก คุก มารอบแรก เห็นกล้อง กลับไปหาผ้าคุมกล้อง แต่ขอโทษ กล้องรอบทิศทางค่ะ…saveบ้านเกิดที่ฉันอยู่

******”ทำนาว่าเหนื่อยแล้ว ยังไม่เท่าเหนื่อยใจเกิดที่สวนที่บ้านเอง บ้านหนองแวงพัฒนากุดหมากไฟ ฝากแจ้งเตือนภัยหน่อยนะคะ หลังเก็บเกี่ยวข้าวข้าวเสร็จเอาข้ามาเก็บไว้ที่สวน เพราะมีโรงสี จะมีคนสีข้าวแต่จะหยุดทุกวันพระ และข้าวก็จะหายทุกวันพระตลอด หายช่วงแรกก็ทำกรงล้อมรอบ ก็ยังหายเรื่อยๆ แต่จับไม่ได้ไม่มีหลักฐาน ตัดสินใจติดกล้องวงจรปิด เจอค่ะมื้อวานนี่เอง เจ้าตัวยังปฏิเสธ หายรวมๆเกือบ30กระสอบค่ะ” โดยมีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นและแชร์คลิปปจำนวนมาก

******ต่อมาเมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 4 มกราคม 2566 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นโรงเรือนอยู่ในบริเวณสวนมะม่วงน้ำดอกไม้ ท้ายหมู่บ้านหนองแวงพัฒนา ม.9 ต.กุดหมากไฟ อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี พบกับนายอัมพร เอกพล อายุ 61 ปี ผู้เสียหาย และภรรยาพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ชรบ.และอปพร. ต.กุดหมากไฟ ร่วมกันให้ข้อมูล และกำลังพูดถึงคนร้ายที่เข้ามาขโมยข้าวเปลือกไป มีทั้งข้าวเจ้าหอมมะลิและข้าวเหนียว ภายในโรงเรือนไปรวมจำนวน 28 กระสอบ น้ำหนักกระสอบละ 30 กิโลกรัม ราคากิโลกรัมละ 13.50 บาท รวมมูลค่า 11,340 บาท

******ซึ่งหลังจากฤดูเก็บเกี่ยวผลผลิตในที่นาข้าวรวมทั้งหมด 33 ไร่ ได้ข้าวเปลือกทั้งหมด 400 กระสอบ เก็บไว้ที่โรงเรือนไว้กิน และสีเป็นข้าวสารขายส่งให้กับพ่อค้าในตัวเมืองอุดรธานี และถูกคนร้ายเข้ามาขโมยข้าวเปลือกไปทั้งหมด 4 ครั้ง โดยครั้งแรกเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2565 ขโมยข้าวเปลือกเหนียว จำนวน 8 กระสอบปุ๋ย ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2565 ขโมยข้าวเปลือกจ้าวหอมมะลิ จำนวน 7 กระสอบปุ๋ย ครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2565 ขโมยข้าวเปลือกจ้าวหอมมะลิ จำนวน 7 กระสอบ ผู้เสียหายจึงทำประตูเหล็กตาข่าย และติดกล้องวงจรปิดรอบบริเวณโรงเรือน ทั้งหมด 4 ตัว ในวันที่ 24 ธันวาคม 2565 เพื่อป้องกันและบันทึกภาพคนร้ายที่เข้ามาก่อเหตุไว้เป็นหลักฐาน

******เนื่องจากที่ผ่านมาหลังฤดูเก็บเกี่ยวผลผลิต ชาวบ้านรายอื่นก็ถูกโจรขโมยข้าวเปลือกไปแล้วหลายราย แต่ไม่มีหลักฐานและไม่ทราบว่าเป็นใคร และคนร้ายจะเลือกก่อเหตุเฉพาะวันพระ เพราะชาวบ้านจะไม่สีข้าว และจะไม่ค่อยอยู่ที่โรงเรือนหรือที่เก็บข้าวเปลือก ที่มีเครื่องสีข้าวขนาดเล็ก และเครื่องมือการเกษตร กระทั่งวันที่ 29 คนร้ายได้ขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้างเข้ามาหน้าโรงเรือนผู้เสียหาย เพื่อมาดูลาดเลา และเห็นกล้องวงจรปิด จึงกลับรถขับออกไปอย่างรวดเร็ว และครั้งที่ 4 เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2566 คนร้ายขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้างมาจอดข้างโรงเรือน ก่อนปีนประตูรั้วเหล็กตาข่ายเข้ามาขโมยข้าวเปลือกจ้าวหอมมะลิไป 6 กระสอบปุ๋ย โดยไม่กลัวกล้องวงจรปิดแต่อย่างใด และครั้งนี้ทำให้รู้ตัวคนร้ายที่ไม่ใช่คนอื่นไกล และเป็นญาติห่างๆของผู้เสียหายนั่นเอง ชื่อว่า นายตุ๊ก อายุ 37 ปี ที่กลับมาอยู่บ้านช่วงโควิดระบาดเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา และมาติดเสพยาบ้า และไม่ทำงานเป็นหลักแหล่ง แถมมีนิสัยลักเล็กขโมยน้อยด้วย

********ขโมยแม้กระทั่งปลาของเพื่อนที่ขังไว้ในถังหลังบ้าน ขณะไปหาเพื่อนที่บ้านพัก แต่เพื่อนไม่เอาเรื่องเอาความ เพราะเห็นว่าเป็นคนบ้านเดียวกัน แต่คงไม่กล้าให้นายตุ๊กเข้าไปที่บ้านอีกต่อไป หลังจากเรื่องแดงด้วยคลิปหลักฐาน ผู้เสียหายได้ไปแจ้งผู้ใหญ่บ้าน และตำรวจ สภ.หนองวัวซอ ลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน โดยผู้ใหญ่บ้านได้ไปหาแม่คนร้าย เพื่อเจรจาไกล่เกลี่ยชดใช้ค่าเสียหาย โดยแม่นายตุ๊ก ได้พาผู้ช่วยผู้หใญ่บ้านไปพบกับนายตุ๊กที่กระท่อมนาช่วงหัวค่ำ วันที่ 3 มกราคม 2566 โดยนายตุ๊กสัญญาว่า จะมาตกลงกันที่บ้านผู้ใหญ่บ้านในช่วงเช้า แต่ก็ไม่มา ตำรวจได้ไปหาที่กระท่อมนาก็ไม่พบ คาดว่าคงหลบหนีออกนอกพื้นที่ไปแล้ว ส่วนแม่ของนายตุ๊กก็ไม่รับผิดชอบ เพราะไม่ได้เป็นคนก่อเหตุ ขณะผู้เสียหายคงให้ตำรวจติดตามจับกุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

*******นายอัมพร เอกพล ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า คนร้ายที่ก่อเหตุเป็นญาติห่างๆกัน กลับมาจากไปทำงานที่บางละมุง จ.ระยอง ช่วงโควิด และก็ติดโควิดกลับมาอยู่บ้าน เลยมาเล่นยาเสพติด แล้วก็ไปลักเล็กขโมยน้อย ขนาดตนติดกล้องวงจรปิด แต่ก็ยังไม่กลัว แถมยังเอาผ้ามาคลุมกล้องวงจรปิดที่อยู่โรงจอดรถ แต่ว่าตนติดไว้ทั้งหมด 4 ตัว ทำให้เหลือ 3 ตัว จึงสามารถบันทึกภาพคนร้ายเอาไว้ได้ และจึงนำคลิปหลักฐานไปแจ้งความกฐานให้กับตำรวจ ก่อนไปแจ้งความก็ได้ไปแจ้งผู้ใหญ่บ้านเอาไว้ด้วย ซึ่งให้แม่กับผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านไปเรียกคนร้ายมาคุยกันแล้วรับปากว่าจะมา แต่ก็ไม่ยอมมา ตนเลยไปแจ้งความไว้ ซึ่งตนได้บอกแม่คนร้ายว่าให้ตำรวจเป็นคนดำเนินการไปตามกฎหมายเลย

*******โดยเมื่อคืนวานนี้ตนก็ยังเห็นคนร้ายอยู่ในพื้นที่ แต่เมื่อเช้ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจไปเรียกที่บ้าน แต่ไม่เห็นตัวแล้ว ตนมีศักดิ์เป็นอาของคนก่อเหตุ มีอะไรก็อยากให้กลับมาคุยกันไม่ต้องหนีไปแบบนี้ ถ้ามีคนร่วมทำกันกี่คนก็ให้มาคุยกัน แล้วก็มีของคนอื่นหายไปเหมือนกัน แต่ไม่มีหลักฐาน ส่วนของตนนั้นมีหลักฐานวงจรปิด ซึ่งข้าวเปลือกทั้งข้าวเจ้าข้าวเหนียวของตนที่หายไปทั้งหมด 28 กระสอบ ตนอยากฝากเตือนภัยชาวบ้านว่า

“ให้ช่วยกันสอดส่องดูแลเป็นหูเป็นตาช่วยกัน สำหรับคนร้ายนี้เป็นภัยต่อสังคมคนทำนา เพราะไปที่ไหนก็จะก่อเหตุในจุดนั้นเลย ในเมื่อคนร้ายก็เป็นลูกชาวนา คงรู้อยู่ว่ากว่าจะได้เป็นเม็ดข้าวมาอยู่ในกระสอบมันยากแค่ไหน และลงทุนมามากแค่ไหน และบางคนรู้ว่าทำนามันก็ขาดทุนบ้าง แต่ก็ยังมีเอาไว้ให้ตัวเองได้กิน แล้วทำนากว่าจะได้มามันยาก ก็อย่ามาทำแบบนี้เลย ถ้าอยากกินก็ให้ปลูกเอา แต่ถ้าไม่มีก็มาขอกับตนได้ ซึ่งตนนั้นอยากที่จะประจานเลยว่าข้าวไม่ได้คืน แต่ขอให้ได้ตัวคนลักขโมยมาลงโทษ ถึงจะเป็นคนรู้จักก็จะเอาผิดตามกฎหมายให้ถึงที่สุด”….